จี้ 'เอิร์ธ' หาผู้สอบบิ๊กโฟร์ตรวจสอบหนี้

ก.ล.ต.จี้ เอิร์ธ ส่งเอกสารหนี้ 2.6 หมื่นล้าน พร้อมตั้งผู้สอบบัญชีพิเศษ ตรวจสอบมูลหนี้เพิ่มเติมกำหนดเส้นตาย 1 เดือน ตลาดหลักทรัพย์เชื่อบริษัทตั้งผู้สอบบิ๊กโฟร์ได้ทันเวลา ย้ำไม่เป็นอุปสรรคต่อการแก้ไขปัญหา ด้านแบงก์ชาติสั่งธนชาตแจงข้อมูลถูกฟ้องด่วน

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ได้สั่งให้บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) (EARTH) นำส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องกับหนี้สินจำนวนกว่า 26,000 ล้านบาท ต่อ ก.ล.ต. ภายใน 5 วันทำการ และจัดให้มีผู้สอบบัญชีตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (special audit)เกี่ยวกับที่มา ความมีอยู่จริง และสถานะของมูลหนี้ดังกล่าว ซึ่งเป็นเหตุให้เอิร์ธยื่นขอเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ โดยให้เปิดเผยผลการตรวจสอบผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ภายใน 30 วัน

ตามที่เอิร์ธได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง โดยแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า มีหนี้สินมากกว่าสินทรัพย์ เนื่องจากคู่ค้าได้ยื่นฟ้องต่อศาลที่มีอำนาจเป็นยอดหนี้รวม 26,000 ล้านบาท ทำให้มีหนี้สินรวม 47,480 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจาก 21,480 ล้านบาท

ก.ล.ต. เห็นว่าจำนวนหนี้สินที่เพิ่มขึ้นมีจำนวนสูงถึง 1.21 เท่า ซึ่งส่งผลกระทบต่อฐานะการเงิน ประกอบกับที่มาความมีอยู่จริง และสถานะของหนี้สินดังกล่าวยังคลุมเครือไม่ชัดเจน และอาจมีผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นในวงกว้างหรือต่อการตัดสินใจลงทุนของผู้ลงทุนได้

การไม่ปฏิบัติตามการสั่งการของ ก.ล.ต. หรือการไม่เปิดเผยข้อมูลที่ตรงต่อความเป็นจริงจะเป็นผลให้กรรมการและผู้บริหารอาจถูกดำเนินการตามกฎหมายซึ่งมีทั้งโทษอาญาและมาตรการลงโทษทางแพ่ง

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกล่าวว่าตลาดหลักทรัพย์ได้สั่งพักการซื้อขายหุ้นเอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ เพิ่มเติมหลังจากก.ล.ต.สั่งการให้ตั้งผู้สอบบัญชีเป็นกรณีพิเศษ ตลาดหลักทรัพย์เชื่อว่าบริษัทจะสามารถตั้งผู้สอบบัญชีได้ทันตามที่กำหนด

“ตลาดมองว่าบริษัทสามารถตั้งผู้สอบบัญชีได้แม้ว่าปัจจุบันจำนวนผู้สอบบัญชีจะน้อย ทั้งนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่น่าจะส่งผลกระทบกับความเชื่อมั่นโดยรวมของงบการเงินของบจ.”

นายประกิด บุณยัษฐิติ รองเลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า ก.ล.ต.ได้กำหนดให้บริษัทต้องหาผู้สอบบัญชีสังกัดสำนักงานสอบบัญชีขนาดใหญ่นั้น  ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นอุปสรรคในการหาผู้สอบบัญชีเพื่อทำ special audit และบริษัทมีหน้าที่ที่จะต้องดำเนินการตามคำสั่ง special audit ทั้ง2ครั้งส่วนข้อกำหนดให้ต้องใช้สำนักงานสอบบัญชีขนาดใหญ่ เนื่องจากบริษัทมีการประกอบธุรกิจในหลายประเทศ ต้องอาศัยเครือข่ายในต่างประเทศเป็นผู้ดำเนินการ จะช่วยให้การทำ special audit สามารถทำได้ภายในกรอบเวลาและทำให้เกิดความกระจ่างต่อสาธารณชนโดยเร็ว

นายรณดล นุ่มนนท์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธปท. เปิดเผยว่า กรณีที่ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ ฟ้องธนาคารธนชาต นั้น ธปท. ได้สั่งการให้ธนาคารธนชาต ตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายงานให้ ธปท.ทราบโดยด่วนแล้ว และจะได้พิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่