พลังงานหมุนเวียนสะอาด พลังงานแห่งอนาคต

พลังงานหมุนเวียนสะอาด พลังงานแห่งอนาคต

นักเทคโนโลยีแห่งเนคเทคอ้างอิงรายงาน Carbon Major สรุปชัดๆ ว่า อนาคตของแหล่งพลังงานคงไม่ใช่พลังงานจากฟอสซิลอย่างแน่นอน ทั้งยังบอกอีกว่า พลังงานที่ต้องการมากขึ้นของโลกในอนาคตอีก 20 ปีข้างหน้า ครึ่งหนึ่งจะมาจากพลังงานหมุนเวียน ซึ่งมีต้นทุนถูกลงเรื่อยๆ

จะทำอย่างไรให้คนอีกหนึ่งหมื่นล้านคนทั่วโลกในปี 2593 มีพลังงานใช้เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตเหมือนประชากรในประเทศที่พัฒนาแล้ว เป็นคำถามที่พวกเราต่างหาคำตอบ เป็นความท้าทายใหม่ของมนุษยชาติที่พวกเราต้องเผชิญ เทคโนโลยีเพื่อผลิตพลังงานอย่างเช่นที่ใช้มาในอดีต เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน หรือจากฟอสซิล อย่างน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และ โรงไฟฟ้าจากเขื่อน ฯลฯ คงจะไม่เพียงพอและไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ทันกาล เทคโนโลยีเพื่อผลิตพลังงานใหม่ๆ จำเป็นต้องถูกวิจัยและค้นพบเพื่อให้ได้พลังงานที่สะอาดและยั่งยืน

ล่าสุดมีตัวเลขที่น่าสนใจในรายงานจาก Carbon Majors ระบุว่า ผลผลิตเพียง 100 บริษัททั่วโลกรวมกันปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากถึงร้อยละ 70 ของปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยทั้งโลกรวมกัน และมากกว่าครึ่งหนึ่งของก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยมาตั้งแต่ปี 2531 ซึ่งเป็นปีที่ก่อตั้งคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลประเทศต่างๆ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ IPCC ในรายชื่อบริษัท 100 แห่งนี้มีบริษัทจดทะเบียนไทยหนึ่งราย นั่นคือ บมจ. บ้านปู ผู้ผลิตถ่านหินส่งออกรายใหญ่ อยู่ที่อันดับ 83 และถูกคำนวณว่า ได้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมคิดเป็นร้อยละ 0.11 ของทั้งโลก จากตัวเลขในรายงานนี้ เราสามารถสรุปได้ว่า อนาคตของแหล่งพลังงานคงไม่ใช่พลังงานจากฟอสซิลอย่างแน่นอน เพราะโลกคงจะร้อนเกินไป ถ้าขืนยังใช้พลังงานแบบเดิมนี้ต่อไปอีก 30 ปีข้างหน้า ปัจจุบันมีแหล่งพลังงานหมุนเวียนสะอาดที่มาทดแทน ได้แก่ พลังงานจากแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานจากน้ำ ซึ่งในอดีตมีราคาแพง แต่ในปัจจุบันมีต้นทุนที่ต่ำกว่าต้นทุนพลังงานจากฟอสซิล กำลังได้รับความสนใจและถูกนำมาใช้มากขึ้น ถือเป็นจุดเปลี่ยน (Tipping Point) สำคัญที่ทำให้พลังงานหมุนเวียนมีความต้องการใช้มากขึ้นอย่างรวดเร็ว

รายงาน Energy Outlook 2560 ของบริษัท BP ผู้ผลิตพลังงานจากฟอสซิลรายใหญ่ของโลก ยอมรับว่า พลังงานที่ต้องการมากขึ้นของโลกในอนาคตอีก 20 ปีข้างหน้า ครึ่งหนึ่งจะมาจากพลังงานหมุนเวียน และจะขยายตัวถึง 4 เท่าตัว ถึงแม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะสามารถผลิตก๊าซธรรมชาติราคาถูกได้จาก shale gas ก็ตาม จากรายงาน Global Trends in Renewable Energy Investment 2017 จัดทำโดย Frankfurt School of Finance & Management และ United Nations Environment Programme รายงานว่า ปีที่ผ่านมามีการเพิ่มขึ้นของแหล่งพลังงานหมุนเวียนทุกประเภทรวมกันสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ คือ ติดตั้งเพิ่ม 138.5 กิกะวัตต์ มากกว่าปี 2558 ที่ติดตั้งไป 127.5 กิกะวัตต์ แต่มีการลงทุนลดลงร้อยละ 23 ลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2558 เนื่องจากราคาของโซลาร์เซลล์ต่อเมกะวัตต์ที่ถูกลงถึงร้อยละ 10

ดังนั้น จะเห็นลางๆ แล้วว่า แหล่งพลังงานแห่งอนาคตจะเป็นเช่นไร ติดตามต่อครั้งหน้าครับ

*บทความโดย ดร.อดิสร เตือนตรานนท์ ที่ปรึกษา สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ