'ปลาทู ดิฐวัฒน์’ ปลาอะไรแอคทีฟสุดๆ

ปลาทู - ดิฐวัฒน์ อิสสระ บุตรชายคนกลางของครอบครัวอิสสระ รับผิดชอบดูแลโปรเจคอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่หลายแห่งมูลค่านับพันล้านบาท เป็นผู้บริหารหนุ่มที่กระตือรือร้นกับทุกๆ เรื่อง ทั้งยังเป็นนักกิจกรรมตัวยง ถอดแบบคุณพ่อ (สงกรานต์ อิสระ) ที่แอคทีฟไม่แพ้กัน ต่อไปจะมีโอกาสพบเจอได้บ่อยครั้งในกิจกรรมวิ่งทางไกล แม้ก่อนหน้านี้เคยออกตัวว่าไม่ชอบวิ่งออกกำลัง จนเมื่อได้ชิมลางลงสนาม Trial Run 25 กิโลเมตร ซึ่งมีกิจกรรมเอกซ์ตรีมระหว่างทางทั้งลุยโคลนและปีนเขา สร้างความประทับใจให้เกินกว่าที่คิด แล้วเขาก็เป็นอีกคนที่ตกหลุมรักการวิ่งมาราธอน

แม้จะเป็นนักบริหารที่สนุกกับการทำงานอย่างมาก แต่ปลาทูก็ให้ความสำคัญกับการทำกิจกรรมต่างๆ โดยมีคุณพ่อเป็นแบบอย่าง เขาชอบกีฬากลางแจ้ง ชอบเดินป่า แต่ไม่ชอบวิ่งกระทั่งล่าสุดลงสนามวิ่ง 25 กิโลเมตร Trial Run แล้วเกิดความประทับใจกว่าที่คิด เพราะนอกจากกิจกรรมต่างๆ แล้ว ขณะที่วิ่งก็เป็นช่วงเวลาที่ทำให้ได้อยู่กับตัวเอง กลายเป็นกิจกรรมที่เปิดมุมมองใหม่ๆ ได้มาก จากเดิมที่ไม่ชอบวิ่ง พอเพื่อนชวนก็ตัดสินใจไป และเริ่มฝึกวิ่งไปทีละนิดจนกระทั่งทำได้ที่ 25 กิโลเมตรในปีนี้ และปีก่อน คุณพ่อก็พาไปปั่นจักรยาน ระยะทาง 60 กิโลเมตร สิ่งที่คิดว่าทำไม่ได้ก็สามารถเอาชนะขีดจำกัดของตนเองจนทำได้สำเร็จ จึงเริ่มมองไตรกีฬา เพราะเคยคิดว่า ยากเกินไป แต่ปั่นจักรยานก็ทำได้แล้ว วิ่งก็ทำได้แล้ว คิดว่าจะฝึกว่ายน้ำ เพื่อไปลงไตรกีฬา

“ป๊าเป็นคนที่แอคทีฟมาก มีกิจกรรมเยอะที่สุดในโลก พอ 4 โมงเย็นก็เข้าฟิตเนส ไปทำนั่นทำนี่ ลูกบ้านนี้ไม่ค่อยได้เรียนพิเศษ ทุกสุดสัปดาห์จะพากันไปชะอำ ปากช่อง บ้างก็ไปท่องเที่ยว ไปห้าง เพื่อไปดูว่าเขาทำอะไรบ้าง อย่างที่ภูเก็ตก็เป็นทริปแรกก็ไปดูที่กัน แต่เป็นงานที่สนุก ด้วยนิสัยของป๊ากับแม่ ก็ทำให้ผมเป็นคนแอคทีฟ อย่างอยู่ออฟฟิศ ถ้ารู้ว่า ช่วงนี้ว่าง ก็จะทำให้ไม่ว่าง หาอะไรมาทำ อย่างตอนนี้เริ่มออกกำลังกายมาปีครึ่ง จากปั่นจักรยาน มาเริ่มวิ่ง ได้เจอคนใหม่ๆ เจอคนแต่ละกลุ่มที่มีอะไรที่แตกต่างกัน"

ปลาทูเรียนจบทางด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ จาก Central St. Martins College of Art & Design ต่างจากความตั้งใจในวัยเด็กที่คิดว่าถ้าไม่เรียนด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ก็ต้องเป็นวิศวกรรมศาสตร์ เมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือก ครอบครัวก็บอกให้เลือกเรียนในสิ่งที่ชอบ ทำให้กล้าที่จะเลือกเรียนในแง่ศิลป์ ตอนเรียบจบใหม่ๆ มีคิดบ้างว่า ตัดสินใจถูกหรือไม่ จวบจน 10 ปีของการทำงาน ปลาทูยิ้มรับการตัดสินใจครั้งนั้น ด้วยประจักษ์ว่า สิ่งที่เลือกเรียนมานั้นถูกต้องแล้ว เพราะสามารถมองภาพใหญ่ในเชิงการออกแบบ ให้ตอบโทย์ความต้องการของลูกค้า โดยที่สามารถทำงานร่วมกับทีมซัพพอร์ทให้ตอบทุกมิติทั้งเชิงดีไซน์และการตลาด

3 ปีแรกของการทำงาน ของเด็กจบใหม่ในขณะที่ทีมงานต่างๆ อยู่มานาน 10-20 ปี ในฐานะ Executive Trainee ก็ต้องรับหน้าที่เป็นกราฟิกดีไซเนอร์คนแรก พร้อมออกแบบโบรชัวร์ จนกระทั่งต้องเริ่มตัดสินใจเองในโครงการทิวทะเลเฟส 1 ของบริษัท ร่วมอิสสระ ที่เขารับตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการ และใช้เวลาพัฒนาฝีมือด้วยการสนับสนุนจากทีมงาน สำหรับโครงการแรก ทิวทะเลเฟส 1 การตอบรับดีมาก แม้ในคืนก่อนเปิดขายจะทำเอาเขาตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ แต่เมื่อเป็นไปด้วยดีก็กลายเป็นงานที่สร้างความมั่นใจในการทำโครงการต่อๆ ไป

ความสนุกกับการทำงานของเขาคือ การพัฒนาโครงการใหม่ๆ ที่ต้องคิดและนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา ทั้งในโครงการซูเปอร์ลักชัวรี ซูเปอร์ไฮเอนด์ และคอนโดมิเนียม ที่ต้องทำงานกับพันธมิตรใหม่ที่หลากหลาย ในมุมที่เป็นดีไซเนอร์ ปลาทูสนุกกับการทำทุกโครงการ แต่อย่าให้โจทย์นิ่ง เพราะถ้าให้มานั่งทำโครงการแบบเดิมๆ ไปอีก 10 โครงการโดยไม่มีสิ่งใหม่ให้ทำ เขาก็ไม่ได้คิด แต่โชคดีที่โครงการต่างๆ ของเครืออิสระ แต่ละโจทย์ไม่เหมือนกันเลย ทั้งเรสซิเดนท์ บ้านเดี่ยว คอนโด ทาวน์โฮม ทำให้เป็นเรื่องที่ท้าทายและสนุกสำหรับดีไซเนอร์ สำหรับตอนนี้ ความท้าทายใหม่คือ การร่วมงานกับพี่ชาย (ปลาวาฬ-วรสิทธิ์ อิสสระ) ในโครงการบาบา บีซ คลับ และโครงการที่ร่วมเป็นดีเวลลอปเปอร์ให้กับนักลงทุนในจีน

“เป็นครั้งแรกที่ทำงานกับพี่วาฬ ยากกว่าคุยกับคนอื่น (หัวเราะ) ด้วยความที่ผมน้อง เมื่อก่อนมองอยู่ด้านนอก อาจจะไม่เห็นด้วยในบางจุดที่ผมไม่เข้าใจเหตุผล แต่พอได้มาทำงานร่วมกัน ก็ทำให้เข้าใจมุมมองนั้นมากขึ้น”

เมื่อถามถึงโมเดลในการทำงาน ผู้นำรุ่นใหม่คนนี้บอกว่าได้แบบอย่างมาจากพ่อและแม่ (สงกรานต์-ศรีวรา) โดยแม่จะมาทางสายออกแบบ ซึ่งเป็นคนละเอียดในการดูของ และดูแบบงาน ส่วนพ่อเป็นคนที่เต็มที่กับงานและชอบในสิ่งที่ทำ ส่วนปัจจัยความสำเร็จ เขาให้ความสำหรับกับทีมเวิร์ค เขาไม่เชื่อเรื่อง One Man Show แต่เชื่อเรื่องการทำงานเป็นทีม เพราะการเป็นดีเวลลอปเปอร์ มีทีมขาย ทีมก่อสร้าง ฯลฯ โดยที่เขาเป็นตัวกลางที่ต้องรวบรวมข้อมูล รับฟังทุกคนและต้องลงไปตรวจตลาดเอง แม้จะมีเซลส์เอเย่นสำรวจตลาดอยู่แล้ว แต่ก็ต้องทำของตัวเองด้วย เพื่อดูว่าเข้ากันไหม

ปลาทูวางเป้าหมายให้ตัวเองเป็นคนพอเพียงในระดับหนึ่ง ชอบที่จะค่อยเป็นค่อยไป ไม่ได้คิดว่าจะต้องตั้งเป้าว่า อีก 10 ปีจะต้องเป็นดีเวลลอปเปอร์อันดับที่ 1 หรืออะไรแบบนั้น เพราะความสำเร็จต้องมีความสมดุลทั้งเรื่องงาน ครอบครัว เพื่อน การที่เป็นคนมีเงินเยอะๆ หรือต้องเป็นที่ 1 ไม่ใช่เป้าหมายของ ปลาทู - ดิฐวัฒน์ เมื่อเทียบกับ ความสุขทั้งตัวเอง พนักงานและลูกบ้าน