MORNING CALL ACTION NOTES (7 ส.ค.60)

MORNING CALL ACTION NOTES (7 ส.ค.60)

ติดตามการประชุมกลุ่ม OPEC

ตลาดหุ้นไทยวานนี้แกว่งตัวแคบ โดยแม้จะมีแรงซื้อในกลุ่ม Energ จากราคาน้ำมันที่ทรงตัวระดับสูง รวมถึงกลุ่ม Trans จากค่าระวางที่ปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตามยังคงมีแรงขายกลุ่ม Bank จากความกังวล NPL กดดันดัชนี ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,578.26 จุด (+0.01 จุด) Vol. 3.4 หมื่นลบ. โดย Foreign Net –936 ลบ. TFEX Net +4,043 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ +2,682 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ตลาดหุ้น DJ ปรับตัวขึ้นตอบรับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 209,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานเดือนมิ.ย.ลดลงสู่ระดับ 4.3% จาก 4.4%

+ ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นล่าสุด 49.6 US/Barrel หลังแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐลดลง 1 แท่น สู่ระดับ 765 แท่น รวมถึงคาดหวังผลการประชุม OPEC และ Non OPEC ในวันที่ 7-8 ส.ค.

+/- Fund Flow ต่างชาติเป็น Net Sell 8 วันราว 1.6 หมื่นลบ. แม้ว่าเงินบาทจะยังแข็งค่าล่าสุด 33.2 Bath/USD

- ผู้จัดการกองทุน หวั่นเหตุการณ์ฟองสบู่ดอตคอมย้อนรอย หลังพบ P/E ตลาด NASDAQ สูงถึง 93 เท่า (ข่าวหุ้น)

** 7 ส.ค. XD ADVANC @ 3.51 บาท SCC @ 8.50 บาท 8 ส.ค. PTTEP @ 1.50 บาท

** 7-8 ส.ค. ประชุม OPEC และ Non OPEC คาดหารือเรื่องการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน

** 10 ส.ค. ประมูลรถไฟทางคู่ สายนครปฐม-หัวหิน

** 11 ส.ค. MSCI ประกาศหุ้นเข้าออกในการคำนวณดัชนี

ภาวะตลาดหุ้นไทยได้ปัจจัยบวกจากตัวเลขการจ้างงานและอัตราการว่างงานของสหรัฐแข็งแกร่ง อีกทั้งราคาน้ำมันที่ทรงตัวระดับสูงจากความคาดหวังผลการประชุมกลุ่มในและนอก OPEC ในวันที่ 7-8 ส.ค. อย่างไรก็ตามการขึ้น XD ของหุ้น ADVANC SCC รวมถึง Fund Flow ต่างชาติที่เป็น Net Sell ต่อเนื่องจะกดดันต่อทิศทางดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,570 – 1,585 จุด

กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy

- กลุ่มโรงกลั่น ค่าการกลั่นปรับตัวขึ้นล่าสุดราว 7 US/Barrel

- กลุ่มเดินเรือ ค่าระวางเรือขึ้นทำ High ในรอบ 1 เดือนล่าสุด 1,032 จุด

- SYNEX COM7 SIS BIZ MGT กลุ่มนำเข้าได้ประโยชน์เงินบาทแข็งค่า

- กลุ่มที่คาดว่างบ Q2/17 จะเติบโตขึ้น CK BPP BANPU RS LH HARN WICE JWD LIT BIZ MGT ECF PPS SYNEX

หุ้นแนะนำพิเศษ

LIT (ราคาปิด 12.20 ซื้อ ราคาเหมาะสม 14.20 )

• รายได้มีศักยภาพเติบโดสูงจากการที่รัฐบาลเร่งผลักดันโครงการภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ LIT มีโอกาสปล่อยกู้ผู้ประกอบการ SME ที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน ปัจจุบันลูกหนี้ที่ให้บริการภาครัฐมีสัดส่วนสูงถึง 70% ปลายมี.ค. 60 มีลูกหนี้ตามสัญญาเงินให้กู้ยืมในโครงการจัดหาสินค้า (Project Finance) เติบโตสูงถึง 144%YoY

• คาดว่าแนวโน้มกำไร 2Q60 ยังเติบโตได้เมื่อเทียบ YoY ที่มีกำไร 25 ล้านบาทใน 2Q59 โดยน่าจะทำได้อย่างน้อยใกล้เคียง QoQ ที่มีกำไร 34 ล้านบาทใน 1Q60

• ประมาณการกำไรปี 60 ราว 150 ล้านบาท +49% สำหรับปี 61 คาดกำไรเติบโตต่อเนื่อง 26%YoY มาอยู่ที่ราว 188 ล้านบาท


หุ้นมีข่าว

- TM (ราคาปิด 3.10 ซื้อเก็งกำไร ราคาเหมาะสม 3.78) เซ็น MOU กับ Qisda Corporation ประเทศไต้หวัน เพื่อเพิ่มผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ให้มีความหลากหลายครอบคลุมครบวงจร ได้แก่ โคมไฟผ่าตัด (Surgical Lights) เตียงผ่าตัด (Surgical Tables) และวัสดุสิ้นเปลือง (Clinic Application) เช้านี้รายงาน 2Q60 มีกำไร 9.1 ลบ. +78%YoY 1H60 มีกำไร 17 ลบ. +34%YoY

  ความเห็น กำไรที่เติบโตดีแม้รายได้เติบโตไม่มากเพียง 8% มีสาเหตุสำคัญขสกมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน เติบโต141% และต้นทุนการเงิน ลดลง 13%

- LHBANK (ราคาปิด 1.79 ซื้อ ราคาเหมาะสม 2.20) คาดสินเชื่อปีนี้เติบโตระหว่าง 6-10% และตั้งแต่ปี 61 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ขณะที่แนวโน้มหนี้เสียในช่วงครึ่งปีหลังจะลดลง และจะคุมไว้ไม่ให้เกิน 2% (ที่มา ข่าวหุ้น)

  ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองที่ดีต่อการที่ CTBC เข้ามาถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 35.6% (เท่ากับการถือหุ้นของ LH และ QH รวมกัน) จะช่วยเสริมธุรกิจที่ LHBANK ยังไม่มีโดยเฉพาะดิจิตอลแพลทฟอร์มในยุคที่มีการแข่งขันสูงด้านบริการดิจิตอลและฟินเทค อย่างไรก็ดี จำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้น 55% กดดันให้คาดกำไรต่อหุ้นลดลง 29% ด้านผลการดำเนินงาน 1H60 มีกำไร 1,203 ลบ. -12% คิดเป็น 41% ของประมาณการกำไรทั้งปี 60 ที่ ราว 2.9 พันลบ. +4%Yoy ฝ่ายวิจัยคาดผลการดำเนินงาน 2H60 จะดีกว่า 1H60

- PPS (ราคาปิด 1.66 ซื้อ ราคาเหมาะสม 2.07) ลุ้นงบไตรมาส 2/60 แจ่ม บุ๊คงานโครงการส่วนต่อขยายสนามบินสุวรรณภูมิ-คอนโดฯ ลั่นปีนี้รายได้โต 20-30% เดินหน้าเข้าประมูลงานรถไฟทางคู่-รถไฟไทยจีน แย้มอยู่ระหว่างศึกษาธุรกิจใหม่ หวังเพิ่มช่องทางหารายได้ (ที่มา ข่าวหุ้น)

   ความเห็น ฝ่ายวิจัยคาดว่าผลประกอบการใน 2Q60 อยู่ที่ราว 14 ล้านบาททรงตัวใกล้เคียงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา แต่เติบโต 658% จากปีก่อน และคาดกำไรปี 60 เติบโต 58%YoY อยู่ที่ราว 51 ล้านบาท โดยมีมุมมองเชิงบวกว่ารายได้มีศักยภาพในการเติบโตจากการรับงานควบคุมการก่อสร้างของภาครัฐที่ทยอยเปิดประมูลใน 2H60

- ACAP (ราคาปิด 18.70 ซื้อ ราคาเหมาะสม 24.40) เดินตามแผน 5 ปี เป้าสินเชื่อแตะ 5 หมื่นล้านบาท ส่วนครึ่งแรกปีนี้ ปล่อยไปแล้ว 5 พันล้านบาท ตั้งเป้าทั้งปี 6 พันล้านบาท ส่วนแนวโน้มกำไรมาส 2 คาดกำไรเติบโตสวย (ที่มา ข่าวหุ้น)

- SC (ราคาปิด 3.24 Bloomberg Consensus 3.85 ) เปิดแผนรุกครึ่งหลังปี 60 จ่อเปิดตัวโครงการแนวราบใหม่ 9 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1.14 หมื่นล้านบาท เสริมพอร์ตโกยเงินเพิ่ม พร้อมทุ่มงบราว 9.1 พันล้านบาท ตุนซื้อที่ดินใหม่รอการพัฒนาโครงการใหม่ใน 3 ปีข้างหน้า (ที่มา ทันหุ้น)

- WICE (ราคาปิด 4.50 Bloomberg Consensus 4.62) คาดผลงาน H2/60 ดีกว่า H1/60 รับผลบวกศก.โลกขยายตัว-ตปท.ย้านฐานผลิต,คงเป้ารายได้ปีนี้โต 30%

- THCOM (ราคาปิด 16.10 Bloomberg Consensus 22.49) รายงานกำไร 2Q60 ลดลง 63%YoY เหลือ 216 ลบ. 1H60 มีกำไร 475 ลบ. -63%YoY


สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ

ตลาดหุ้นดาวโจนส์ +66.71 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,092.81 จุด เพิ่มขึ้น 66.71 จุด หรือ +0.30% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,476.83 จุด เพิ่มขึ้น 4.67 จุด หรือ +0.19% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,351.56 จุด เพิ่มขึ้น 11.22 จุด หรือ +0.18% ขานรับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐแข็งแกร่ง

ตลาดน้ำมัน NYMEX +0.55 USD/Barrel

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 49.58 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ใช้งานในสหรัฐลดลง และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐแข็งแกร่ง

ส่องหุ้น

- ASIAN แนวรับ 13 บาท แนวต้าน 14, 14.5 บาท

- ระดับราคากลับตัวขึ้นต่อเป็นวันที่สองติดต่อกัน พร้อมกับวอลุมที่เข้ามาเยอะพอสมควร ประกอบกับเส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน ตัดเส้น 10 วันขึ้น เป็นสัญญาณที่ดี และ MACD เริ่มดีดกลับขึ้นมาใกล้ทะลุระดับศูนย์อีกครั้ง หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแนวรับที่ประมาณ 13 บาท ระดับราคาจึงจะมีลุ้นปรับตัวขึ้นต่อได้แถวๆ 14 บาทและมีแนวต้านถัดไปที่ 14.5 บาท

- BKD แนวรับ 3.72 บาท แนวต้าน 3.9, 4 บาท

- ระดับราคาสามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ 3.72 บาท ขึ้นไปทำ new high ได้อย่างแข็งแกร่ง และสามารถปิดได้สวยที่ high คือ 3.80 บาท พร้อมกับวอลุมการซื้อขายที่สูงมาก จึงมองว่าหากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 3.72 บาท มีโอกาสที่ระดับราคาจะขึ้นไปต่อที่ 3.90 บาท และ 4 บาทได้ตามลำดับ

- JMT แนวรับ 30.75 บาท แนวต้าน 32.5, 34 บาท

- ระดับราคาสามารถปิดยืนอยู่เหนือเส้น 5 วันได้อย่างแข็งแกร่ง ประกอบกับวอลลุมที่มีเข้ามาตลอดทั้งสัปดาห์ และMACD ตัดเส้นค่าเฉลี่ยเป็นสัญญาณที่ดี ทำให้มีสิทธิขึ้นต่อได้ จึงมองว่าหากวันนี้ระดับราคาไม่ลงมาต่ำกว่า 30.75 บาท ทำให้มีโอกาสที่ราคาจะขึ้นไปทดสอบแนวต้าน แถวๆ 32.5 บาท และ 35 บาท ได้ตามลำดับ