LH - ซื้อเก็งกำไร

LH - ซื้อเก็งกำไร

กำไรหลักไตรมาส 2/60 ทำสถิติสูงสุดใหม่ – กำไรและเงินปันผลดีกว่าทุกคาดการณ์

ผลประกอบการดีกว่าที่เราและตลาดคาด

LH ประกาศกำไรหลักทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 2.6พันล้านบาทในไตรมาส 2/60 สูงขึ้น 27% YoY และ 44% QoQ โดยกำไรหลักสูงกว่าที่เราคาด 21% และสูงกว่าที่ตลาดประเมิน 14% เนื่องจากรายได้จากการขายอสังหาฯ ประเภทที่อยู่อาศัยสูงกว่าประมาณการของเรา 7% และอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจอสังหาฯ เพื่อขายสูงกว่าที่เราคาด 330 bps ทั้งนี้หากรวมกำไรพิเศษหลังหักภาษี 998 ล้านบาทจากการขายโรงแรม แกรนดื เซ็นเตอร์พอยท์ ราชดำริให้กับ REIT ในไตรมาส 2/60 กำไรสุทธินั้นทำจุดสูงสุดในประวัติกาลเช่นกันที่ 3.6 พันล้านบาท พุ่งขึ้น 37% YoY และ 103% QoQ

LH ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.4 บาท/หุ้นสำหรับการดำเนินงานในครึ่งแรกของปี 2560 (สูงกว่าที่เราคาดไว้ที่ 0.35 บาท) ซึ่งคิดเป็นอัตราผลตอบแทนเบื้องต้น 4% โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 23 ส.ค. และจะจ่ายจริงในวันที่ 6 ก.ย.

ประเด็นหลักผลประกอบการ

กำไรหลักดีงามหนุนโดยรายได้จากการขายอสังหาฯ ประเภทที่อยู่อาศัยที่ทำสถิติสูงสุดในประวัติกาล, อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจอสังหาฯ สูงขึ้น และอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายลดลง โดยรายได้จากการขายอสังหาฯ สูงขึ้น 28% YoY และ 44% QoQ มาอยู่ที่ 9.2 พันลานบาท (62% จากโครงการแนวราบ, 38% จากโครงการ คอนโด) รายได้จากโครงการคอนโดเพิ่มขึ้น 131% YoY และ 106% QoQ หนุนโดยโครงการ 333 Riverside and The Bangkok Sathorn ขณะที่รายได้จากโครงการแนวราบทรงตัว YoY แต่สูงขึ้น 22% QoQ อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจอสังหาฯ ขยายตัว 90 bps YoY และ 110 bps QoQ มาอยู่ที่ 36.3% อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายลดลง 220 bps YoY และ 270 bps QoQ มาอยู่ที่ 10.8% ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลง 6% YoY (กำไรของ LHBANK และ QH ลดลง) แต่สูงขึ้น 9% QoQ สัดส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนสุทธิทรงตัว QoQ ที่ 0.8 เท่า

แนวโน้ม

เราคาดกำไรหลักไตรมาส 3/60 เติบโต YoY แต่เมื่อเทียบ QoQ นั้นไม่น่าจะสูงกว่าตัวเลขกำไรหลักที่ทำสถิติสูงสุดในไตรมาส 2/60 ไปได้ โดยรายได้จากการขายอสังหาฯ น่าจะเติบโตแกร่ง YoY แต่ทรงตัว QoQ หนุนโดยยอดขายโครงการแนวราบ และยอดขายรอที่รอรับรู้รายได้ของโครงการคอนโด โดยบริษัทจะเริ่มโอนโครงการ The Key Charoen Rat
ในไตรมาส 3/60 (โครงการมูลค่า 3 พันล้านบาท จองแล้ว 59%) อีกทั้งยังมีลุ้นกำไรสุทธิที่เติบโตมากกว่ากำไรหลักจากกำไรจากที่ LH ลดสัดส่วนการถือหุ้น LHBANK ที่จะช่วยหนุนกำไรสุทธิไตรมาส 3/60

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

LH เป็นบริษัทที่มีความเสี่ยงต่อการถูกปรับลดประมาณการกำไรปี 2560 น้อยที่สุดในกลุ่ม เนื่องจากกำไรหลักในครึ่งแรกของปี 2560 คิดเป็น 51% ของประมาณการทั้งปีของเรา และคิดเป็น 60% ของที่ตลาดประเมิน ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดในกลุ่มฯ ทำให้เรายังคงประมาณการกำไรปี 2560 เท่าเดิม แต่เรามองว่ามีอัพไซด์ต่อประมาณการปี 2561 ของทั้งเราและตลาด หากยอดขายโครงแนวราบทำได้ดีกว่าคาด

คำแนะนำ

กำไรไตรมาส 2/60 ที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ดังข้างต้นและเงินปันผลระหว่างกาลที่ออกมาดีงามกว่าทุกคาดการณ์นั้น จะสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดและจะเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นอย่างแน่นอนในระยะสั้น โดย LH มีโอกาสที่จะบรรลุเป้าหมายแผนธุรกิจปี 2560 (ทั้งด้านยอดจองซื้อและกำไร) กิจกรรมเปิดตัวโครงการใหม่จะเริ่มขึ้นในครึ่งหลังของปี 2560 เป็นอย่างมากและโดยเฉพาะในปี 2561 ส่งผลให้ยอดจองซื้อในอนาคตดูน่าตื่นเต้นขึ้นอีก เราเชื่อว่า LH จะมีตารางเปิดตัวโครงการแนวราบอย่างหนาแน่นในปี 2561 ซึ่งจะหนุนให้รายได้โครงการแนวราบเติบโตอย่างน้อย 10% ซึ่งจะช่วยชดเชยรายได้โครงการคอนโดที่ชะลอตัว โดยมูลค่าหุ้นปัจจุบันยังไม่แพง โดยหุ้นถูกซื้อขายด้วย PER ปี 2560 ที่ 13.4 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระหว่างปี 2549-2559 9% เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” (โดยให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2560 ที่ประเมินด้วยวิธี SOTP ที่ 10.8 บาท คิดจาก PER เป้าหมายสำหรับกลุ่มอสังหาฯ เพื่อขายที่ 15 เท่า ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยระหว่างปี 2549-2559, และมูลค่าการลงทุนตามมูลค่าอยู่ที่ 3.8 บาท/หุ้น)