ย้ำทัพเรือซื้อขีปนาวุธโครงการเดิม ไม่ได้ใช้งบกลาง

ย้ำทัพเรือซื้อขีปนาวุธโครงการเดิม ไม่ได้ใช้งบกลาง

"ประยุทธ์" แจงทัพเรือซื้อขีปนาวุธตามโครงการเดิม ไม่ได้ใช้งบกลางเพิ่มเติม ยันกลาโหมไม่ได้งบเพิ่มมากกว่ากระทรวงอื่น ซัดมีอาวุธสัปปะรังเคจะร่วมฝึกกับใครได้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช.) ให้สัมภาษณ์ชี้แจงถึงกรณีที่กองทัพเรือยอมรับว่า ซื้อขีปนาวุธปล่อยนำวิธี ฮาร์พูน บล็อค ทูว์ 1 ลูก เพื่อติดตั้งบนเรือฟรีเกต ว่า เป็นโครงการที่อยู่ในงบประมาณประจำปีอยู่แล้วไม่ได้มาเพิ่มเติมในงบกลางแต่อย่างใด เป็นเรื่องที่เราให้เค้าต่อเรือฟริเกต เพราะมีความจำเป็นในการดูแลอธิปไตยของประเทศ เพราะว่าเรือเก่าของเราก็เก่ามากแล้ว ก็ต้องทยอยต่อไปเรื่อย ๆ เท่าที่เรามีงบประมาณ และตามความจำเป็น ทั้งนี้งบประมาณสำหรับการต่อเรื่องฟรีเกต รวมถึงระบบอาวุธยุทโธปกรณ์ด้วย วันแรกที่ตนปฏิเสธบอกว่าไม่รู้ว่ามีการซื้อนั้น เพราะโครงการมันอยู่ในเรื่องเดิมอยู่แล้ว ตนก็จำไม่ได้ เป็นการซื้อตามระบบของกองทัพเรืออยู่แล้ว ถ้ามีเรือแล้วไม่มีอาวุธแล้วจะต่อเรือกันไปทำไม ตนก็ไม่เข้าใจ ทั้งหมดก็จำเป็นต้องมียุทโธปกรณ์ติดเรือ และไม่ได้ใช้งบประมาณเพิ่มเป็นงบของกระทรวงกลาโหมในส่วนของกองทัพเรืออยู่แล้ว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ขอเรียนว่าที่หลายคนออกมาพูดในส่วนของงบประมาณของกระทรวงกลาโหมที่เพิ่มขึ้นถึง 2.2 แสนล้านบาทนั้น ก็เป็นการเพิ่มขึ้นมาตามลำดับของแต่ละปี ซึ่งทุกกระทรวงก็เพิ่มมาแบบนี้สัดส่วนก็มีอยู่ ซึ่งไม่เกินสัดส่วนของงบประมาณทั้งหมดของประเทศ ในความเป็นจริงก็น้อยกว่าสัดส่วนจริงๆด้วยซ้ำ เพราะเราเห็นถึงความจำเป็นในภาคส่วนอื่นๆด้วย ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นงบประมาณส่วนใหญ่อยู่แล้ว รวมทั้งเรื่องของการศึกษา รัฐสวัสดิการ การดูแลผู้สูงอายุ ผู้พิการ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับทุกเรื่อง ขณะเดียวกันก็จะไปทิ้งเรื่องของความมั่นคงไม่ได้ เพราะความมั่นคงเป็นบ่อเกิดของความมีเสถียรภาพในภูมิภาคของเรา เพียงแต่เราต้องมีไว้บ้างถ้าไม่มีแล้วอนาคตจะอยู่อย่างไร

"ผมไม่ได้หมายความเราจะต้องไปรบกับใคร ไม่ได้มุ่งหวังว่าจะซื้ออาวุธเพื่อไปรบ เราซื้อไว้เพื่อคุ้มครองทรัพยากรทางบก ทางทะเลของเรา ยังไม่ความจำเป็นอยู่ทุกคนก็เห็นว่ารอบบ้านเราก็ยังมีปัญหาอยู่ อย่างเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ยังมีปัญหาเราก็ต้องเตรียมการไว้ ส่วนงบประมาณที่สูงขึ้น เพราะว่าที่ผ่านมาไม่ได้มีการจัดซื้อ ทุก ๆ รัฐบาลที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยให้ความสนใจ ทำให้เกิดความชำรุด ผุพังใช้ไม่ได้ ทำให้ต้องเสียงบประมาณในการซ่อมแซมจำนวนมาก จึงทำอะไรไม่ได้สักอย่างเพราะฉะนั้นจึงจำเป็นต้องจัดหามาบ้างเท่าที่จำเป็นและทำได้ ก็ยอมรับว่าในยามปกติอย่างเช่นรถถังก็ใช้อะไรไม่ได้ แต่พวกอากาศยานเราก็นำมาใช้ในการช่วยเหลือป้องกันภัยพิบัติต่าง ๆ ในการดูแลประชาชน ส่วนหนึ่งเราก็มีไว้เพื่อป้องกันตัวเอง ต้องมีการฝึกร่วม รบร่วมกับประเทศต่าง ๆ แต่ถ้าเรามียุทโธปกรณ์ที่สัปปะรังเค ไปฝึกกับคนอื่นเขาจะตามเขาทันหรือไม่ ขอให้คิดแบบนี้บ้าง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับผู้มีรายได้น้อย รัฐบาลก็มีมาตรการในการดูแลช่วยเหลือ ก็ได้ให้นโยบายไปคิดว่าประชาชนต้องการอะไร รัฐจะให้ได้ตรงไหน ให้อย่างไรโดยไม่ต้องนำงบประมาณกลางไปใส่ ถมจนมากเกินไป ต้องเติมในสิ่งที่ประชาชนขาด วันนี้เท่าที่ทราบก็มีเรื่องของค่ารักษาพยาบาลฟรีทั้งหมด แล้วเราจะเอาเงินที่ไหนมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าที่ผ่านมายังทำได้ไม่สมบูรณ์ เพราะต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาล อย่างบางประเภทก็ต้องจ่ายเอง จะใช้คำว่าฟรีทั้งหมดคงไม่ได้ขนาดนั้น ก็ต้องดูว่าจะให้ได้ขนาดไหน นอกจากนี้รัฐก็สนับสนุนในเรื่องการศึกษาให้มีการเรียนฟรี ซึ่งก็ยังมีบางอย่างที่ให้ฟรีไม่ได้ รัฐบาลต้องหาวิธีการโดยจะต้องไม่เพิ่มภาระให้ประชาชน เช่นเรื่องของภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT ยืนยันว่าวันนี้รัฐบาลไม่คิดจะเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งถ้าตามกฎหมายวันนี้ต้องขึ้นไปร้อยละ 10 แล้ว แต่ก็เพิ่มไม่ได้ ขออนุมัติให้อยู่ร้อยละ 7 ก่อน เพราะคนในประเทศของเรายังไม่พร้อมรายได้ยังแย่อยู่ ยืนยันว่าอะไรให้ได้ก็จะให้ ขอร้องว่าอย่าเอาเรื่องโน้นมาตีเรื่องนี้ จนพาลรังเกียจข้าราชการ