ตลาดยิ่งเจริญยุค4.0ชูออนไลน์-ขยายธุรกิจใหม่

ตลาดยิ่งเจริญยุค4.0ชูออนไลน์-ขยายธุรกิจใหม่

ตลาดยิ่งเจริญดำเนินธุรกิจ ครบรอบปีที่ 62 ถือเป็นโอกาสปรับตัวครั้งสำคัญ สร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้ทันสมัยตามกระแสการเปลี่ยนแปลงในยุค 4.0 พัฒนาธุรกิจหลัก “ตลาดสด” บนพื้นที่ 30 ไร่  พร้อมสร้าง Online fresh Market Place ในรูปแบบ“ตลาดสดออนไลน์" 

นฤมล ธรรมวัฒนะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สุวพีร์ โฮลดิ้ง จำกัดและตลาดยิ่งเจริญ กล่าวว่าการก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 7 ของตลาดยิ่งเจริญ ได้วางแผนระยะเวลา 5 ปีจากนี้ เพื่อเพิ่มทราฟฟิคลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากขึ้น รวมทั้งเพิ่มโอกาสการขยายสู่ธุรกิจใหม่ 

ทั้งพื้นที่ให้เช่าร้านอาหารและสินค้าแฟชั่น นอกจากธุรกิจหลักที่ให้เช่าแผงในตลาดสด ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษามาสเตอร์แพลนปรับปรุงพื้นที่ คาดใช้งบลงทุนสำหรับพัฒนาพื้นที่ ประมาณ 1,000 ล้านบาท วางเป้าหมายสู่ “ฟู้ด เดสทิเนชั่น”ครบวงจรและต่อยอดเป็นแหล่งท่องเที่ยวในอนาคต

บริษัทจะใช้พื้นที่ลานจอดรถที่เหลืออยู่ขนาด 9 ไร่ มาพัฒนาต่อเติมให้เป็นพื้นที่เช่าร้านค้า รวมถึงเพิ่มความหลากหลายด้วยธุรกิจอื่นๆ ปัจจุบันจัดสรรพื้นที่ร้านค้า 3 โซน 

ประกอบด้วย โซนขายสินค้าอาหารสด 50% โซนพลาซ่า ที่มีร้านค้าขายเสื้อผ้า สินค้าไอที 30% และโซนศูนย์อาหาร 10% 

ตลาดยังต้องการเจาะกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่และลูกค้าทั่วไปมากขึ้น เพราะปัจจุบันลูกค้าทั่วไปมีสัดส่วน 30% และอีก 70% เป็นกลุ่มลูกค้าแบบบีทูบี ที่มาซื้อขายกับคู่ค้าพ่อค้าแม่ค้าในตลาด โดยเฉพาะช่วงเวลา 02.00 -07.00 น.

ลูกค้าพื้นที่ใกล้เคียงตลาดยิ่งเจริญส่วนใหญ่เป็นกลุ่มซีลบถึงบีบวก เป็นโซนที่ประชากรขยายตัวมากสุดในกรุงเทพฯ ปัจจุบันตลาดมีทราฟฟิคอยู่ที่ 2 หมื่นคนต่อวัน

อริย ธรรมวัฒนะ กรรมการบริหาร ตลาดยิ่งเจริญ กล่าวว่าจากการปรับปรุงพื้นที่และมองหาแนวทางเพิ่มธุรกิจใหม่ๆ จะช่วยส่งผลให้ตลาดยิ่งเจริญมีโอกาสสร้างรายได้เติบโตมากขึ้นมากกว่า“เท่าตัว” จากปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 400 ล้านบาท จากธุรกิจหลัก คือ การให้เช่าแผงสัดส่วน 98% ขณะนี้มีคู่ค้าแผงประจำ 1,500 แผง คู่ค้าแผงจรกว่า 400 แผง ปีนี้ตั้งเป้าหมายเติบโต 3-5% 

ขณะเดียวกันได้ปรับตัวตลาดสดสู่ยุค 4.0 เพื่อปรับเปลี่ยนการบริการของตลาดสดให้ทันกับยุคใหม่ โดยพัฒนาระบบตลาดสดออนไลน์ ขยายแพลตฟอร์มการชอปปิงนอกจากการให้บริการซื้อสินค้าหน้าแผง 

โดยวันที่ 11 ส.ค.นี้ เปิดตัวเว็บไซต์ “ส่งสด” (www.songsod.com) รวมถึงช่องทางเฟซบุ๊คและไลน์ เพื่อให้บริการสั่งสินค้าและจัดส่งสินค้าที่จำหน่ายภายในตลาด โดยได้เตรียมทีมงานคัดเลือกสินค้า (personal shopper) ช่วยคัดสินค้าคุณภาพให้แก่ผู้ที่สั่งซื้อออนไลน์ก่อนจัดส่งสินค้า คาดว่าจะมีผู้เข้ามาใช้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ สัดส่วน 5 -10% ของลูกค้าทั้งหมดในปีแรก และมียอดซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์กว่า 1,000 ครั้งต่อวัน

สำหรับบริการจัดส่งสินค้าได้เลือกพันธมิตร LALAMOVE เข้ามาให้บริการ โดยคิดค่าบริการเริ่มต้น 42 บาท และคิดตามระยะทางกิโลเมตรละ 7 บาท

นอกจากนี้ ยังมีแผนเปิดตัวแอพพลิเคชั่น “เฟรช เมท” (Fresh Mate) เพื่อเพิ่มความสะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการสั่งซื้อสินค้าผ่านแอพพลิเคชั่น คาดเปิดตัวในอีก 3 เดือนจากนี้

ปีนี้ตลาดยิ่งเจริญก้าวสู่ปีที่ 62 จึงวางแนวทางขับเคลื่อนตลาดมุ่งเน้นการพัฒนาสู่กรีนมาร์เก็ต ภายใต้นโยบาย Y Together ที่จะเติบโตพร้อมกับกลุ่มคู่ค้า ลูกค้า และชุมชน ยกระดับเรื่องการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยสินค้าที่นำเข้ามาขายภายในตลาด รวมถึงมองเรื่องการพัฒนาคู่ค้า หรือพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาด การบริหารจัดการเรื่องสุขภาวะความสะอาดต่างๆในตลาดที่ยังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

สำหรับแผนผลักดันตลาดยิ่งเจริญระดมทุนในกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือREIT  ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาโมเดลธุรกิจ มองว่ากองทุน REIT เป็นเครื่องมือทางการเงินที่จะช่วยให้มีเงินทุนขยายธุรกิจได้มากขึ้น โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินการตรวจสอบความถูกต้อง ความโปร่งใสในการทำงาน คาดว่าจะใช้ระยะเวลากว่า 1 ปีจะได้ข้อสรุปเรื่องดังกล่าว