SIRI - ซื้อเก็งกำไร

SIRI - ซื้อเก็งกำไร

กำไรไตรมาส2/60 สูงกว่าทุกคาดการณ์แนวโน้มดีในไตรมาส3/60

กำไรหลักสูงกว่าทุกคาดการณ์

SIRI รายงานกำไรหลักไตรมาส 2/60 ที่ 786 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% YoY และ 21% QoQ กำไรดังกล่าวสูงกว่าที่ตลาดคาด 9% และสูงกว่าที่เราคาด 15% เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจอสังหาฯเพื่อขายที่สูงกว่าคาด (อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 33.6% เทียบกับที่เราคาดที่ 31.5%) อย่างไรก็ตามหากรวมรายการพิเศษจากกำไรจากการขายที่ดิน 19 ล้าน
บาท กำไรสุทธิจะอยู่ที่ 806 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% YoY และ 58% QoQ

SIRI ประกาศจ่ายเงินปันผลต่อหุ้นระหว่างกาลที่ 0.05 บาทสำหรับผลการดำเนินงานในครึ่งแรกของปี 2560 คิดเป็นอัตราผลลตอบแทนเบื้องต้น 2.4% โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 25 ส.ค.และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 8 ก.ย.


ประเด็นหลักผลประกอบการ

กำไรหลักที่เติบโตดี YoY ส่วนใหญ่มาจากอัตรากำไรหลักที่ขยายตัวขึ้นมาก (เพิ่มขึ้นจาก 7.5% ในไตรมาส2/59 มาอยู่ที่ 9.3% ในไตรมาส 2/60) และกำไรที่ปรับตัวสูงขึ้น QoQ มาจากการเติบโตของรายได้จากธุรกิจที่อยู่อาศัย รายได้จากที่อยู่อาศัยเท่ากับ 7.5 พันล้านบาทในไตรมาส2/60 (แบ่งเป็นโครงการคอนโด 54% และโครงการบ้านแนวราบ 46%) เพิ่มขึ้น 2% YoY และ 31% QoQ โดยรายได้โครงการบ้านแนวราบเติบโตแข็งแกร่งอยู่ที่ 15% YoY และ 56% QoQ ในขณะที่ยอดขายโครงการคอนโดปรับตัวลดลง 6% YoY แต่เพิ่มขึ้น 16% QoQ สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นธุรกิจที่อยู่อาศัยขยายตัวจาก 30.9% ในไตรมาส 2/59 (เป็นช่วงที่มีกลยุทธ์ราคาเพื่อเร่งระบายสินค้าคงคลัง) มาอยู่ที่ 33.5% ในไตรมาส2/60 แต่ลดลงเล็กน้อยจาก 34.2% ในไตรมาส1/60 สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายปรับตัวลดลงมากจาก 19.2% ในไตรมาส2/59 และ 17.1% ในไตรมาส1/60 มาอยู่ที่ 16.4% ในไตรมาส2/60 ทั้งนีส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วมทุนปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 99 ล้านบาท ในไตรมาส 2/60 จาก 53 ล้านบาทในไตรมาส2/59
และ 85 ล้านบาทในไตรมาส1/60 อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนสุทธิทรงตัว QoQ อยู่ที่ 1.3 เท่าในปลายเดือนมิ.ย.

แนวโน้ม

กำไรหลักไตรมาส3/60 น่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น YoY เนื่องจากฐานต่ำในไตรมาส3/59 ที่ 575 ล้านบาท (ต่ำที่สุดในปี 2559) อัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจที่อยู่อาศัยในไตรมาส3/60 น่าจะขยายตัว YoY จากฐานต่ำที่เพียง 31.1% ในไตรมาส3/59 โดยรายได้จากธุรกิจที่อยู่อาศัยในไตรมาส3/60 น่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น YoY ทั้งนี้กำไรหลักไตรมาส3/60 จะปรับตัวเพิ่มขึ้น
QoQ ได้เช่นกันจากส่วนแบ่งกำไรจากกธุรกิจร่วมทุนน่าจะดูดีขึ้น โดยโครงการ The LINE จตุจักร-หมอชิต (มูลค่าโครงการ 5.9 พันล้านบาท, ยอดจองเต็มแล้ว) มีกำหนดการเริ่มโอนในปลายไตรมาส3/60 และโอนอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส4/60

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

เรายังคงประมาณการกำไรปี 2560 ตามเดิม เนื่องจากกำไรหลักครึ่งแรกของปี 2560 คิดเป็น 40% ของที่เราคาดการณ์และคิดเป็น 42% ของที่ตลาดคาดคาด โดยเราคงประมาณการกำไรหลักเติบโต 8% ในปี 2560 และ 14% ในปี 2561 เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ขยายตัว, สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายที่ลดลง, และส่วนแบ่งกำไรจากโครงการคอนโดร่วมทุนพลิกกลับจากขาดทุนในปี 2559 เป็นกำไรในปี 2560 และเพิ่มขึ้นอีกในปี 2561 ทั้งนี้เรา ประมาณการรายได้ที่อยู่อาศัยเชิงแบบอนุรักษ์นิยมที่ 2.7 หมื่นล้านบาทในปี 2560 (ต่ำกว่าเป้าหมายบริษัทที่ 2.8 หมื่นล้านบาท) ซึ่งยอดขายรอรับรู้รายได้ ณ สิ้นเดือน มิ.ย คิดเป็น 77% ของงที่เราประมาณการ

เราคาดการเปิดตัวโครงการใหม่ในไตรมาส3/60 จะมีมูลค่ามากกว่า 1 หมื่นล้านบาท (จากทเดิมแผนบริษัทตั้งไว้ก่อนหน้านี้ 4.5 พันล้านบาท) โดยจะมีการเปิดตัวโครงการคอนโด 3แห่งมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาทในไตรมา 3/60 โดยเป็นโครงการคอนโด 1 แห่งบริษัทเป็นเจ้าของและอีก 2 แห่งเป็นโครงการคอนโดร่วมทุน (Monument ทองหล่อ โครงการคอนโดร่วมทุน 50% กับ BTS และ Taka Haus โครงการคอนโดร่วมทุน 70% กับ Tokyo Corporation) โดยการเปิดตัวโครงการที่มากกว่าแผนเดิมจะหนุนยอดจองซื้อไตรมาส3/60 ให้เติบโตได้ YoY และ QoQ ทั้งนี้บริษัทน่าจะสามารถรายงานอัตรากำไรหลักให้มีตัวเลสองหลักได้ตั้งแต่ในปี 2560 เป็นต้นไป และดีต่อเนื่องในปี 2561 เนื่องจากการลงทุนในโครงการคอนโดร่วมทุนจะเริ่มออกดอกออกผลอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้เรายังคงคำแนะนำ ซื้อเก็งกำไร ด้วยราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2560 ที่ 2.30 บาท อ้างอิงจากเป้าหมายค่า PER ที่ไม่เปลี่ยนแปลงที่ 9.0 เท่า โดยมูลค่าหุ้นยังคงถูกมาก เนื่องจาก SIRI ซื้อขายใกล้เคียงกับระดับมูลค่าทางบัญชีที่ ปี 2560 ที่ 2.10 บาทต่อหุ้น และมีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลคาดการณ์ที่สูงถึง 6.6% สำหรับปี 2560