อสังหาใหญ่กำไรครึ่งปีทรุดโบรกประเมินพ้นจุดต่ำสุด

อสังหาใหญ่กำไรครึ่งปีทรุดโบรกประเมินพ้นจุดต่ำสุด

กำไรครึ่งปีแรก บจ.อสังหาริมทรัพย์รายใหญ่กำไรลดลง แอลพีเอ็นวูบ64% จากกำลังซื้อชะลอ ยอดขายต่ำคาด โบรกเกอร์ประเมินภาพรวมกลุ่มอสังหาพ้นจุดต่ำสุด คาดครึ่งปีหลังยอดขายกระเตื้องมูลค่าการเปิดโครงการใหม่พุ่ง1.2แสนล้าน เน้นเปิดขายไตรมาส3ปีนี้

ภาพรวมผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เฉพาะรายใหญ่รายงานผลประกอบการงวดครึ่งปีแรกของปี2560 พบว่า ส่วนใหญ่กำไรลดลง ประกอบด้วย บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) LPN กำไร ลดลง 64% จากงวดครึ่งปีแรกปีก่อนบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)SPALIกำไรลดลง 28.86% บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) PSH กำไรลดลง 21.09% บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) QH กำไรลดลง 12.87% ขณะที่ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) AP ปรับตัวเพิ่มขึ้น 18.47% และบริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)LHกำไรเพิ่มขึ้น16.34%

แอลพีเอ็น”กำลังซื้อหดฉุดกำไร

บริษัท แอล.พี.เอ็นระบุว่าสาเหตุของกำไรที่ลดลง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ความเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อจากกลุ่มสถาบันการเงิน ส่งผลให้กำลังซื้อลดลง จนส่งผลกระทบต่อผลประกอบการ โดยเฉพาะรายได้ไตรมาส2 จากการขายลดลงลดลง 63.51% ส่วนใหญ่ประมาณ72% เป็นสินค้าค้างขาย แต่ยังคงรักษากาไรขั้นต้นไว้ใน30% ของรายได้ อีกทั้งบริษัทมีการควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน31.25%

ช่วงครึ่งปีหลังของปี2560 บริษัทมีโครงการที่จะแล้วเสร็จพร้อมส่งมอบอีก 5 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 3,870 ล้านบาท และมีแผนเปิดตัวเพิ่มอีก 5 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 11,650 ล้านบาท ทั้งนี้ ณ 30 มิ.ย.2560 บริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้(Backlog) รวม 7,074 ล้านบาท แยกเป็นปี2560 จำนวน 2,862 ล้านบาท ปี2561 จำนวน 4,010 ล้านบาท และปี2562 จำนวน 202 ล้านบาท และของบริษัทย่อยอีก 356 ล้านบาท

ลุ้นไตรมาส3แอลพีเอ็นฟื้น

นักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ประเมินว่า แนวโน้มของบริษัทแอลพีเอ็น จะดันยอดขายโครงการเดิมในมือ เพื่อหนุนยอดขายเติบโต จากงวดเดียวกันของปีก่อน และระหว่างไตรมาส ซึ่งในไตรมาส 3 ปี 2560 ในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา โดยล่าสุดบริษัทสามารถสร้างยอดจองซื้อจากการขายสินค้าคงหลือได้ระดับดีที่1.2 พันล้านบาท แม้ไม่มีคอนโดใหม่เสร็จเริ่มโอนได้ในไตรมาส 3ปี2560 อย่างไรก็ตาม ยังคงประมาณการเดิมอย่างอนุรักษ์นิยมที่ว่าอัตรากำไรสุทธิชะลอตัว ดังนั้นคาดกำไรไตรมาส 3ปีนี้ จะประมาณทรงตัวจากงวดเดียวกันปีก่อน และเติบโตจากไตรมาส2ที่ผ่านมา โดยคาดกำไรจะเติบโตแบบน่าสนใจมากขึ้นในไตรมาส 4ปีนี้ เนื่องจากจะมีคอนโด 4 โครงการมูลค่ารวม 3 พันล้านบาทแล้วเสร็จ และเริ่มโอนได้ในช่วงปลายปีนี้

ทั้งนี้ สิ่งที่เปลี่ยนแปลง คือผลประกอบการไตรมาส 2ปี2560 ออกมาต่ำกว่าคาด จึงปรับลดประมาณการกำไรหลักลง 24% สำหรับปี 2560 และ 30% สำหรับปี 2561 ด้วยการปรับลดประมาณการรายได้จากการขายอสังหาฯ ลง 17% มาอยู่ที่ 9 พันล้านบาท ในปี 2560 (มียอดขายรอรับรู้รายได้คิดเป็น 73% ของประมาณการรายได้ดังกล่าว) เนื่องจากโครงการ ลุมพินี พาร์ค เพชรเกษม 98 เลื่อนการเปิดออกไปจากไตรมาส 4 ปี2560 ไปป็นไตรมาส 1ปี2561 โดยปรับลดอัตรากำไรหลัก เนื่องจากบริษัทจัดแคมเปญดันยอดขายโครงการในมือ และมีการเปิดโครงการใหม่มากขึ้นในปีนี้ (มูลค่าโครงการเปิดตัวใหม่ 1.4 หมื่นล้านบาทในปี 2560 เทียบกับ 8 พันล้านบาทในปี 2559) อย่างไรก็ตาม คาดรายได้จากการขายอสังหาฯ ประเภทที่อยู่อาศัยจะสูงขึ้นมาอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาทในปี 2561 จากฐานต่ำในรอบ7ในปี 2560

โบรกชี้กลุ่มอสังหาฯพ้นจุดต่ำสุด

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ฝ่ายวิจัยเชื่อว่ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์จะพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว และให้น้ำหนักการลงทุนเท่าตลาด เนื่องจาก4 เหตุผล คือ คาดยอดขายไตรมาส 2ปี2560 ทำระดับสูงสุดย้อนหลัง 3 ปี และกำไรผ่านจุดต่ำสุดแล้ว คาดผลตอบแทนจากเงินปันผลงวดครึ่งปีแรกเฉลี่ย 2.2% และทั้งปีที่ 5.5% คาดแนวโน้มตลาดอสังหาฯครึ่งปีหลัง เติบโตแข็งแกร่งทั้งยอดขายและกำไร

ทั้งนี้โครงการเปิดใหม่ในไตรมาส 2 ปี 2560 ของ 7 บริษัทพัฒนาอสังหาฯ เพื่อขายภายใต้การวิเคราะห์ของฝ่ายวิจัยเพิ่มขึ้น 118% จากงวดเดียวกันปีก่อน และ 69%จากไตรมาส1ปี2560 สู่ระดับ 6.5 หมื่นล้านบาท และได้รับการตอบรับดี สะท้อนความเชื่อมั่นและกาลังซื้อที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง จึงคาดว่ายอดขายไตรมาส 2ปี2560 จะเติบโตแข็งแกร่ง 38%จากงวดเดียวกันปีก่อน และ 22%จากงวดไตรมาส1ปี2560 สู่ระดับ 5.4 หมื่นล้านบาท ทำให้ยอดขายครึ่งปีแรกขยายตัว 30%จากงวดเดียวกันปีก่อนและคิดเป็น 49% ของประมาณการยอดขายทั้งปี และบริษัท

นอกจากนี้ มองว่ากำไรผ่านจุดต่าสุดแล้ว คาดกำไรปกติไตรมาส 2ปีนี้ โดยรวมจะฟื้นตัว 40%จากไตรมาส1 ปี 2560 จากการโอนกรรมสิทธิ์ที่เร่งขึ้น 33%จากไตรมาส1ปี2560 แต่ลดลง 12% จากงวดเดียวกันปีก่อน จากฐานสูงในไตรมาส 2ปี2559 ที่มีมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ และค่าจดจำนอง (สิ้นสุดวันที่ 28 เม.ย. 2559) ส่งผลให้กาไรปกติครึ่งปีแรกปีนี้ลดลง 18%จากงวดเดียวกันปีก่อน และคิดเป็นเพียง 37% ของประมาณการกาไรปกติทั้งปี

ไตรมาส3แห่เปิดแห่โครงการใหม่ทะลัก

ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยคาดแนวโน้มตลาดอสังหาฯครึ่งปีหลังเติบโตแข็งแกร่งทั้งยอดขายและกำไร ซึ่งประเมินมูลค่าโครงการเปิดใหม่ในครึ่งปีหลังที่ 1.26 แสนล้านบาท คิดเป็น 55% ของแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งปีของบริษัท โดยจะเปิดตัวสูงสุดในไตรมาส 3 และลดลงในไตรมาส 4 เนื่องจากมีพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในเดือน ต.ค.2560 จึงคาดว่ายอดขายจะขยายตัวแข็งแกร่งในไตรมาส 3 นำโดยเอพี และศุภาลัย ตามแผนเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม และชะลอลงเล็กน้อยในไตรมาส 4

ส่วนกำไรปกติจะเติบโตแข็งแกร่งในครึ่งปีหลังและดีกว่าครึ่งปีแรกมาก ตามแผนการโอนกรรมสิทธ์โครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่จานวนมาก คิดเป็น 60% ของประมาณการยอดโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมทั้งปี และมีปัจจัยสนับสนุนจากความเชื่อมั่นที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง และการผ่อนคลายสินเชื่อสำหรับที่อยู่อาศัยของธนาคารพาณิชย์

“ฝ่ายวิจัยเรามองว่ากลุ่มอสังหาฯ พ้นจุดต่ำสุดแล้ว สะท้อนจากยอดขายและกำไรที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง นอกจากนี้ valuation ยังน่าสนใจ พีอีปีนี้ เพียง 9.3เท่าเทียบกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีที่ 10.4เท่า จึงเป็นโอกาสของการลงทุน”