ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.ร่วงต่ำสุดในรอบ7เดือน

ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.ร่วงต่ำสุดในรอบ7เดือน

หอการค้าไทย เผย ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ค. อยู่ที่ 73.9 ร่วงต่ำสุดในรอบ 7 เดือน หลังปชช.กังวลสถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือ-อีสาน

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกรกฎาคม 2560 อยู่ที่ระดับ 73.9 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน เนื่องจากผู้บริโภคกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือประกอบกับราคาพืชผลทางการเกษตรยังอยู่ในระดับต่ำ และปรับลดลงในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา เช่น ข้าว ยางพารา มันสำปะหลังข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปาล์มน้ำมัน และสับปะรดโรงงาน ส่งผลต่อกำลังซื้อในต่างจังหวัดลดลง และทำให้ผู้บริโภคกังวลว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยอาจจะยังไม่ฟื้นตัวดีขึ้นมากอย่างที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้กังวลถึงปัญหาค่าครองชีพและ ราคาสินค้าที่ยังอยู่ในระดับสูง จากราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นมา ซึ่งไม่สอดคล้องกับรายได้ในปัจจุบัน และส่งผลต่อดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอนาคตให้ปรับตัวลดลงด้วยเช่นกัน โดยในเดือนกรกฎาคมลงมาอยู่ที่ระดับ 83.1

นอกจากนี้ ผู้บริโภคเองมีความกังวลเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาแรงงาน จาก การออก พ.ร.ก. บริหารแรงงานต่างด้าวของรัฐบาลที่ยังจัดการไม่เสร็จสิ้นอาจส่งผลต่อตลาดแรงงานได้ ดังนั้น รัฐบาลควรเร่งกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ และเร่งรัดการลงทุนให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ตลอดจนกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก เพื่อเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชน ซึ่งจะช่วยให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและการใช้จ่ายนั้นปรับตัวดีขึ้น และทางศูนย์มองว่าการเติบโตเศรษฐกิจปีนี้ จะโตอยู่ที่ร้อยละ 3.6 และส่งออกยังเป็นบวกอยู่ โดยในเดือนหน้าจะแถลงปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจในแต่ละด้านกันใหม่

ส่วนผลกระน้ำท่วมในพื้นที่ 10 จังหวัดภาคอีสานนั้น ทางศูนย์ประเมินผลกระทบต่อจีดีพีรัอยละ 0.03-0.05 หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 9,574 ล้านบาท โดยแยกเป็นภาคเกษตร 4,774 ล้านบาท ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม 3,434 ล้านบาท และถนนหนทาง วัด ยานพาหนะอีก 1,366 ล้านบาทเป็นต้น