ตรังเจอกับภาวะฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลากซ้ำซ้อนหลายพื้นที่ โดยเฉพาะหมู่บ้านริมเชิงเขา ทำชาวบ้านหวาดผวาไม่กล้าออกจากบ้าน
(14 สิงหาคม 2560) ฝนที่ตกหนักลงมาอย่างหนักติดต่อกันในพื้นที่ทั้ง 10 อำเภอของจังหวัดตรัง โดยเฉพาะบนเทือกเขาบรรทัดในพื้นที่ อ.ห้วยยอด, อ.เมือง,อ.นาโยง ,อ.ปะเหลียน ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากไปตามบ้านเรือนของราษฎรบริเวณพื้นที่ราบเชิงเขา พื้นที่ราบลุ่มริมแม่น้าลำคลอง และเกิดจากการที่น้ำระบายไม่ทันเนื่องจากมีสิ่งกีดขวางทางน้ำ สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนแล้วจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่จะน้ำมาเร็วและไปเร็ว
โดยบางพื้นที่เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 10 วัน โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา คือ พื้นที่ต.ลิพัง อ.ปะเหลียน ส่งผลทำให้ประชาชนทั้ง 7 หมู่บ้านได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้างมากกว่าครั้งแรก รวมประมาณ 150 ครัวเรือน ในพื้นที่หมู่1,3,4,5 และ หมู่ 6 ได้รับผลกระทบมากที่สุด ทั้งบ้าน โรงเรียน พื้นที่ทางการเกษตร สถานที่ท่องเที่ยว รวมทั้งถนนทางเข้าหมู่บ้าน ถูกน้ำตัดผ่านเป็นช่วงๆไม่ต่ำกว่า 4 สายทาง ระยะทางประมาณ 30 – 200 เมตร ทำให้หลายหมู่บ้านต้องตัดขาดจากโลกภายนอก ระดับน้ำสูงสุดบางจุดประมาณ1.50 เมตร โชคดีที่ยังเป็นวันหยุดชดเชยวันแม่แห่งชาติ ทำให้เด็กๆไม่ต้องไปโรงเรียน พ่อแม่ผู้ปกครองจะได้ไม่เดือดร้อนมากนัก โดยชาวบ้านหลายรายที่ออกจากบ้านไปทำธุระนอกบ้าน กลับเข้าบ้านไม่ได้ต้องรอให้น้ำลดระดับ จึงจะสามารถเข้าออกหมู่บ้านได้ แต่ปริมาณฝนที่ตกหนักบนภูเขามีมาก จึงทำให้มีปริมาณน้ำไหลมาเติมเรื่อยๆ บางพื้นที่แม้จะลดระดับแต่ยังท่วมขัง ทั้งนี้ น้ำป่าได้ไหลหลากมาอย่างรวดเร็ว ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่ราบเชิงเขา ต่างหวาดผวา ต้องเก็บของไว้บนที่สูง และต้องจัดเวรยามร่วมกับเจ้าหน้าที่ อบต.ฝ่ายปกครอง ในการเฝ้าระวังสังเกตุปริมาณน้ำที่ยังคงมีสีแดงเข้มและเอ่อล้นตลิ่ง
อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง ได้นำเรือท้องแบน จำนวน 2 ลำ และเรือไฟเบอร์ จำนวน 7 ลำ ไปมอบให้ทาง อบต.ในพื้นที่ได้ใช้สำหรับการคอยอพยพช่วยเหลือประชาชน รวมทั้งคนเจ็บป่วยที่อาจจะต้องรีบไปโรงพยาบาล ทั้งนี้ ในพื้นที่จังหวัดตรัง ยังเกิดฝนตกลงมาเป็นระยะๆ ซึ่งทางนายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้ออกประกาศเตือนทางสถานีวิทยุกระจายเสียงและประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้ง 10 อำเภอ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก วาตภัย ดินโคลนถล่ม และคลื่นลมแรงออกไปอีก โดยให้ทุกฝ่ายที่รับผิดชอบเตรียมพร้อมอุปกรณ์เครื่องมือ และสถานที่ในการอพยพเคลื่อนย้ายประชาชน หากเกิดกรณีฉุกเฉินตลอด 24 ชม.