บัวหลวง เปิด “ตำราเทรด DW ช่วงตลาดเงียบ”

บัวหลวง เปิด “ตำราเทรด DW ช่วงตลาดเงียบ”

บัวหลวง เปิด “ตำราเทรด DW ช่วงตลาดเงียบ” รับมือตลาดหุ้นซึม - รอปัจจัยใหม่หนุน

ตลาดหุ้น 6 เดือนแรกของปี 2560 ถือเป็นช่วงแห่ง “ความผันผวนต่ำ” ที่สุดในรอบ 5 ปี แน่นอนว่า ตลาดเงียบเหงาเช่นนี้ นักลงทุนคงรู้สึกอึดอัด เพราะ “ซื้อหุ้นแล้วไม่ไปไหน” ส่งผลให้นักลงทุนบางราย เริ่มมองหา Leverage product  ไว้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเทรดบนตลาดผันผวนต่ำ ซึ่ง ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์หรือ DW ถือเป็นหนึ่งใน Leverage product ที่นักลงทุนเทรดกันอย่างกว้างขวาง

แต่การเทรด DW ในช่วงตลาดผันผวนต่ำ สิ่งที่ควรคำนึงอย่างมาก คือ ค่าเสื่อมเวลา (Time decay) เพราะมีโอกาสค่อนข้างสูงที่หุ้นแม่จะอยู่นิ่งๆ ภายในระยะเวลาหนึ่ง แค่ถือ DW ผ่านไปก็ติดลบจากค่าเสื่อมเวลาแล้ว

หลักทรัพย์บัวหลวง เปิดแผย “สามเคล็ดลับการเทรด DW” ในช่วงตลาดผันผวนต่ำว่า ข้อหนึ่ง “ระวังค่าเสื่อมเวลา” (Time decay)  คนส่วนใหญ่ชอบ DW “ซิ่ง เร็ว แรง” จึงเลือกที่โฟกัสไปที่ “อัตราทด” (Effective Gearing) สูงๆ แต่หารู้ไม่ว่า ได้มาพร้อมค่าเสื่อมเวลาที่แรงขึ้น

อธิบายง่ายๆ คือ สมมติค่าเสื่อมเวลา -2% ต่อวัน เพียงแค่ถือข้ามวันแล้วหุ้นแม่ไม่ขยับเลยจะทำให้มูลค่าของ DW ลดลงประมาณ 2% ทันที ค่าเสื่อมเวลาของ DW คือ ต้นทุนในการถือครองที่สามารถเลือกเองได้ โดยเฉพาะในสภาวะผันผวนต่ำแบบนี้ ควรหลีกเลี่ยง DW ที่ “ค่าเสื่อมเวลาแรงเกินไป”

ข้อสอง “หลีกเลี่ยงการถือ DW นานเกิน” ยิ่งผันผวนต่ำ หุ้นแม่นิ่ง ยิ่งถือรอ เพราะหุ้นแม่ไม่วิ่งซักที DW ไม่เหมือนหุ้นที่ถ้าไม่รีบใช้เงิน ก็ถือรอราคาได้ ถ้ามั่นใจพอ ฉะนั้นควรเตือนตัวเองเสมอว่า DW มีต้นทุนการถือจากค่าเสื่อมเวลา ยิ่งถือนานต้นทุนในการถือครองจะยิ่งโตเป็นเงาตามตัว

ข้อสาม “มีวินัย” หากหุ้นแม่วิ่งผิดทางต้องกล้า cut loss โดยเฉพาะ DW ที่อัตราทดสูง มูลค่า DW จะลดลง 2 เด้ง จาก “อัตราทดที่แรง” และ “ค่าเสื่อมเวลาที่แรง” คนส่วนใหญ่ชอบคิดว่า เดี๋ยวราคาหุ้นแม่ก็กลับมา สุดท้ายหุ้นแม่ไปผิดทาง ทำให้ติดลบหนักขึ้นไปอีก (ค่าเสื่อมเวลาก็เดินเรื่อยๆ) หนักๆเข้าก็ไม่กล้า cut loss บางครั้งต่อให้ราคาหุ้นแม่กลับมาถูกทาง อาจยังไม่ได้กำไรจาก DW ด้วยซ้ำ เพราะโดนค่าเสื่อมเวลากินไปหมดแล้ว  

จากผลสำรวจของหลักทรัพย์บัวหลวง พบว่า นักลงทุนรายย่อยถือครอง DW โดยเฉลี่ยประมาณ 5 วันต่อการ เทรดหนึ่งครั้ง ดังนั้นการเลือกเทรด DW ที่มีอัตราทดสูงๆ ที่มาพร้อมกับค่าเสื่อมเวลาแรงๆในช่วงผันผวนต่ำเช่นนี้ อาจไม่ใช่ไอเดียที่ดีนัก หากถือไม่สั้นพอ หรือราคาหุ้นแม่ปรับตัวขึ้น (call) หรือลง (put) ไม่มากพอ

หากพิจารณาจากภาพตัวอย่างที่สมมติว่ามี DW Call 2 ตัว คือ DW#1: Time decay -0.5% ต่อวัน โดยมี Effective Gearing 4.0 เท่า  และ DW#2: Time decay -2.0% ต่อวัน โดยมี Effective Gearing 7.0 เท่า จะเห็นว่า หากถือไป 5 วัน และหุ้นแม่วิ่งขึ้น 1.0% DW#1 จะให้ผลตอบแทนประมาณ 1.5%

ในขณะที่ DW#2 จะให้ผลตอบแทนประมาณ -3.0%  หลายคนอาจตั้งคำถามว่า เหตุใด DW#2 หุ้นแม่วิ่งถูกทาง แต่ DW ติดลบ นั่นเป็นเพราะเทรดตัวซิ่งแล้วถือนานเกินไป

แต่รู้หรือไม่ กรณีนี้แค่เปลี่ยนไปเทรด DW ที่ play safe ขึ้น (DW#1) ก็ได้กำไรแล้ว ลักษณะนี้เรียกว่า เส้นผมบังภูเขาหรือเปล่า?

อีกหนึ่งเคล็ดลับสำคัญในการเทรด DW ช่วงตลาดผันผวนต่ำ คือ อย่าตกม้าตาย เพราะความโลภเพียงเพราะหุ้นแม่ไม่ค่อยวิ่งหรืออยู่กับที่จึงเลือกอัตราทดสูงๆ เพราะ DW จะได้วิ่งเยอะๆ ให้ดูค่าเสื่อมเวลาและเวลาถือครองประกอบเสมอ

ทว่าเพื่อให้เห็นผลกระทบจากค่าเสื่อมเวลาได้จนหมดอายุ DW หลักทรัพย์บัวหลวง จึงเป็นผู้ออกรายเดียวในอุตสาหกรรมที่มีตารางราคาให้นักลงทุนสามารถเลือกดูมูลค่า DW ณ ราคาหุ้นแม่ได้จนหมดอายุ DW และยังเป็นผู้ออก DW ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ของอุตสาหกรรมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม DW ที่อัตราทดและค่าเสื่อมเวลาแรงๆ สามารถให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าตัวที่ปลอดภัยกว่าได้ หากถือสั้นพอ และราคาหุ้นแม่วิ่งไปถูกทางอย่างมีนัยยะ ดังนั้นถ้าตลาดกลับมาผันผวนมากขึ้นหรือมั่นใจในทิศทางราคาหุ้นแม่ นักลงทุนอาจกลับไปมอง DW ตัวที่อัตราทดสูงขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นได้

“สิ่งที่นักเทรด DW ทุกคนควรรู้และมี คือ รู้ทันตลาด รู้จักตัวเอง และมีวินัย” หลักทรัพย์บัวหลวงเบอร์หนึ่งอุตสาหกรรม DW ยืนยันเช่นนั้น...