เมกาโฮมปรับกลยุทธ์‘คุ้มค่า-นวัตกรรม’

เมกาโฮมปรับกลยุทธ์‘คุ้มค่า-นวัตกรรม’

เมกาโฮม เผยเศรษฐกิจชะลอ ฉุดกำลังซื้อซึม ปรับกลยุทธ์เน้น “คุ้มค่า-นวัตกรรม” บุกตลาดครึ่งปีหลัง ลุ้นโกยยอดปีนี้ตามเป้า 9 พันล้าน

นางสุพรศรี นาคธนสุกาญจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการและบริหารกลุ่มสินค้า บริษัท เมกา โฮม เซ็นเตอร์ จำกัด เปิดเผยถึงแผนธุรกิจ 5 เดือนหลังของปีนี้ว่า ได้วางกลยุทธ์ทางการตลาดมุ่งความคุ้มค่าในการใช้จ่าย รวมทั้งการพัฒนาและนำเสนอสินค้านวัตกรรมใหม่ 

ขณะนี้สินค้าที่ได้รับความสนใจสูง คือ ร้านเสร็จทันใจสร้างด่วน ซึ่งเป็นรายแรกที่เปิดตัวออกสู่ตลาด ลูกค้าเป้าหมายเป็นกลุ่มที่ต้องการขยายพื้นที่ใช้สอยในบ้าน ร้านผู้ประกอบการ และรีสอร์ท

ทั้งนี้  เมกาโฮม มีการปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง  โดยเฉพาะการพัฒนาใช้นวัตกรรมใหม่ๆ รองรับเทรนด์การแข่งขันเน้นกันที่นวัตกรรม นำเสนอสินค้าที่แตกต่าง ผ่านแนวคิดลดต้นทุน ประหยัดเวลา งานเสร็จไว 

“การแข่งขันเรื่องราคาคงไม่หนีกัน เพราะทุกคนไม่ใช่ผู้ผลิตเป็นแค่ผู้ขาย สิ่งที่ต่างกันขึ้นอยู่กับการเพิ่มมูลค่าให้ลูกค้าที่จ่ายในราคาเท่ากัน แต่ได้สินค้าคุณภาพหรือนวัตกรรม”

ขณะเดียวกัน พฤติกรรมผู้บริโภคยุคปัจจุบันมีการเช็คราคา คุณสมบัติสินค้าผ่านโซเชียลมีเดียมากขึ้น แม้เมกาโฮมยังไม่มีการจำหน่ายผ่านออนไลน์ แต่ได้นำเสนอสินค้าผ่านเฟซบุ๊คและไลน์ ทำให้ลูกค้าเช็คข้อมูลเปรียบเทียบก่อนเข้ามาซื้อสินค้า ส่งผลให้การใช้เวลาในการเลือกซื้อเป็นไปด้วยความรวดเร็วมากขึ้น จึงเป็นโอกาสในการทำโปรโมชั่นผ่านช่องทางออนไลน์

"เศรษฐกิจน่าจจะปรับตัวดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก เชื่อว่าคนยังมีกำลังซื้อแต่ระมัดระวังการใช้จ่าย โจทย์ผู้ประกอบการ คือ ทำอย่างไรให้การจ่ายของลูกค้าคุ้มค่าและกระตุ้นให้เกิดการซื้อ ไม่ใช่ซื้อเพราะลดราคาอย่างเดียว”

พร้อมกันนี้ เมกาโฮม ยังเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดสาขาแห่งที่ 12 เชียงราย รองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจในภาคเหนือ ย้ายจากเชียงใหม่ไปสู่เชียงรายมากขึ้น มีการลงทุนพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งทั้งทางน้ำ ทางบกและทางอากาศ ไม่เกิน 3 ปีข้างหน้าจะกลายเป็นเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่มากขณะที่การท่องเที่ยวเติบโตดี เป็นที่ชื่นชอบของชาวจีน จึงเป็นเมืองที่มีศักยภาพในการลงทุน เป็นไปตามนโยบายการลงทุนของเมกาโฮมในการเปิดสาขาเน้นเมืองชายแดน เมืองที่กำลังเติบโต และรอบนอกกรุงเทพฯ และปริมณฑล 

สำหรับการดำเนินธุรกิจครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เมกาโฮม ได้รับผลกระทบจากการเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวค่อนข้างช้าและการชะลอลงทุนของภาคอสังหาฯ โดยยอดขายเติบโต 20% ต่ำจากเป้าหมายวางไว้ที่ 30% เนื่องจากลูกค้าหลักของเมกาโฮมราว 50% เน้นสินค้าอุตสาหกรรมเกี่ยวกับช่างก่อสร้าง เมื่อการลงทุนภาคอสังหาฯ ชะลอจึงทำให้ยอดซื้อลดลง

ทั้งนี้ กำลังซื้อในกรุงเทพฯ กลุ่มลูกค้าเจ้าของบ้านยังมีการเติบโต แต่กลุ่มที่หายไปเป็นลูกค้าระดับกลางลงล่างที่อยู่รอบนอกย่านโรงงาน ส่วนแต่พบว่าในพื้นที่ที่เชื่อมต่อกับเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ในส่วนของผู้รับเหมาก่อสร้างมีการเติบโตดีมาก หรือสาขาใหม่เชียงรายมีกำลังซื้อที่ดีมากจากทั้งคนไทยและพม่า โดยในฝั่งพม่ามีรัฐฉานเป็นเขตเศรษฐกิจใหญ่ ทำให้อัตราการบริโภคมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง

จะเห็นว่ายอดขายในเขตปริมณฑลเติบโตสูงสุด เพราะเศรษฐกิจกระจุกตัว ถัดไปเป็นเขตอุตสาหกรรมติดชายแดนโดยเฉพาะเขตเศรษฐกิจโซนตะวันออก

เมกาโฮม มั่นใจว่าจะผลักดันยอดขายสิ้นปีนี้เป็นไปตามเป้าหมาย 9,000 ล้านบาท