‘ทีทีเอ’ รุกอาหาร-โลจิสติกส์ลดเสี่ยง

‘ทีทีเอ’ รุกอาหาร-โลจิสติกส์ลดเสี่ยง

"ทีทีเอ" รุกอาหาร-โลจิสติกส์ลดเสี่ยง มองเดินเรือรายได้ลด-คู่แข่งเพิ่ม 

โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ เพิ่มสัดส่วนรายได้กลุ่มอาหาร-โลจิสติกส์ หวังลดเสี่ยงธุรกิจเดินเรือขาลง-คู่แข่งเพิ่ม เตรียมงบ 300 ล้านลงทุนสตาร์ทอัพเสริมแกร่ง 

นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA กล่าวว่า ผลประกอบการปีนี้จะกลับมาเทิร์นอะราวด์ จากปีขาดทุนต่อเนื่องมา 2 ปีติดต่อกัน เนื่องจากค่าระวางเรือปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ 8,614 ดอลลาร์ต่อวัน ทำให้ครึ่งปีแรกบริษัทพลิกกลับมามีกำไรแล้ว 301.93 ล้านบาท และปีนี้ คาดค่าระวางเรือเฉลี่ย 9,000 ดอลลาร์ต่อวัน จากปีก่อนที่ 5,000 ดอลลาร์ต่อวัน

“ช่วงหลายปีก่อนที่เป็นยุคทองธุรกิจชิปปิ้ง ทำให้มีผู้เล่นรายใหม่เข้าสู่อุตสาหกรรมจำนวนมากจนซัพพลายล้นตลาด กดให้ค่าระวางเรือตกต่ำ และแม้ว่าค่าระวางเรือจะกลับมาดีขึ้น แต่คงไม่มีผู้เล่นรายใหม่เข้ามามากนัก ซึ่งน่าจะทำให้ค่าระวางเรือจะอยู่ในระดับนี้ไปได้อย่างน้อย 2-3 ปีข้างหน้า”

ทั้งนี้ บริษัทเตรียมลดสัดส่วนรายได้ธุรกิจหลักเดินเรือ-บริการวิศวกรรมใต้น้ำ เพราะยากต่อการควบคุมความผันผวนของราคาตลาดโลกทั้งค่าระวางเรือและราคาน้ำมัน 

โดยในปี 2563 สัดส่วนรายได้ของบริษัทจะมาจากเดินเรือ-บริการวิศวกรรมใต้น้ำ 40% อาหารและเครื่องดื่ม 30% เกษตร-ปุ๋ย 20% และอื่นๆ อีก 10% จากปัจจุบันที่มาจากธุรกิจเดินเรือ-บริการวิศวกรรมใต้น้ำ 60% เกษตร-ปุ๋ย 20% อาหารและเครื่องดื่ม 15% ที่เหลือเป็นธุรกิจอื่น ๆ 

ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเข้าลงทุน-ซื้อกิจการหลายดีล โดยจะเน้นธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม โลจิสติกส์ รวมถึงที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐาน คาดจะมีข้อสรุปเร็ว ๆ นี้ กำหนดนโยบายการลงทุนต้องมีผลตอบแทน (IRR) 2 หลักขึ้นไป

นอกจากนี้ ยังสนใจลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพ ซึ่งจัดสรรงบไว้ 300 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาโอกาสลงทุน โดยจะไม่จำกัดประเภทของธุรกิจ