จนท. และชาวบ้าน พบหลักฐานใหม่ รองเท้าทำงาน-รองเท้าแตะ คาดโยงคดี "ผอ.อ้อย" ใกล้กับเขตรอยต่อ 3 ประเทศ เดินเท้าระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร
ญาติของ น.ส.จฑาภรณ์ อุ่นอ่อน ผู้อำนวยการกองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ที่หายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำกว่า 1 เดือน พร้อมด้วยชาวบ้านและตำรวจชุดสืบสวน ได้เดินเท้าเข้าไปค้นหาเบาะแสการหายตัวไปของเธอ ที่ป่าช่องบก จ.อุบลราชธานี หลังมีชาวบ้านพบรถยนต์ต้องสงสัยวิ่งเข้าออกก่อนที่มีข่าวว่าเธอหายตัวไป การเข้าไปค้นหาในวันนี้ทำให้ชาวบ้านไปพบกับหลักฐานที่เชื่อว่าเป็นของผู้สูญหาย ที่น่าจะเสียชีวิตไปแล้ว
รองเท้าทำงานและรองเท้าแตะของผู้หญิง ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านพบที่บริเวณลำห้วยไฮกับ ลำห้วยเม็ก บนทางขึ้นช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ทำให้เชื่อว่า บริเวณนี้น่าจะเป็นจุดที่นางสาวจุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน ซึ่งญาติเชื่อน่าจะเสียชีวิตแล้ว ได้ถูกคนร้ายนำร่างมาทิ้งไว้ เพราะพื้นที่โดยรอบเป็นป่าที่อยู่ใกล้กับเขตรอยต่อ 3 ประเทศ คือ ไทย ลาว และกัมพูชา ประกอบกับพื้นที่ป่า ไม่ค่อยมีชาวบ้านมาใช้ประโยชน์ มีเพียงเจ้าหน้าที่ที่ชำนาญในพื้นที่เท่านั้น จึงจะสามารถเข้าออกโดยไม่หลงทางได้
การพบหลักฐานในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ชาวบ้าน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ระดมกำลังกันหาเบาะแสของ น.ส.จุฑาภรณ์ จากคำบอกเล่าของชาวบ้านที่เข้ามาหาของป่า ได้สังเกตเห็นรถยนต์ต้องสงสัย ขับเข้ามาในป่าแห่งนี้ ต่อมาชาวบ้านอ้างว่าได้กลิ่นเหม็นคล้ายซากศพ ซึ่งเป็นบริเวณเดียวกันที่ตำรวจตรวจสอบพบว่า สัญญาณโทรศัพท์มือถือของนางสาวจุฑาภรณ์ ปรากฎอยู่เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะไม่มีใครติดต่อเธอได้อีกเลย
จากการตรวจสอบพื้นที่พบว่า ถนนทางเข้าไปยังจุดที่พบรองเท้า เป็นป่ารกและเข้าไปได้เพียงทางเดียว นายวิโรจน์ อ่อนมาศ์ รอง ผบ.ชุดปฏิบัติงานพิเศษ ที่ดูแลพื้นที่ป่าช่องอานม้า ช่องบก บอกว่า เป็นทางที่เข้าออกง่าย ไม่มีจุดตรวจ และเป็นจุดเจ้าหน้าที่ดูแลไม่ทั่วถึง หากมีการนำศพมาทิ้งจริง กว่าที่จะมีคนมาพบ ก็ต้องใช้เวลานาน
โดยการเดินเท้าระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร จนนำไปสู่การพบหลักฐานใหม่ชิ้นสำคัญ ทำให้ญาติของผู้สูญหาย เริ่มมีความหวังว่า จะเจอร่างของนางสาวจุฑาภรณ์มากขึ้น
สำหรับความคืบหน้าทางคดี ตำรวจยังคงเร่งหาหลักฐาน โดยเฉพาะจากกล้องวงจรปิด ตามเส้นนทางที่คาดว่าคนร้ายใช้เป็นเส้นทางการนำร่างไปทิ้ง เพื่อยืนยันว่าในวันที่นางสาวจุฑาภรณ์หายตัวไป เพื่อมัดตัวผู้กระทำความผิด จากข้อมูลเชิงลึก พบว่า ผู้ก่อเหตุมีมากกว่า 1 คนและมีการวางแผนไว้เป็นอย่างดี