CPALL - ซื้อ

CPALL - ซื้อ

กำไรไตรมาส 2/60 สูงกว่าคาดเล็กน้อย

สูงกว่าคาด 2%

CPALL รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/60 ที่ 4.65 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% YoY แต่ลดลง 2% QoQ สูงกว่าที่เราและตลาดคาด 2% เนื่องจากค่าใช้จ่ายทางด้านโฆษณาที่ต่ำกว่าคาด

ประเด็นการลงทุน

รายได้รวมไตรมาส 2/60 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6% YoY มาอยู่ที่ 1.16 แสนล้านบาทจากยอดขาย 7-Eleven และ MAKRO ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6% YoY และ 5% YoY ตามลำดับ ยอดขายสาขาเดิมของ 7-Eleven และ MAKRO ปรับตัวลดลง 1% และ 1.4% ตามลำดับ โดยในไตรมาส2/60 CPALL ขยายสาขา 7-Eleven เพิ่มอีก 219 สาขา ส่งผลให้จำนวนสาขาใหม่อยู่ที่ 465 สาขาในครึ่งแรกของปี 2560 คิดเป็น 66% ของเป้าหมายสาขารวมในปี 2560 ทั้งนี้ MAKRO เปิดตัวสาขาใหม่อีกหนึ่งแห่งในไตร
มาสนี้

มูลค่าการซื้อต่อครั้งเฉลี่ยของ 7-Eleven ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.7% YoY มาอยู่ที่ 67 บาท ในขณะที่จำนวนครั้งการซื้อปรับตัวลดลง 5.2% YoY มาอยู่ที่ 1,194 ครั้งต่อสาขาต่อวัน เนื่องจากฝนที่ตกหนักในปีนี้ เทียบกับภาวะแล้งจากเอลนีโญในปีที่แล้ว

อัตรากำไรสินค้าเฉลี่ยของ 7-Eleven ขยายตัว 40 bps มาอยู่ที่ 26.2% หนุนโดยอัตรากำไรที่ดีขึ้นของสินค้าอาหาร (เพิ่มขึ้น 30bps YoY) และ สินค้าที่ไม่ใช่อาหาร (เพิ่มขึ้น 60bps YoY) อย่างไรก็ตาม ต้นทุนค่าขนส่งที่สูงขึ้นและรายได้ค่าบริการที่ลดลง การยกเลิกการให้บริการเติมเงินมือถือของ AIS กดดันอัตรากำไรของธุรกิจร้านสะดวกซื้อลดลง 30
bps YoY มาอยู่ที่ 28.3% ในไตรมาส 2/60 ทั้งนี้อัตรากำไรขั้นต้นรวมที่ปรับตัวดีขึ้น 40bps ส่วนใหญ่มาจากอัตรากำไรขั้นต้นของ MAKRO ที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง (เพิ่มขึ้น 100bps YoY มาอยู่ที่ 9.5%) เนื่องจากสัดส่วนสินค้ารวมที่ดีขึ้น, การควบรวมงบของบริษัท อินโดกูนา และฐานที่ต่ำจากการโหมโปรโมชั่นในไตรมาส 2/59

ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารปรับตัวเพิ่มขึ้น 6% YoY มาอยู่ที่ 2.27 หมื่นล้านบาท ในขณะที่สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้น 10bps YoY มาอยู่ที่ 19.6% ส่วนใหญ่มาจากค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นของ MAKRO โดยค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารของ 7-Eleven ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 3.6% เนื่องจากบริษัทปรับลดค่าใช้จ่ายด้านโฆษณา (ลดลง 15% YoY) เนื่องจากความเชื่อมั่นในการบริโภคที่ลดลง ดังนั้นสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายของธุรกิจสะดวกซื้อปรับตัวลดลง 50bps มาอยู่ที่ 27.3%

แนวโน้ม

อัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมน่าจะยังคงอ่อนตัวในไตรมาส 3/60 แม้ว่าจะไม่มีผลกระทบจากสภาพอากาศ (ภาวะใกล้เคียงกันกับในไตรมาส 3/59) แต่ฐานเปรียบเทียบยังคงอยู่ในระดับที่สูงเนื่องจาก แคมเปญสะสมแสตมป์ที่ประสบความสำเร็จเมื่อปีที่แล้ว สำหรับแคมเปญสะสมแสตมป์ในปีนี้มีแนวโน้มที่ดีแต่ดูเงียบเหงากวาปีที่ผ่านมา เราน่าจะเห็นอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมที่แข็งแกร่งในไตรมาส 4/60 จากฐานต่ำในช่วงการไว้อาลัยเมื่อปีที่แล้ว

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

เรายังคงประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

คำแนะนำ

เราคิดว่าราคาหุ้นของ CPALL จะปรับตัวลดลงมาอยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดยปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ PER 12 เดือนล่วงหน้าที่เพียง 26.3 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 27.8 เท่า เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ