'สศค.' ออกโรงโต้ 'อดีตรมว.พลังงาน'

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ชี้แจงประเด็นที่อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานระบุว่า เศรษฐกิจตกต่ำ ธุรกิจต่างๆ เริ่มทยอยปิดตัวลง เหมือนคนที่เป็นโรคเรื้อรัง แต่ไม่ยอมรักษาโรค และอาจอยู่ในสภาวะ "ต้มกบ" อย่างที่หลายคนได้วิเคราะห์ไว้ เห็นได้จากตัวเลขการนำเข้าและส่งออกที่ตกต่ำอย่างมาก สะท้อนว่าประเทศไทยอยู่ในภาวะไม่น่าจับจ่าย และจะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อไปในอนาคตอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยข้อมูลจากอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานที่สะท้อนไปยังรัฐบาลอยู่ตลอดเวลานั้น เป็นข้อมูลที่เป็นความจริง ไม่เข้าใจว่าเหตุใดรัฐบาลจึงไม่นำไปใช้บ้าง และกลับบอกว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่บิดเบือน

ทั้งนี้ ข้อเท็จจริง คือ เศรษฐกิจไทยล่าสุดส่งสัญญาณการขยายตัวต่อเนื่อง โดยในเดือนมิถุนายน 2560 พบว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวในระดับสูงที่ร้อยละ 11.7 ต่อปี ส่งผลให้ครึ่งปีแรกขยายตัวร้อยละ 7.8 ต่อปี ขณะที่มูลค่าการนำเข้าขยายตัวต่อเนื่องเช่นกันที่ร้อยละ 13.7 ต่อปี ส่งผลให้ครึ่งปีแรกขยายตัวร้อยละ 15.0 ต่อปี โดยกลุ่มที่มีการนำเข้าได้ดี มาจากวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป และสินค้าทุน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงทิศทางการฟื้นตัวของการลงทุนและการผลิตของอุตสาหกรรม นอกจากนี้ เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน สะท้อนจากข้อมูลในครึ่งปีแรกของปี 2560 เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่ง และปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ที่ขยายตัวร้อยละ 2.3 25.0 และ 5.8 ต่อปี ตามลำดับ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากรายได้ที่แท้จริงของเกษตรกรที่ขยายตัวในครึ่งปีแรกร้อยละ 15.4 ต่อปี

นอกจากนี้ ข้อมูลภาพรวมการลงทุนของประเทศในด้านของการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในเดือนมิถุนายน 2560 พบว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2560 จำนวน 693 ราย ในขณะที่การจดทะเบียนเลิกที่เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2560 จำนวน 474 ราย นั้น ถือว่าน้อยกว่าธุรกิจที่มีการจดทะเบียนใหม่ สะท้อนให้เห็นว่าภาคธุรกิจยังมีการจดทะเบียนเริ่มต้นธุรกิจที่เพิ่มขึ้นสุทธิ 219 ราย และยังมีความเชื่อมั่นในด้านการลงทุนเพิ่มขึ้น