เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 16 ส.ค. 60 ที่บริเวณสี่แยกหนองสองห้อง อ.เมืองหนองคาย ทางเข้าตัวเมืองหนองคาย ได้มีเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพฉุกเฉิน จอดรถขวางหน้ารถกระบะโตโยต้า วีโก้ แบบแค็บ สีบรอนด์ ทะเบียน ผฉ 7572 ขอนแก่น ซึ่งรถกระบะคันนี้จอดรถอยู่ในช่องย้อนศรผิดเลนจราจร มาอยู่ในเลนขวา แทนที่จะอยู่เลนซ้าย โดยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพพยายามเกลี้ยกล่อมให้คนขับรถ ทราบชื่อภายหลังคือ นายวิษณุกร สาระสิทธิ์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 172 หมู่ 8 ต.ค่ายบกหวาน อ.เมืองหนองคาย ซึ่งมีท่าทางมึนเมาให้ลงจากรถ เนื่องจากเกรงจะเกิดอันตราย แต่เกลี้ยกล่อมอย่างไรก็ไม่เป็นผล นายวิษณุกร ไม่ยอมลงจากรถท่าเดียว รถยนต์ที่สัญจรมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองหนองคาย ต้องเบี่ยงรถหลบเป็นจำนวนมาก ระหว่างนั้นได้มี ร.ต.ท.สมัย คูณสวัสดิ์ รองสารวัตรตำรวจน้ำหนองคาย ขับรถผ่านมาพอดี จึงได้จอดรถเข้ามาช่วยตรวจสอบ นายวิษณุกร เห็นว่าเป็นตำรวจจึงยอมลงจากรถแต่โดยดี และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ช่วยขับรถออกจากช่องทางการจราจรเปิดให้รถสัญจรได้ตามปกติ
เมื่อลงจากรถได้แล้ว นายวิษณุกร เล่าว่า ตนขับรถให้บริษัททัวร์แห่งหนึ่ง ปกติจะขับรถพานักท่องเที่ยวไปเที่ยวใน สปป.ลาว ซึ่งในลาวนั้นจะขับรถเลนขวา ส่วนไทยขับเลนซ้าย โดยวันนี้เพิ่งเสร็จจากขับรถในลาวได้ดื่มสุราจนมึนเมาก่อนจะเดินทางกลับเข้ามาในจังหวัดหนองคาย และสับสนกับเลนจราจร นึกว่าตนเองยังขับรถอยู่ในลาวอยู่จึงได้ขับเลนขวา กลายเป็นว่าขับย้อนศรไป
ด้าน นายวัชรพงษ์ ราชบุรี เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพฉุกเฉิน กล่าวว่า ขณะขับรถมาตามถนนเลี่ยงเมืองหนองคาย – เวียงจันทน์ บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย พบรถกระบะคันนี้จอดไม่ชิดไหล่ทาง โดยคนขับฟุบอยู่คาพวงมาลัย จึงได้จอดรถลงไปตรวจสอบและพยายามเรียกให้เปิดรถ แต่คนขับพอฟื้นขึ้นมาก็ขับรถย้อนศรสวนเลนออกไป พวกตนจึงขับรถตามเกรงจะเกิดอันตราย จนมาถึงสี่แยกหนองสองห้อง ระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร รถกระบะจึงขะลอความเร็วและจอด พวกตนจึงได้ขับขวางหน้าไว้ เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินเป็นสัญลักษณ์เกรงว่ารถคันอื่นจะมาชนเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ให้นายวิษณุกร นั่งพักจนสร่างเมา อาการดีขึ้น และตามญาติมาพากลับบ้านต่อไป
