“หมู MUZU” พรสวรรค์ จาก ฝันของแม่

“หมู MUZU” พรสวรรค์ จาก ฝันของแม่

บุคลากรในวงการดนตรีส่วนใหญ่ มักเกิดมาในแวดล้อมที่เต็มไปด้วยตัวโน๊ต และเสียงดนตรี

     “บัณฑิต แซ่โง้ว” หรือ “หมู MUZU” ก็เช่นกัน ที่เริ่มร้องเพลงตั้งแต่จำความได้ แถมยังสามารถร้อง "แฟนฉัน" ของวงชาตรี จนจบเพลงแบบไม่เพี้ยนเป็นเพลงแรก

“ผมเป็นเด็กบ้านนอกคนนึงที่ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะมาอยู่ตรงนี้ ได้มาถ่ายทอดเสียงเพลงให้คนอื่นๆ ฟัง และเราจะคอยย้ำเสมอว่า นี่แหละเป็นเรื่องจริงแล้ว ที่วันนี้เราได้มายืนอยู่ตรงนี้” 

แรงบันดาลใจแรกบนถนนสายดนตรีของเขาเริ่มจาก “เพลงของแม่"

“คุณแม่ผมไม่ได้เป็นนักร้องนะ" หมูออกตัว ก่อนจะอธิบายว่า คุณแม่ของเขานั้นชอบร้องเพลงมาก และเขาก็อัดเสียงลงในเทปคาสเซ็ทเพื่อเอาไว้ฟังสนุกๆ และร้องตามแม่ จนถึงวันที่เขาได้ก้าวขึ้นมาอยู่บนเวที ถึงได้ค้นพบว่า ห้วงเวลานั้น ไม่ต่างกับ “พื้นที่ส่วนตัว” ที่เป็นทั้งแรงขับ และส่งอิทธิพลต่อการทำดนตรีของเขาตลอดมา

จากเด็กน้อยที่ร้องเพลงอัดเทปตามคุณแม่ในวันนั้น เด็กที่เคยเอาไม้กวาดมาเป็นกีต้าร์ แล้วนึกฝันว่ามีแสงไฟสาดส่องลงมาที่ตัวเองกลางเวที แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาก้าวเดินสู่สายอาชีพศิลปินสาขาดนตรีในทันที เพราะเขามีกำแพงในความคิดของตัวเองอยู่นิดว่า “มันเป็นไปไม่ได้หรอก”

“แน่นอนตอนเด็กๆหลายคนต้องเคยสมมติว่าตัวเองเป็นนักร้อง ดารา หรือศิลปินที่มีชื่อเสียงสักคน และก็จะคิดว่า “สักวันต้องเป็นแบบนั้น” แต่ในความคิดที่ว่าสักวันต้องเป็น ในขณะนั้นมันก็จะมีความคิดแวบขึ้นมาทันทีว่า “มันเป็นไปไม่ได้” วนๆอยู่อย่างนี้ ประมาณว่า “อยากนะ แต่เป็นไปไม่ได้หรอก” เขายอมรับ 

ถึงจะรู้ตัวว่ามีความสามารถด้านดนตรี แต่เขาก็ไม่ได้คิดจะเอาดนตรีมาเป็นอาชีพ จนในที่สุด ก็เดินทางเข้าสู่สายดนตรีในฐานะคนเบื้องหลัง และซื่อสัตย์กับความฝันของตัวเองตั้งแต่ตอนนั้น 

“ตอนที่ผมฟังเพลงของคนอื่น ผมเคยคิดว่าอยากได้ยินเสียงแบบนั้น โดยที่คิดว่าทำไมไม่ทำแบบนั้น ทำไมไม่ทำแบบนี้ พอมีโอกาส ผมเลยมาทำในสิ่งที่เราอยากจะได้ยินเห็นอยากจะได้ยินในตอนนั้น จนในที่สุดเราก็ได้ทำมัน”

ทั้งในฐานะคนเบื้องหลัง ทั้งโปรดิวเซอร์ แต่งเพลง เนื้อร้อง ทำนอง รวมถึงลงเสียงเป็นต้นแบบให้นักร้องดังอีกหลายคน กระทั่งวันหนึ่งเขาได้มาอยู่เบื้องหน้าในฐานะนักร้องที่ชื่อว่า “หมู MUZU”

“ MUZU เป็นชื่อที่ผมเอ่ยทีไรก็ภูมิใจและใช้มาตลอด ชื่อนี้มาจาก พี่ปุ้ม พรพรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เนื่องจากพี่ปุ้มชวนไปทำอัลบั้ม และในตอนนั้นพี่ปุ้มเปิดสถาบันผลิตบุคลากรสายอาชีพบันเทิง ชื่อ Gen-X Academy และชวนไปทำอัลบั้มที่รวบรวมผลงานของนักเรียนหลายๆสาขา ตั้งแต่เนื้อร้อง ทำนอง จนถึงนักร้อง มาลองทำงานจริง ซึ่งในอัลบั้มนั้น ผมมีหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์เนื้อร้องของเพลงทั้งหมดในอัลบั้ม ในตอนนั้นผมรู้สึกว่ามันเป็นงานที่ใหญ่มากนะ" เขาเล่าย้อนที่มา

จุดเปลี่ยนของเขาอยู่ที่เพลงหนึ่งที่เกิดปัญหานิดหน่อยเลยทำให้เหลือแค่ดนตรีกับโครงเพลง หมูจึงต้องรัหบหน้าที่ "ซ่อม" ให้เพลงนั้นสมบูรณ์ จนกลายมาเป็นเพลง “เข้ากันไม่ได้” ในที่สุด 

"แล้วผมก็รับหน้าที่ร้องเดโม่เป็นต้นแบบ แต่สุดท้ายแล้วไม่มีนักร้อง ผมต้องมาร้องเองซะงั้น พอถึงวันที่พิมพ์ปกอัลบั้มเพื่อวางแผง ปรากฏว่าทุกคนมีฉายามีความหมาย มีที่มาที่ไป ไม่ใครเลยที่มีชื่อโดดๆ อันตัวเราก็ “หมู” หมูอย่างเดียวโดดๆ ทีนี้ พี่ปุ้มไม่ยอม อยู่ดีๆพี่ปุ้มก็พูดมาว่า “MUZU” เราก็ไม่รู้นะว่ามีความหมายหรือเปล่า แต่ถามพี่ปุ้ม พี่ปุ้มก็ไม่ได้ตอบอะไร เราก็ไปหาความหมาย แต่ก็ไม่เจออะไร ตอนแรกเราก็แบบมันเข้ากันไหม แต่พอใช้มาเรื่อยๆ มันก็ดีนี่นา มันติดไปแล้ว ทุกคนรู้จัก ก็เลยใช้มาตลอดจนถึงทุกวันนี้” ทั้งหมดนี้คือตัวตนบนเส้นทางสายดนตรีของหมู

“หมู MUZU” พรสวรรค์ จาก ฝันของแม่

ภาพ : สุรเดช พลอยมุข