บุกทลายตลาดมืดค้าไม้พะยูงกลางป่าเขามูลค่า 10 ล.

ขบวนการค้าไม้พะยูงยังเหิม สร้างบ้านตบตาเจ้าหน้าที่ ตำรวจน้ำไล่สกัดรถเก๋งลักลอบขนไม้พะยูงเตรียมส่งนายทุนแนวชายแดนริมฝั่งโขงเจอตำรวจน้ำออกลาดตระเวนบนบกพบรถเก๋งจอดอยู่ริมฝั่งโขงเจ้าหน้าที่กำลังเข้าตรวจสอบ แต่มีหญิงขึ้นรถขับหนีไปเจ้าหน้าที่ไล่ตามไปจนข้ามจังหวัดจนพบแหล่งแปรไม้พะยูงและไม้นานาชนิดให้นายทุนทั้งในและนอกประเทศเข้ามาสั่งซื้อโดยตั้งเป็นตลาดชื้อขายกลางป่าเขา ถูกเจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าตรวจจับยึดไม้พะยูงพร้อมยาบ้าจำนวน 100 เม็ดรวมมูลค่า 10 ล้านบาทส่วนชายฉกรรจ์เครือข่ายประมาณ 6-7 คน เห็นรถเจ้าหน้าที่พากันวิ่งหลบหนีเข้าป่า

พันตำรวจเอก ขวัญชาติ วงศ์ขจรไพบูลย์ ผู้กำกับการ 10 กองบังคับการตำรวจน้ำ มุกดาหาร สั่งการให้ พ.ต.ท.โกวิท สุมงคล สว.ส.รน.3 กก.10 บก.รน.มุกดาหารนำกำลังจำนวน 6 นายออกลาดตระเวนทางบกตามแนวชายแดนเพื่อป้องกันและปราบปรามกลุ่มขบวนการลักลอบนำเข้าส่งออกสิงค้าผิดกฎหมายตามแนวชายแดนเมื่อลาดตระเวนมาถึงบริเวณชุมชนบ้านนาโป ต.นาโปกลาง ถนนสำราญชายโขง เหนือเขตเทศบ้านเมืองมุกดาหาร ได้พบรถน่าสงสัยเป็นรถเก๋งสีขาวเชฟโรเลต ติดแผ่นป้ายทะเบียน 5 กณ-4092 กรุเทพฯซึ่งสวมป้ายทะเบียนปลอมพร้อมยึดรถจักรยานยนต์ 1 คัน

เจ้าหน้าที่จึงหยุดรถเตรียมเข้าตรวจสอบ ปรากฏว่าได้มีผู้หญิงแต่งตัวดีอายุประมาณ 40 ปีรีบขึ้นรถขับหนี เจ้าหน้าที่จึงขึ้นรถขับไล่ติดตามโดยหญิงคนดังกล่าวขับรถไปตามถนน ชะยางกูร มุ่งหน้าไปทาง อ.นิคมคำสร้อย เจ้าหน้าที่ก็ตามไปห่างๆแล้วรถน่าสงสัยคันดังกล่าวก็ขับผ่าน ตัวอำเภอนิคมคำสร้อย ออกจากพื้นที่ จ.มุกดาหาร เจ้าหน้าที่ก็ยังไล่ติดตามไปจนผ่านอำเภอเลิงนกทาไปทางเส้นทาง เลิง-ยโส พอมาถึง กิโลเมตรที่ 15 รถต้องสงสัยก็เลี้ยวขวาเข้าซอยพบสวนยางพาราเต็มไปหมด

เจ้าหน้าที่ก็ยังติดตามเข้าไป ลึกประมาณ 5 ก.ม.ได้พบรถเก๋งคันดังกล่าวจอดอยู่ริมหนองน้ำเห็นชายจำนวน 6-7คนกำลังวิ่งหนีเข้าป่าสงวน ภูหมากัง บ้านเกษตรพัฒนา ม.11 สามัคคี อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร ตรวจสอบภายในรถเก๋งไม่พบหญิงที่ขับรถ ตรวจสอบพบไม้พะยูงท่อนเต็ม ด้านท้ายรถยังพบไม้พะยูงท่อนขนาดความยาว 60 เซนติเมตร ขนาดเดียวกันเตรียมลำเลียงส่งนายทุนริมฝั่งโขงซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้าจึงประสาน ทหาร ป่าไม้ นายอำเภอฝ่ายปกครอง และผกก.สภ.เลิงนกทา นำกำลังรวมจำนวน 50 นายร่วมตรวจสอบพบจุดแปรรูป 4 จุดอยู่รอบบริเวณพบเลื่อยโซ่ยนต์จำนวน 2 เครื่องและเลื่อยมืออีกจำนวนหนึ่ง ยังตรวจพบยาบ้าจำนวน 100 เม็ดพร้อมอุปกรณ์เสพยาบ้าวางอยู่ภายในบ้าน ส่วนบ้านลักลอบนำไม้หวงห้ามมาสร้างบ้านจำนวน 2 หลังอยู่รอบหนองน้ำหนึ่งหลังเป็นบ้านชั้นเดียวโดยนำไม้พะยูง ไม้ชิงชันและไม้ประดู่ สภาพใหม่สด ลักลอบตัดแล้วนำมาแปรรูปแผ่นมาตีแปะฝาผนัง และปูพื้นบ้านอำพราง

ส่วนหลังที่ 2 สร้างเป็นบ้าน 2 ชั้น โดยนำไม้ประดู่และไม้ชิงชันมาแปรรูปความยาว หลายขนาด 3-4-5 เมตร ตั้งเป็นโครงบ้านให้นายทุนเข้ามาเลือกซื้อ ตกลงราคาพร้อมขนส่ง ซึ่งหลังจากรื้อบ้านดังกล่าวขายแล้วกลุ่มขบวนการค้าไม้พะยูงก็ลักลอบเข้าไปลักลอบตัดไม้ในพื้นที่ป่าสงวนนำออกมาสร้างเป็นบ้านขาย โดยยังพบร่องรอยการแปรรูป มานานหลายปี ซึ่งเจ้าของพื้นที่ร่วมกับขบวนการค้าไม้พะยูงโดยตั้งเป็นตลาดแหล่งรับชื้อรับขายไม่เกรงกลัวกฎหมาย แต่ไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใดๆเข้าไปดำเนินการกับกลุ่มตัดไม้ทำลายป่ากลุ่มนี้แต่อย่างใด ปล่อยให้กลายเป็นแหล่งตัดไม้ทำลายป่านำมาแปรรูปซื้อขายกับนายทุนฝั่งประเทศเพื่อนบ้านแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงทำการรื้อถอนบ้านทั้ง 2 หลัง ตำรวจกำลังตรวจสอบออกหมายเรียกผู้ครอบครองพื้นที่ดังกล่าวมาสอบสวนหากพบมีส่วนเกี่ยวข้องจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป