Retail Market Monitor (15 ส.ค.60)

Retail Market Monitor (15 ส.ค.60)

ระยะสั้นมีโอกาสฟื้นตัว แต่โมเมนตัมช่วงถัดไปเริ่มเป็นลบ

ตลาดระยะสั้นมีโอกาสฟื้นตัว หลังความกังวลต่อความจึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีบรรเทาลงจากความเห็นผู้เชี่ยวชาญว่าโอกาสเกิดสงครามยังคงอยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในระดับต่ำ ช่วยลดความกังวลต่อการขึ้นดอกเบี้ยรอบประชุมก.ย. หนุนการฟื้นของสินทรัพย์เสี่ยง อย่างไรก็ตามเรามองตลาดเองเตรียมพร้อมสำหรับภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ผ่านการเพิ่มของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรใช่วงถัดไปผ่านส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี และ 2 ปี ที่มีแนวโน้มจะค่อยๆกว้างขึ้น (นักลงทุนซื้อพันธบัตรตัวสั้น และขายพันธบัตรตัวยาว) ทั้งนี้เรายังคงมองทิศทางการแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ และการเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตร จะเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อตลาดหุ้นเกิดใหม่ในช่วง 1-2 เดือนนี้

ภาพรวมกลยุทธ์: ตลาดยังไม่กลับเป็นบวกหากไม่สามารถกลับมายืนเหนือ 1570 จุด เรามองการปรับลงเป็นจังหวะดีในการเลือกสะสมหุ้นที่ยังมีการถือครองน้อย ราคาไม่แพงเกินไป และมีแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นในครึ่งปีหลัง เก็งกำไรระยะสั้นเน้น กลุ่มเกษตร เดินเรือ ไฟฟ้า (บางตัว) การเก็งกำไรเน้นเลือกหุ้นที่ยัง Laggard และตั้งจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง // หุ้นแนะนำ BANPU, ACAP*, CPF //ประเด็นเก็งกำไร AQUA*, TTA*

ประเด็นการลงทุน

โภคภัณฑ์ – ราคาน้ำมันปรับลดลงหลังจีนชะลอการกลั่นน้ำมันมากกว่าคาด / ราคาสินค้าเกษตรและโลหะส่วนใหญ่ปรับตัวลงตามราคาน้ำมัน / ค่าระวางเรือ BDI ปิดที่ 1,155.00 จุด โดยยังคงปรับเพิ่มขึ้น 1.49% จากปัจจัยหนุนด้านฤดูกาล / ถ่านหิน (Newcastle) เพิ่มขึ้น +0.1% / ราคาทองคำย่อตัวลง 0.3% หลังสถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีเหนือผ่อนคลายลง

เงินเฟ้อสหรัฐฯ - ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯเดือน ก.ค. ขยายตัว 0.1% น้อยกว่าคาดที่ 0.2% ลดโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย. ลง โดยปัจจุบันตลาดมองว่าจะยังไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย. แต่จะเป็นรูปแบบของการลดขนาดงบดุลแทน

ลดเป้ารถยนต์ – การประชุมส.อ.ท. 23 ส.ค.นอกจากแถลงดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ยังมีประเด็นสำคัญคือปรับลดเป้าหมายการผลิตรถยนต์ปี 2560 หลังครึ่งแรกปี 2560 ส่งออกลดลง 13.02% คงเป้าหมายในประเทศโดยมีความเสี่ยงจากปัญหาน้ำท่วม

NPL ยังปรับสูงขึ้น - ธปท.มองสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ยังคงมีทิศทางปรับขึ้นในลักษณะชะลอตัว โดยคาดว่าจะไปสู่จุดสูงสุดในไตรมาสที่ 4/60 แต่ไม่มาก หากเศรษฐกิจขยายตัวได้ 3.5% จะเห็นแนวโน้มเอ็นพีแอลเริ่มลดลงในปี 2561

ก่อสร้าง/เหล็กร่วง – หลังอสังหาริมทรัพย์ทรุด คาดงานก่อสร้างอาคารลดลง 20% ขณะงานภาครัฐยังไม่มากนัก เนื่องจากจากอยู่ในช่วงประมูล โดยสถานการณ์ใช้เหล็กคาดจะฟื้นราวกลางปีหน้า

ธุรกิจอสังหางัดกลยุทธ์เข้มดูแลลูกค้า ตั้งทีมตวสจสุขภาพการเงินลูกค้าก่อนบื่นขอสินเชื่อเพื่อลดยอดปฏิเสธการปล่อยกู้ นสพ.กรุงเทพธุรกิจรายงานธนาคารพาณิชย์มียอดปฏิเสธสูงถึง 50% ของการขอกู้

รายงานผลการดำเนินงาน – (+) กำไรเพิ่ม YoY: PATO, SPCG, AJ, TPOLY, LALIN, TF, PRANDA, APCS, SAFARI / (-) กำไรลด YoY: UBIS, SRICHA, STA, S, ACC, PJW, BM, TPBI, BGRIM, TVT, ADAM

ประเด็นติดตาม: 15 ส.ค. อัยการยื่นแถลงปิดคดีจำนำข้าว / 16 ส.ค. – ประชุมกนง. (คาดคงดอกเบี้ย) / 25 ส.ค. – ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีจำนำข้าว / 31 ส.ค. - ธปท.ผลักดันมาตรฐานกลาง QR code เพื่อการชำระเงิน /16 ก.ย. ภาษีสรรพสามิตใหม่

แนวรับ 1550-1555/แนวต้าน : 1565-70 จุด สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH)

หุ้นแนะนำ

• BANPU (24) : รายงานผลการดำเนินงานแข็งแกร่งตามคาด ทั้งจากราคาถ่านหินที่สูงขึ้นในปีนี้ และธุรกิจไฟฟี้ท่ดีขึ้นจากโรงไฟฟ้าหงสาที่ลาว ทำการผลิตได้ราบรื่น จึงมีชั่วโมงจ่ายไฟที่เพิ่มขึ้น

• ACAP* (24) : คาดผลการดำเนินงานยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งพอร์ตสินเชื่อครึ่งปีที่ 5 พันล้านบาท ใกล้เคียงเป้าทั้งปีที่ 6 พันล้านบาท ทำให้มีโอกาสปรับเพิ่มประมาณการขึ้น

• CPF (36) : ราคาปรับลดลงจนอยู่ในจุดที่น่าสนใจ คาดไตรมาส 2/60 แย่สุด แต่ครึ่งปีหลังแนวโน้มฟื้นจากสถานการณ์หมูในเวียดนามดีขึ้น ต้นทุนวัตถุดิบถูก ขณะที่ตัวเลขการส่งออกกุ้งไปสหรัฐฯ ทำจุดสูงสุด

• ประเด็นลงทุน: AQUA* (คาดผลการดำเนินงานได้อานิสงค์จากกำไรของ EPCO ที่ดีขึ้นจากการรับรู้รายได้ค่าไฟจากโรงไฟฟ้า SST) / TTA* (ดัชนี BDI เข้าสู่ช่วง high season และคาดผลการดำเนินงานฟื้นตัว)