“วัน แชมเปียนชิพ”สุดยอดเวทีต่อสู้แห่งเอเชียสู่สายตาชาวโลก

“วัน แชมเปียนชิพ”สุดยอดเวทีต่อสู้แห่งเอเชียสู่สายตาชาวโลก

ในปัจจุบันกีฬาซึ่งเกี่ยวข้องกับการต่อสู้นั้นกำลังได้รับความนิยมอย่างสูงไปทั่วโลก ดูได้จากการแข่งขันมวยสากลไฟต์หยุดโลกต่างๆ ที่ได้รับความสนใจ

   อย่างไรก็ตามในโลกนี้มีศิลปะการต่อสู้ในหลากหลายรูปแบบ เช่น เทควันโด, คาราเต้, มวยไทย และมวยสากล เป็นต้น แต่มีศิลปะการต่อสู้ประเภทหนึ่งที่น่าสนใจ นั่นก็คือ ศิลปะการป้องกันตัวแบบผสม ซึ่งได้รับการจับตามอง และขยายความนิยมไปทั่วโลก

     สำหรับศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบผสม (มิกซ์ มาเชียล อาร์ท) คือ การต่อสู้ที่รวมเอาศิลปะการต่อสู้หลายแขนงเข้าไว้ด้วยกัน อย่างเช่น มวยไทย ,มวยสากล, ยูโด, มวยปล้ำ, แซมโบ, บราซิลเลียน ยูยิตสู เพื่อความหลากหลาย โดยมีทั้งการเตะต่อย และการทำให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้ ซึ่งเป็นการต่อสู้ด้วยมือเปล่าที่เริ่มได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศ ไทย โดยมีเวที “วัน แชมเปียนชิพ” เป็นผู้เบิกร่องนำการต่อสู้ดังกล่าวเข้ามา

“วัน แชมเปียนชิพ”คืออะไร
     สำหรับ วัน แชมเปียนชิพ คือบริษัทสื่อกีฬายักษ์ใหญ่ของเอเชียและเป็นองค์กรด้านศิลปะการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นเร้าใจที่สุดในโลก ซึ่งริเริ่มในประเทศสิงค์โปร์ เมื่อเดือน ก.ค. 2011 โดยมีนาย ชาตรี ศิษย์ยอดธง ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น เป็นประธานบริหาร มีการจัดกิจกรรมความบันเทิงด้านกีฬาทั่วเอเชีย คับคั่งด้วยนักสู้ป้องกันตัวที่เก่งที่สุดในโลก และแชมป์โลกมากมายซึ่งล้วนลงนามสัญญาเฉพาะกับ วัน แชมเปียนชิพ เพื่อเผยแพร่ในสื่อที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย
     บริษัท วัน แชมเปียนชิพ มีจุดมุ่งหมาย คือ ส่งเสริมสมบัติทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอเชียและสนับสนุนคุณค่าที่ฝังรากลึกมายาวนานทั้งในด้านเกียรติยศ จริยธรรม ความถ่อมตัว ความกล้าหาญ ความเข้มแข็ง และระเบียบวินัย และจากการที่ วัน แชมเปียนชิพ สะท้อนสิ่งเหล่านี้อย่างชัดเจนสู่ผู้ชมชาวเอเชียทั้งทวีป นำเสนอเรตติ้งทีวีที่เป็นสถิติใหม่สูงถึง 26 เปอร์เซ็นต์ และยังประสบความสำเร็จในการสร้างการเติบโตของยอดผู้ชมวีดีโอในโซเชียลมีเดีย ด้วยตัวเลขผู้ชมที่สูงถึง 600 ล้านวิว ในปี พ.ศ. 2560 เทียบกับ 312,000 วิว ในปี พ.ศ. 2558

ความโด่งดังในระดับเอเชีย

     สำหรับ “ทวีปเอเชีย” คือ ถิ่นกำเนิดของศิลปะการป้องกันตัวหลายแขนงมานานกว่า 5,000 ปี ไม่ว่าจะเป็น คาราเต้, มวยกัมพูชา, มวยไทย, กังฟู, ยูยิตสู, ยูโด, มวยกาลี และ มวยปล้ำซุย ซึ่งจากการได้รับความนิยมมาตลอด 6 ปี ทำให้บริษัทได้ขยายการตลาดไปทั่วเอเชีย เนื่องจากเป็นการเปิดมิติใหม่สำหรับคนที่มีใจรักและชื่นชอบในกีฬาการต่อสู้อย่างแท้จริง โดยได้เริ่มจัดกิจกรรมในหลายเมืองใหญ่ทั่วเอเชีย ทั้งกรุงเทพฯ ปักกิ่ง สิงคโปร์ จาการ์ตา มะนิลา ย่างกุ้ง มาเก๊า เซี่ยงไฮ้ ไทเป และเมืองอื่นๆ อีกมากมาย โดยจะจัดทั้งหมด 26 อีเวนต์ตลอดทั้งปี
     โดยเฉพาะในประเทศไทย ที่มีการจัดเวที วัน แชมเปียนชิพ มาแล้วหลายครั้งตั้งแต่เมื่อช่วงปีที่แล้ว และต้นปีที่ผ่านมา จนมีนักกีฬา เอ็มเอ็มเอ ที่ได้รับความสนใจในวงกว้าง เช่น ชนนภัทร วิรัชชัย นักสู้ชาวไทย, ริกะ อิชิเกะ นักสู้สาวลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น และ เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค แชมป์เอ็มเอ็มเอคนแรกของไทย
     และในครั้งล่าสุดที่ Cotai Arena, The Venetian เขตปกครองพิเศษมาเก๊า สาธารณรัฐประชาชนจีน ในศึกสังเวียนเดือด “ONE: KINGS & CONQUERORS” โดยคู่ที่น่าสนใจคือ บีเบียโน เฟร์นานเดซ สามารถรักษาแชมป์โลกไว้ได้จากการเอาชนะนักสู้ชาวอเมริกันอย่าง แอนดรูว์ ลีโอเน พร้อมกันกับ อาเดรียโน โมราเลส ที่สามารถเอาชนะ ไคลัท อาร์เมตอฟ และกลายเป็นแชมป์ในรุ่นฟลายเวตไปได้ 
    ในไฟต์ดังกล่าวก็ได้รับความสนใจจากแฟนๆเป็นอย่างมาก โดยมีผู้ชมราว 1 หมื่นคนเข้าไปชมการแข่งขัน และมีการถ่ายทอดสดให้ชมใน 4 ประเทศ ทั้ง ไทย, สิงค์โปร์, ฟิลิปปินส์ และมาเก๊า รวมถึงมีสื่อจากหลายชาติ เช่น ไทย, มาเก๊า, ฟิลิปปินส์, นิวซีแลนด์, แอฟริกาใต้, มาเลเซีย และ จีน ร่วมทำข่าว
     ประธานบริหาร วัน แชมเปียนชิพ ตั้งเป้าว่าจะใช้ทวีปเอเชีย เป็นฐานหลักในการจัดการแข่งขัน เนื่องจากเป็นถิ่นกำเนิดของศิลปะการต่อสู้ ซึ่งในขณะนี้ก็มีแนวโน้มที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆในทุกปี

พร้อมสู่ความนิยมระดับโลก

     จากความสำเร็จทั้งหมดในการจัดแข่งขันเวที วัน แชมเปียนชิพ ซึ่งมียอดผู้ชมกว่า 1 พันล้านคนในกว่า 128 ประเทศทั่วโลกผ่านบริษัทถ่ายทอดสัญญาณระดับโลกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดหลายแห่ง ทั้งฟ็อกซ์ สปอร์ต, เซทานทา, เอ็มเอ็นซี, แอสโตร, ไทยรัฐทีวี, เอบีเอส-ซีบีเอ็น, ทีวี5, เอ็มวายทีวี, เอชทีวี, โอเอสเอ็น และอื่นๆ

     ส่งผลให้มีหลายบริษัทเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรกับ วัน แชมเปียนชิพ เพื่อต่อยอดความสำเร็จ ทั้ง เทมาเส็ก โฮลดิงส์ จำกัด บริษัทลูกของบริษัท เทมาเส็ก หน่วยงานลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ และ ซีเควนช์ แคปิตอล บริษทเงินทุนจากสหรัฐ เพื่อหนุนแผนขยายธุรกิจของกีฬาชนิดดังกล่าวในทวีปเอเชียมากขึ้น
     รวมไปถึงล่าสุด คือ การร่วมพันธมิตรกับ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง ซีคัวญ่า อินเดีย และ มิชชั่น โฮลดิงส์ ด้วยงบประมาณกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 3.2 พันล้านบาท) ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดของวันในอุตสาหกรรมสื่อกีฬาของเอเชีย และเร่งการเติบโตในระดับโลกเหมือนเวทีการต่อสู้อื่นๆ เช่น อัลติเมท ไฟท์ติง แชมเปียนชิพ (ยูเอฟซี) ซึ่งมี รอนด้า เราซีย์ นักสู้สาวเป็นตัวชูโรง และเบลลาเตอร์ เอฟซี ต่อไป
     โดยคุณชาตรี กล่าวว่า “ผมมีความยินดีอย่างมากที่ได้ประกาศความร่วมมือกับซีคัวญ่า ภารกิจของเราคือการแสดงพลังของซูเปอร์ฮีโร่ทั่วทั้งเอเชียเพื่อจุดประกาย สร้างแรงบันดาลใจ กระตุ้นความหวัง ส่งเสริมความเข้มแข็งและสานฝันของทุกภาคส่วนในสังคม ซีคัวญ่า ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทจัดการเงินทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกมีประวัติที่ยอดเยี่ยมในการจับมือกับบริษัทที่กำลังเติบโตและช่วยให้บริษัทเหล่านั้นก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดระดับโลก ผมมีความมั่นใจว่าความเชี่ยวชาญ เครือข่าย และทรัพยากรของซีคัวญ่าจะช่วยให้ วัน แชมเปียนชิพ ประสบความสำเร็จ ผมตื่นเต้นที่ ซีคัวญ่า มิชชั่น โฮลดิงส์ และเฮลิโคเนีย แคปิตอล แมเนจเมนท์ เชื่อมั่นในทั้งภารกิจของเราที่จะปลดปล่อยพลังของซูเปอร์ฮีโร่ และเป้าหมายของเราในการเป็นบริษัทสื่อกีฬายักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งที่มีมูลค่ามหาศาลรายแรกของเอเชีย และจะก้าวไปสู่ระดับโลกในอนาคต”
     

     และทั้งหมดนี้คือ วัน แชมเปียนชิพ เวทีซึ่งเกิดขึ้นจากการยกย่องศิลปะการต่อสู้ของเอเชีย ซึ่งขณะนี้ได้ครองใจผู้ชม และแฟนๆกีฬาชาวเอเชียไปทั่วทวีป เนื่องจากมีความสนุกสนาน และแฝงด้วยการเผยแพร่ศิลปะ-วัฒนธรรมของชาตินั้นๆ ซึ่งในอนาคตเชื่อว่า วัน แชมเปียนชิพ จะก้าวไปสู่ระดับโลก และสร้างชื่อเสียงให้ศิลปะการต่อสู้ของทวีปนี้ได้มากขึ้นอย่างแน่นอน