ลั่น 'เขตต่าง-เบอร์ต่าง' ไม่กระทบนับคะแนนส.ส.บัญชีรายชื่อ

ลั่น 'เขตต่าง-เบอร์ต่าง' ไม่กระทบนับคะแนนส.ส.บัญชีรายชื่อ

ประธาน กรธ. ย้ำหลักการ "เขตต่าง เบอร์ต่าง" เป็นช่องอุดซื้อเสียงได้ มั่นใจความต่างไม่เป็นปัญหาต่อการนับคะแนนบัญชีรายชื่อ เหตุวางกลไกให้นับคะแนนที่หน่วยก่อนรวมที่เขต

นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวยืนยันต่อความคิดที่จะกำหนดในร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ให้ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคได้หมายเลขหาเสียงที่แตกต่างกันตามเขตเลือกตั้ง หรือ ต่างเขต ต่างเบอร์ ตามการจับสลากของผู้สมัคร ส.ส. ขณะที่ข้อเสนอของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่เสนอให้ใช้ชื่อผู้สมัครส.ส. และ โลโก้ของพรรคเท่านั้น เป็นประเด็นที่ กรธ. จะนำไปพิจารณาเพื่อหาข้อสรุป ทั้งนี้ต้องอำนวยความสะดวก และคำนึงถึงประชาชนที่ไม่คุ้นเคยด้วย

"การเลือกตั้งในประเทศไทย ทั้ง 27 ครั้ง เคยกำหนดให้ใช้หมายเลขผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคต่างเขต ต่างเบอร์กัน ซึ่งรูปแบบนั้นมีหลายแบบ กรธ. ต้องหาทางเพื่อแก้ไขปัญหาให้ได้ อย่างน้อยข้อกำหนดให้ใช้ต่างเขต ต่างเบอร์นั้น เป็นช่องทางหนึ่งที่จะทำให้การซื้อเสียงมีความยากมากขึ้น" นายมีชัย กล่าว

นายมีชัย ยืนยันด้วยว่าแนวคิดดังกล่าวจะไม่เป็นปัญหาต่อการรวมคะแนนของผู้สมัคร ส.ส. เพื่อนำผลลัพท์ไปคำนวณหาส.ส. บัญชีรายชื่อเพื่อเติมเต็มตามคะแนนนิยม เนื่องจากระบบการนับคะแนนนั้นกำหนดให้นับที่หน่วยเลือกตั้ง จากนั้นให้นำไปรวมที่เขตเลือกตั้ง โดยแต่ละหน่วยจะระบุชื่อผู้สมัคร ส.ส. และพรรคที่สังกัดไว้อย่างชัดเจน ดังนั้นเมื่อนำคะแนนของผู้สมัครมารวมกัน และคำนวณผ่านเครื่องคิดเลข หรือ ระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้ทราบผลได้ แม้การประกาศผลเลือกตั้งจะช้า ไปจากเดิม 1-2ชั่วโม ก็ไม่เป็นปัญหาเพราะรัฐธรรมนูญกำหนดให้ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศผลเลือกตั้งภายใน 60 วัน