‘ไอร์แลนด์’ แดนสวรรค์เชฟ-นักชิมอาหารมิชลิน

แม้หลายคนจะมีโอกาสสัมผัสกับอาหารรสเลิศไม่เป็นรองใครได้จากร้านอาหาร 5 ดาวตามเมืองต่าง ๆ ของไอร์แลนด์ แต่จะพบว่ารสชาติความอร่อยขนานแท้ยังหารับประทานได้แม้แต่ในผับบาร์ ตัวอย่างเช่น เมนูชวนน้ำลายสออย่างหอยแมลงภู่นึ่งหรือสตูว์ไอริชรสชาติจัดจ้านที่ล้วนเสิร์ฟมาในชามใหญ่จุใจ นอกจากนั้น ประเทศนี้ยังถือเป็นสวรรค์สำหรับเหล่าเชฟต่างชาติที่มาเปิดร้านอาหารที่นี่

“ไอร์แลนด์เป็นประเทศที่สุดยอดมาก” เดเมียน เกรย์ เชฟผู้เกิดในเมืองเมลเบิร์นของออสเตรเลีย เจ้าของร่วมร้านอาหารเฮรอน แอนด์ เกรย์ในกรุงดับลินของไอร์แลนด์กล่าว และว่า “ไอร์แลนด์กำลังคลั่งไคล้เรื่องอาหารอย่างมากในตอนนี้ อีกทั้งยังมีเชฟรุ่นใหม่จำนวนมากแจ้งเกิดในวงการ และทำอาหารที่แหวกแนวฉีกทุกกฎ”

นับตั้งแต่ปี 2554 มีร้านอาหาร 15 แห่งทั่วไอร์แลนด์ได้รับการรับรองเป็นร้านระดับ “มิชลินสตาร์” แห่งใหม่ ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นมากถึง 3 เท่าเทียบกับช่วงที่อุตสาหกรรมอาหารของประเทศซบเซาเมื่อยุคทศวรรษที่ 70

สำหรับมิชลินสตาร์เป็นมาตรฐานสากลในการวัดคุณภาพของร้านอาหารนั้น ๆ นอกจากความอร่อยแล้ว ยังรวมถึงเกณฑ์อื่น ๆ อีก เช่น เทคนิคการทำอาหาร ลักษณะเฉพาะตัวของอาหาร ความเสมอต้นเสมอปลายของรสชาติ การตกแต่งอาหาร การจัดโต๊ะ ความสะอาด บรรยากาศ และการบริการด้วย

เกรย์และหุ้นส่วนธุรกิจของเขา แอนดรูว์ เฮรอน เปิดร้านอาหารขนาดเล็กที่มีเก้าอี้ให้นั่งเพียง 24 ที่ในย่านแบล็คร็อค พื้นที่ชานเมืองติดทะเลของกรุงดับลินเมื่อปี 2558 และภายในปีเดียว ร้านของพวกเขาก็ได้รับการรับรองเป็นระดับมิชลินสตาร์เป็นครั้งแรก

“เราจริงจังอย่างมากกับการเลือกวัตถุดิบ แต่เราไม่ได้ทำร้านให้ดูจริงจังมากเกินไป” เฮรอนเผย และเสริมว่า บริการของร้านเป็นไปอย่างสนิทสนมและกันเองกับลูกค้าอย่างมาก

นอกจากนั้น แม้จะเป็นร้านระดับมิชลินสตาร์ แต่ราคาอาหารของร้านนี้ก็ไม่สูงเกินเอื้อมถึง โดยเมนูอาหารในช่วงหน้าร้อนมีราคาสมน้ำสมเนื้ออยู่ที่ 63 ยูโร (ราว 2,426 บาท) จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่า เหตุใดร้านอาหารเฮรอน แอนด์ เกรย์ ถึงกลายเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในไอร์แลนด์ เพราะร้านมีคิวจองโต๊ะยาวจนถึงสิ้นปีนี้แล้ว!

โชคดีที่ในไอร์แลนด์ยังมีร้านอาหารใหม่อีกหลายแห่งให้ได้ลิ้มลอง และต่อไปนี้คือ 5 ร้านอาหารรสเลิศในไอร์แลนด์ที่อาจทำให้หลายคนถึงกับอดใจไม่ไหวได้

1. มัลเบอร์รี การ์เดน (กรุงดับลิน)

เว็บไซต์ทริปแอดไวเซอร์จัดอันดับให้ร้านมัลเบอร์รี การ์เดนเป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดในไอร์แลนด์เมื่อปี 2559 โดยร้านแห่งนี้เปิดให้บริการเพียง 3 คืนต่อสัปดาห์เท่านั้น ทำให้บรรดาเชฟและพนักงานมีสมาธิกับการรักษามาตรฐานของอาหารและการบริการซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าจำนวนมาก โดยร้านนี้ตั้งในย่านดอนนีบรูค ชานกรุงดับลิน

2. ฟอเรสต์ แอนด์ มาร์ซี (กรุงดับลิน)

ร้านฟอเรสต์ แอนด์ มาร์ซี ดัดแปลงอาหารคลาสสิกแบบไอริชเป็นเมนูสัญลักษณ์ประจำร้านอย่างขนมปังมันฝรั่งหมัก เสิร์ฟพร้อมกับกะหล่ำปลีซาวอยและเกล็ดขนมปังกรอบ แต่ร้านนี้ไม่รับจองโต๊ะ คนที่อยากไปลิ้มลองอาหารที่นี่คงต้องไปเสี่ยงรอคิว หรืออาจไปลองร้านอาหารในเครือเดียวกันอย่าง “ฟอเรสต์ อะเวนิว”

3. เดอะ กรีนเฮาส์ (กรุงดับลิน)

มิกกาเอล วิลยาเนน เชฟชาวฟินแลนด์ อดีตหัวหน้าเชฟที่โรงแรมเกรแกนส์ คาสเซิลในเขตแคลร์ ถ่ายทอดฝีมือการทำอาหารสไตล์ยุโรปเหนือ (นอร์ดิก) ที่ร้านเดอะ กรีนเฮาส์ บนถนนดอว์สันในกรุงดับลิน โดยเมนูแต่ละจานของร้านนี้จะผสมผสามส่วนที่ดีที่สุดของอาหารแบบไอริชและสแกนดิเนเวีย

4. โลม (กัลเวย์)

เอนดา แมคอีวอย คว้ารางวัลด้านการทำอาหารมาแล้วหลายรางวัล นับตั้งแต่เปิดร้านอาหารและบาร์ไวน์แห่งนี้ในใจกลางเมืองกัลเวย์เมื่อปี 2557 นอกจากนั้น โลมได้รับตรามิชลินสตาร์ในปี 2558 และเมื่อปีที่แล้ว แมคอีวอยยังได้รับรางวัลเชฟยอดเยี่ยมในไอร์แลนด์จากเวทีประกาศรางวัล “ไอริช เรสเตอรองต์ อวอร์ดส์” ด้วย ส่วนเมนูอาหารของร้านเปลี่ยนแปลงทุกวันขึ้นอยู่กับผลิตผลตามฤดูกาลในท้องถิ่น ซึ่งในฤดูร้อนอาจมีเมนูอย่างตับปลามังค์ฟิชที่เสิร์ฟคู่กับถั่ว และโยเกิร์ตที่เสิร์ฟพร้อมกับใบวูดรัฟฟ์

5. ไค (กัลเวย์)

ปลาแท่งชุบแป้งทอด (ฟิชฟิงเกอร์) ที่เสิร์ฟกับนมเปรี้ยวและเศษเกล็ดขนมปังเป็นอาหารจานเด็ดของร้านอาหารไค ที่ดูแลกิจการโดยเชฟเจสสิกา เมอร์ฟี ชาวนิวซีแลนด์และสามีของเธอ เดวิด ขณะที่เมนูขนมหวานทำให้ลูกค้าได้สัมผัสถึงวัยเด็กของคนท้องถิ่น เช่น ช็อกโกแลตแองเจิล ดีไลท์และเกรปฟรุต

นอกจากร้านอาหารรสเลิศเหล่านี้แล้ว ไอร์แลนด์ยังสร้างชื่อเสียงในต่างแดนหลังเชฟชาวไอริชหลายคนไปคว้ารางวัลบนเวทีระดับโลก จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมร้านอาหารรุ่นใหม่มากหน้าหลายตาถึงผุดขึ้นทั่วทุกสารทิศทั้งเหนือ ใต้ ตะวันออก และตะวันตกของประเทศ