BEAUTY.- ซื้อ

BEAUTY.- ซื้อ

ยิ่งโตยิ่งสวย

ผลประกอบการน่าตื่นตาตื่นใจ

BEAUTY รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/60 ที่ 273 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 97% YoY และ 37% QoQ สูงกว่าที่เราคาด 27% เนื่องจากยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่งกว่าคาด

ประเด็นหลักผลประกอบการ

รายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 51% YoY มาอยู่ที่ 881 ล้านบาทในไตรมาส 2/60 ในขณะที่ยอดขายสาขาเดิมโต 20.8% มากกว่าที่เราคาดไว้ที่ 14.6% ทั้งนี้ ยอดขายของ Beauty Buffet เติบโต 20% YoY มาอยู่ที่ 502 ล้านบาท ในขณะที่ยอดขายของ Beauty Cottage ปรับตัวเพิ่มขึ้น 92% YoY มาอยู่ที่ 106 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากยอดขายลิปสติก No.9 (ผลิตภัณฑ์ยอดนิยม โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าชาวจีน) ส่วน Beauty Market นั้น ยอดขายขยายตัว 28% YoY มาอยู่ที่ 19 ล้านบาท

ยอดขายผ่านทางร้านค้าโมเดิร์นเทรด รวมถึงยอดขายผ่านทางแคตตาล็อกปรับตัวเพิ่มขึ้น 93% YoY มาอยู่ที่ 100 ล้านบาท ในขณะที่ยอดขายต่างประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น 498% YoY มาอยู่ที่ 119 ล้านบาทหนุนโดยการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในฮ่องกงและไต้หวันในปีที่แล้ว สำหรับยอดขาย Ecommerce ปรับตัวเพิ่มขึ้น 57% YoY มาอยู่ที่ 25 ล้านบาท

BEAUTY เปิดตัว Beauty Buffet 2 สาขาใหม่ (1 สาขาในประเทศไทยและ อีก 1 สาขาในต่างประเทศ) ในไตรมาสนี้ ดังนั้น ณ สิ้นเดือนมิ.ย. บริษัทมี Beauty Buffet 249 สาขา Beauty Cottage 71 และ Beauty Market 13 สาขา ในประเทศไทย และอีก 41 สาขาในต่างประเทศ

อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 69.5% ในไตรมาส 2/60 เพิ่มขึ้นจาก 67.2% ในไตรมาส2/59 และ 66.7% ในไตรมาส 1/60 จากยอดขายที่แข็งแกร่งของ Beauty Buffet และ Beauty Cottage ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงที่สุด

ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารปรับตัวเพิ่มขึ้น 24% YoY แต่ยังโตน้อยกว่ายอดขายอยู่มาก ส่งผลให้สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายปรับตัวลดลงจาก 38.2% ในไตรมาส 2/59 มาอยู่ที่เพียง 31.4% ในไตรมาส2/60

BEAUTY ประกาศเงินปันผลระหว่างกาลที่ 0.15 บาทต่อหุ้น และขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 23 ส.ค.

แนวโน้ม

ยอดขายและกำไรมีแนวโน้มเติบโต QoQ ไปจนถึงไตรมาส 4/60 ส่วนในแง่ของ YoY นั้น แม้ว่าจะมีฐานสูงในไตรมาส 3/59 แต่เราคาดว่ากำไรจะเติบโตได้ราว 30-35% YoY ในไตรมาส 3/60 และการเติบโต YoY น่าจะยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นในไตรมาส 4/60 จากฐานที่ต่ำมากในช่วงไว้อาลัยเมื่อปีที่แล้ว

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2560-2561 ขึ้น 12% และปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2560 มาอยู่ที่ 15.1 บาท จาก 13.3 บาท

คำแนะนำ

เราชื่นชอบ BEAUTY มากที่สุดในบรรดากลุ่มค้าปลีก จากประมาณการกำไรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ปัจจุบันหุ้นซื้อขายในระดับ PER ปี 2560 ที่ 33.4 เท่า และ 25.9 เท่าในปี 2561 และมีค่า PEG เพียง 0.7 เท่า (อ้างอิงจากอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิเฉลี่ย 2 ปี) ต่ำที่สุดในกลุ่มค้าปลีก