‘เมโทรมอลล์’เสริมแม่เหล็กซูเปอร์มาร์เก็ต-สะดวกซื้อ

นายณัฐวุฒิ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการบริษัท แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์คส์ จำกัด (บีเอ็มเอ็น)  ผู้ดำเนินธุรกิจพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในระบบรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที ภายใต้พื้นที่ค้าปลีก “เมโทร มอลล์” เปิดเผยถึงแผนธุรกิจระยะ 3 ปีนี้ (2560-2561) ว่าจะใช้งบประมาณ 400-500 ล้านบาท ในการปรับปรุงและยกระดับพื้นที่ค้าปลีก เมโทร มอลล์ รองรับความต้องการของผู้โดยสารรถไฟฟ้าที่พบว่าเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

ทั้งนี้ ได้เปิดกว้างพันธมิตรธุรกิจเข้ามาร่วมพัฒนาพื้นที่และให้บริการ โดยขณะนี้มีแบรนด์ระดับแม่เหล็กเป็นพันธมิตรทางการค้าที่จะขยายตลาดร่วมกันในทุกสาขาของเมโทร มอลล์   เช่น ร้านสะดวกซื้อลอว์สัน 108 คาเฟ่ อเมซอน ล่าสุด กูร์เมต์ มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ตระดับพรีเมียมภายใต้กลุ่มเดอะมอลล์ จะเปิดสาขาแรกที่เอ็มอาร์ที ลาดพร้าว  รวมทั้งร้านกาแฟสตาร์บัคส์ ที่จะเข้ามาเป็นพันธมิตรทางการค้าเปิดสาขาแรกเอ็มอาร์ที เพชรบุรี 

สำหรับแผนพัฒนาธุรกิจพื้นที่ค้าปลีก อยู่ระหว่างปรับปรุง เมโทร มอลล์ สถานีสุขุมวิท ซึ่งสร้างรายได้อันดับ 1 มีผู้โดยสารเข้าออก 8-9 หมื่นคนต่อวัน ให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น เพิ่มพื้นที่ส่วนกลาง ฟรีไวไฟ จะเป็นต้นแบบของการปรับปรุงสถานีอื่นๆ ่รวมทั้งการเปิดสถานีใหม่ในอนาคต โดยไตรมาส 4 จะทำการเปิดเมโทร มอลล์ สถานีเพชรบุรี  ่ซึ่งมีผู้ใช้บริการมากเป็นอันดับ 3  จุดที่ตั้งของสถานีเชื่อมต่อแอร์พอร์ตเรียลลิงค์ และการเดินทางย่านระพระราม 9 ซึ่งโดยรอบมีอาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียม สถาบันการศึกษาจำนวนมาก 

“บีเอ็มเอ็น มุ่งขยายธุรกิจให้สอดคล้องไปกับการพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ และศึกษาโอกาสในการบริหารพื้นที่พัฒนาเชิงพาณิชย์ในโครงการพิเศษที่ BEM เป็นผู้ดำเนินการในปัจจุบัน เช่น โครงการทางพิเศษศรีรัช- วงแหวนรอบนอก และโครงการอื่น ๆ ในอนาคต”

สำหรับรถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้บริการ 3 หมื่นคนต่อวัน และวันที่ 11 ส.ค. นี้ จะเปิดให้บริการ สถานีเตาปูนที่เชื่อมต่อสถานี บางซื่อ อย่างเป็นทางการ ส่งผลให้มีผู้ใช้บริการสายสีม่วงเพิ่มขึ้น คาดมีผู้ โดยสารจากสายสีม่วงเดินทางต่อไปยังสายสีน้ำเงิน 2 หมื่นคนต่อวัน

ปัจจุบัน เมโทร มอลล์  มีพื้นที่ค้าปลีก 11 สถานี รวม 1.4 หมื่นตร.ม. เปิดให้บริการแล้ว 7 สถานี  ภายในสิ้นปีนี้เตรียมเปิดอีก 2 สถานี  ลาดพร้าว และเพชรบุรี  ก่อนหน้านี้เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เปิดให้บริการสถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย  มีการตอบรับที่ดีจากผู้โดยสารรถไฟฟ้า และกลุ่มคนทำงานตามอาคารต่าง ๆ ที่อยู่บริเวณโดยรอบสถานี อาทิ อาคารตลาดหลักทรัพย์ อาคารเอไอเอ และทรู ทาวเวอร์

ส่วนสถานีลาดพร้าว จากการสำรวจบริเวณโดยรอบสถานี พบว่า มีการเติบโตของแหล่งที่พักอาศัยอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าที่เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง มีอาคารจอดแล้วจร รองรับรถยนต์ของผู้มาใช้บริการรถไฟฟ้าได้กว่า 2,000 คันและในอนาคต จะเป็นสถานีที่เชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้าสายสีเหลือง บริษัทจึงเล็งเห็นศักยภาพของสถานีนี้ในการพัฒนาพื้นที่ค้าปลีก เพื่อรองรับการเติบโตของจำนวนผู้ ใช้บริการที่เพิ่มมากขึ้น และผู้ที่อยู่อาศัยบริเวณโดยรอบสถานี

พื้นที่ค้าปลีกของสถานี ลาดพร้าว จะมี 2 ส่วน ปีนี้จะทำการเปิดพื้นที่ส่วนแรกบริเวณอาคารจอดแล้วจรขนาด 2,300 ตร.ม. มี“กูเมต์ มาร์เก็ต” เป็นแม่เหล็กเปิดบริการวันที่ 19 ก.ย.นี้เป็นต้นไป 

สำหรับผลประกอบการของบีเอ็มเอ็น ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ ปี 2555-2559 รายได้เติบโตเฉลี่ย 14% มีรายได้หลักจากธุรกิจสื่อโฆษณา 60% ธุรกิจโทรคมนาคม 30%  และพื้นที่เชิงพาณิชย์ 10%  ปีนี้ ตั้งเป้าหมายรายได้ 600 ล้านบาท เติบโต 20% จะผลักดันรายได้แตะ 1,000 ล้านบาท ภายในปี 2563 พร้อมอยู่ระหว่างวางแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อีกด้วย 

 ขณะที่ธุรกิจสื่อโฆษณา มีการเติบโตที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะเน้นพัฒนานวัตกรรม อาทิ การทำอินเตอร์แรคทีฟบนผนัง หรือบนพื้นทางเดินภายในสถานี การตั้ง 3D Mock Up ของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงเป้าหมาย