“มัสยา” VS “เล่ห์ลับ สลับร่าง” ถูกชิงเรตติ้ง

“ละคร” ที่ยึดผังเวลาออกอากาศช่วงไพร์มไทม์ หลัง 2 ทุ่มมานานนับทศวรรษ ในช่องใหญ่อย่างช่อง 3 และช่อง 7 ที่เคยกวาดเม็ดเงินโฆษณา (ยังไม่หักส่วนลด) นาทีละ 400,000-500,000 บาท เมื่อปี 2556 โดยทั้ง 2 ช่องกินส่วนแบ่งตลาดคนดูและเม็ดเงินรวมกว่า 70% ของมูลค่างบโฆษณาทีวีประมาณปีละ 40,000- 60,000 ล้านบาทมาหลายปี ก่อนถึงจุดไคลแมกซ์เมื่อปี 2557 ที่ทีวีดิจิทัลเกิดขึ้นกว่า 20 ช่องมาชิงผู้ชม ช่อง 7 และ ช่อง 3 จึงไม่ใช่แค่คู่ชิงเรตติ้งเพียงคู่เดียวอีกต่อไป แต่ยังมีอีกหลายช่องมาเบียดมาแย่งเรตติ้งไป

เรตติ้งของทั้งสองช่อง แม้จะจัดอยู่โซนอันดับ 1 และ 2 แต่ไม่ใช่อยู่ระยะปลอดภัย เพราะมีหลายช่องหายใจรดต้นคออยู่
ขนาดที่ว่าละครชุดล่าสุดที่ช่อง 3 เพิ่งปูพรมออนแอร์ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ปรากฎว่าตัวเลขเรตติ้ง แทบจะหืดจับ เพราะเรตติ้งอยู่ในโซนเสี่ยง จนไม่รู้ว่าจะได้สัมผัสเรตติ้งสูงๆ อีกเมื่อไหร่ อย่างปีที่แล้ว “นาคี” ที่ตอนจบทำเรตติ้งได้ถึงประมาณ 17 แต่ถ้าเฉลี่ย 11 ตอน เรตติ้งอยู่ที่ 10.9 หรือหากย้อนกลับไปอดีตแสนหวานของธุรกิจละคร ที่ผู้ชมทั่วประเทศพูดกันรู้เรื่อง เพราะดูเรื่องเดียวกัน โดยเฉพาะละครของวิกหมอชิต อย่างเรื่อง “คู่กรรม” “สายโลหิต” ทำสถิติเรตติ้งทะลุไปถึง 30-40 กันเลยทีเดียว

ส่วนเรตติ้งละครช่อง 7 ช่วงนี้ก็อยู่ในช่วงประคองตัว แต่ก็ยังอยู่อันดับ 1 จากข้อมูลที่สำนักนโยบายและวิชาการกระจายเสียงและโทรทัศน์ สำนักงานกสทช. สรุปเรตติ้งที่นีลเส็นสำรวจ พบว่าเรื่อง “มัสยา”  2 วันที่ผ่านมา ได้เรตติ้งเฉลี่ย 5.91
ขณะที่ช่อง 3 ไม่ใช่อันดับ 2 แต่ตกไปเป็นอันดับ 3 เพราะมีโมโนช่อง 29 ในรายการ พรีเมี่ยม บล็อกบัสเตอร์ เรื่อง Who Am I กวาดเรตติ้งไป 3.94 ในวันจันทร์ที่ 7 ส.ค. ส่วนวันอังคาร เรื่อง Mission Impossible ได้เรตติ้ง 2.75 เฉลี่ยจันทร์-อังคาร ได้เรตติ้ง 3.37 ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยสูงกว่าเรื่อง “เล่ห์ลับ สลับร่าง” ของช่อง 3 ที่มี “ณเดชน์ และญาญ่า” เป็นแม่เหล็ก ได้เฉลี่ย 3.15 ขณะที่มัสยาของช่อง 7 ยังเป็นเป็นแชมป์ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เฉลี่ยได้เรตติ้ง 5.91

ใน 5 อันดับยังมีที่ยืนสำหรับช่อง 8 อาร์เอส และเวิร์คพอยท์ สำหรับหนังอินเดีย และปริศนาฟ้าแลบ ที่ได้เรตติ้งเฉลี่ย 3.02 และ 2.20

อย่างไรก็ตามสำหรับช่อง 3 แล้ว มีข้อชี้แจงได้ว่า ไม่ใช่ว่าพลัง “ณเดชน์ หรือญาญ่า” จะเหือดหายไป เพราะแฟนคลับยังมีกันอยู่อย่างเหนียวแน่น กรี๊ดกันสนั่นทุกครั้งที่ได้เจอ ส่วนหนึ่งก็ไปดูทางออนไลน์ ผ่านจอมือถือ แบบมัลติสกรีนกันมากขึ้น เรตติ้งในทีวีอาจตก แต่ในจออื่น ๆ มีสัญญาณเพิ่มขึ้นทั้งดูสด และดูย้อนหลัง

นี่คือปรากฎการณ์ล่าสุดในสนามธุรกิจโทรทัศน์ ที่ผู้ชมมีทางเลือกมากขึ้น ท้าทายอย่างยิ่งสำหรับทุกช่องไม่ว่าจะเป็นช่องที่เคยยิ่งใหญ่ หรือช่องที่เคยเล็กมาก่อน