MORNING CALL ACTION NOTES (4 ส.ค.60)

ตลาดหุ้นไทยวานนี้แกว่งตัวแคบ เนื่องจากมีแรงซื้อดักงบ Q2/17 นำโดยกลุ่ม Health และ Prop รวมถึงการเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็ก อย่างไรก็ตามแรงมีขายกลุ่ม Bank และ Cons กดดันต่อดัชนี ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,578.25 จุด (-2.29 จุด) Vol. 3.8 หมื่นลบ. โดย Foreign Net –2,516 ลบ. TFEX Net +3,031 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ +2,196 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ BOE มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25% และคงวงเงิน QE ที่ 4.35 แสนล้านปอนด์ และคงวงเงินซื้อหุ้นกู้ในภาคเอกชนที่ระดับ 1 หมื่นล้านปอนด์ ขณะที่คาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้งในช่วง 3 ปีข้างหน้า

+ ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของยูโรโซนเพิ่มขึ้น 8.8 จุด สู่ 35.2 ในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2000

+/- ตลาดหุ้น DJ ปิดบวกเล็กน้อน จากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ,ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานที่ +3.0% ในเดือนมิ.ย. และ PMI ภาคบริการของสหรัฐเดือนก.ค.ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 54.7

+/- ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นล่าสุด 49 US/Barrel หลังมีรายงานว่า กลุ่มโอเปก ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในเดือนก.ค.โดยผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 90,000 บาร์เรล/วัน และสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวลดลงน้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์

+/- Fund Flow ต่างชาติเป็น Net Sell 7 วันราว 1.5 หมื่นลบ. แม้ว่าเงินบาทจะยังแข็งค่าล่าสุด 33.2 Bath/USD

** 10 ส.ค. เคาะราคาประมูลรถไฟทางคู่ สายนครปฐม-หัวหิน

ภาวะตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยบวกลบที่คละเคล้า โดยมีแรงหนุนจากแรงซื้อหุ้นรายตัวที่คาดว่างบ Q2/17 จะเติบโตขึ้น รวมถึงราคาน้ำมันที่ทรงตัวระดับสูง อย่างไรก็ตาม Fund Flow ต่างชาติที่ยังคงไหลออกต่อเนื่องจะกดดันต่อทิศทางดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,570 – 1,585 จุด

กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy

- PSTC ECF TPCH GPSC กบง.อนุมัติโซนนิ่งรับซื้อไฟฟ้า SPP Hybrid Firm 300 เมกะวัตต์ พร้อมขยายเวลา COD เป็นปี 64 คาดออกประกาศต้นต.ค.

- TASCO อานิสงส์การซ่อมแซมถนนภายหลังน้ำท่วมภาคเหนือ-อีสาน รวมถึงราคายางมะตอยจีนปรับตัวขึ้นราว 9%MoM

- PLE ได้งานอาคารแซทเทิลไลท์ชั้น2-4 สุวรรณภูมิเฟส 2 ที่ 1.42 หมื่นลบ.

- SYNEX COM7 SIS BIZ MGT กลุ่มนำเข้าได้ประโยชน์เงินบาทแข็งค่า

- กลุ่มที่คาดว่างบ Q2/17 จะเติบโตขึ้น CK BPP BANPU RS LH HARN WICE JWD LIT BIZ MGT ECF PPS SYNEX

หุ้นแนะนำพิเศษ

BCH  (ราคาปิด 14.40 บาท Bloomberg Consensus 15.70 บาท)

• ผู้ประกอบการโรงพยาบาล ที่มีจำนวนเตียงอันดับ 2 ในตลาดฯ ได้รับปัจจัยหนุนผลประกอบการในปีนี้หลายทางจากทั้ง 1) การปรับขึ้นของเงินสนับสนุนจากสำนักงานประกันสังคมในส่วนของค่าเหมาจ่ายรายหัว จากเดิมที่ 1,460 บาท ต่อราย เป็น 1,500 บาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 60 เป็นต้นไป ซึ่งจะหนุนรายได้จากผู้ป่วยประกันสังคมของบริษัทที่มีสัดส่วน 35% จากรายได้รวม ด้วยผู้ประกันตนถึง 7.81 แสนราย (ณ สิ้นงวด 1Q60) และ 2) การดำเนินงานของ WMC ที่เริ่มเข้าใกล้จุดคุ้มทุนของ EBITDA และนำไปสู่การพลิกเป็นกำไรในอนาคต

• แนวโน้มผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปี น่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยคาดว่า 1Q60 จะเป็นจุดต่ำสุด และเริ่มเห็นการเติบโตต่อเนื่องตั้งแต่ 2Q60 เป็นต้นไป อิงจาก Bloomberg Consensus คาดอยู่ที่ 175 ล้านบาท เติบโต 12.2%YoY และ 6.3%QoQ และน่าจะเติบโตต่อใน 3Q60 - 4Q60 จากการเข้าสู่ช่วง High season ทั้งการเปลี่ยนผ่านฤดูกาลหนุนจำนวนผู้ป่วย และช่วงท่องเที่ยวหนุนผู้ป่วยต่างชาติ ในด้าน Valuation ยังเป็น รพ.ที่มี EV/EBITDA อิงกำไร 2017 (Bloomberg Consensus) ต่ำสุดในกลุ่ม ที่ 19.93 เท่า (เทียบ BDMS BH และ CHG) โดยมูลค่าเหมาะสม Bloomberg Consensus อยู่ที่ 15.70 บาท Upside 12.14%

หุ้นมีข่าว

IRPC (ราคาปิด 5.45 Bloomberg consensus 5.98)

- รายงานกำไร 2Q60 ที่ 1.23 พันล้านบาท -66%YoY และ -48%QoQ เนื่องจากค่าการกลั่นรวมปรับตัวลงตามส่วนต่างผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ ส่วนต่างน้ำมันเบนซิน และส่วนต่างน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวลง นอกจากนี้ยังมีผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันดิบและขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยงอีกราว 1.2 พันล้านบาท

   ความเห็น เราคาดว่ากำไรปกติปี 60 ของ IRPC จะเติบโตขึ้นแต่จะไม่สูงมากนักเนื่องจากโรงกลั่น UHV ใช้กำลังการกลั่นเพียง 90% หรือ 194 KBD ในไตรมาส 2 แต่รับรู้ค่าเสื่อมราคาและต้นทุนทางการเงินเต็มจำนวน หากต้องการใช้กำลังการผลิ่นเพิ่มขึ้นสู่ 100% ต้องก่อสร้างหอกลั่นเพิ่มเติมซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 61 ซึ่งคาดว่าจะทำให้ผลประกอบการกลับมาเติบโตโดดเด่นได้

TPCH (ราคาปิด 17.2 ซื้อ ราคาเหมาะสม 22.20) ลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล 4 โครงการ(TPCH1 TPCH2 TPCH5 และ PTG) มูลค่ารวม 3,957 ลบ.
ความเห็น โครงการทั้ง 4 โครงการเป็นไปตามแผนการลงทุนที่บริษัทที่เคยให้ไว้โดยคาดว่าจะทยอย COD ในปี 61 และ 62 3 โครงการและ 1 โครงการตามลำดับ ฝ่ายวิจัยคาดว่าผลประกอบการของบริษัทจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังเนื่องจากรับรู้รายได้โรงไฟฟ้า PGP และ SGP กำลังการผลิตแห่งละ 9.2 MW หนุนให้บริษัทมีกำลังการผลิตรวม 52.8 MW เราคาดว่ากำไรปี 60 จะอยู่ที่ราว 391 ล้านบาทเติบโต 94%YoY

ANAN (ราคาปิด 4.94 Bloomberg Consensus 5.90) เดินหน้าผุด 7 โครงการใหม่ มูลค่าราว 1.6 หมื่นล้านบาท ปั๊ม Backlog เพิ่มจากเดิมราว 4.25 หมื่นล้านบาท กินยาวปี 2562 แถมวางหมากปี 2560 ยอดขายพุ่งแตะ 2.5 หมื่นล้านบาท อานิสงส์โปรเจ็กต์ใหม่หนุน (ที่มา ทันหุ้น)
ความเห็น ภาพรวมการดำเนินงานยังแข็งแกร่งจากที่มี backlog ในระดับสูง สำหรับผลการดำเนินงาน 2Q60 Consensus คาดกำไร 2Q60 ราว 187 ลบ. + 33%QoQ -11%YoY โดยมีปัจจัยกดดันในเรื่องการเปิดตัวโครงการทำให้มีคชจ.ในการดำเนินงานสูงขึ้น โดยกำไรมีแนวโน้มเติบโตสูงสุดรายไตรมาสใน Q4 Consensus คาดกำไรทั้งปี 60 ราว 1.9 พันลบ.+29%YoY

SIRI (ราคาปิด 2.10 Bloomberg Consensus 2.10) ปรับเพิ่มเป้ายอดขายปีนี้เป็น 40,000 ล้านบาท จากเดิมตั้งไว้ 36,000 ล้านบาท หลัง 7 เดือนแรกโกยยอดขายได้แล้ว 17,300 ล้านบาท โตกว่า 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เล็งเปิดใหม่อีก 16 โครงการ มูลค่ารวม 39,260 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

ITEL ชนะประมูล"เน็ตชายขอบ"กลุ่ม 4 มูลค่ารวม 1.89 พันลบ.คาดเซ็นสัญญาก.ย.นี้

TCMC ทุ่ม 3.15 พันลบ.ลงทุนธุรกิจพรมเพื่อการพาณิชย์ "Tai Ping"เพิ่มทุนเท่าตัวขายผถห.เดิมพร้อมแถมวอร์แรนต์


ตลาดหุ้นดาวโจนส์ +9.86 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,026.10 จุด เพิ่มขึ้น 9.86 จุด หรือ +0.04% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,472.16 จุด ลดลง 5.41 จุด หรือ -0.22% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,340.34 จุด ลดลง 22.30 จุด หรือ -0.35% ขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน และข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงยอดสั่งซื้อภาคโรงงานที่พุ่งขึ้นมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ โดยปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 7 อย่างไรก็ตาม ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนลบ เนื่องจากมีแรงขายเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเทคโนโลยี

ตลาดน้ำมัน NYMEX -0.56 USD/Barrel

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 56 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 49.03 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงขึ้น หลังจากมีรายงานว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในเดือนก.ค. และสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวลดลงน้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์

Analyst Meeting : BBL (ราคาปิด 182 Bloomberg Consensus 193.83)

- ผู้บริหารประเมินว่า NPL ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วง 2H60 โดยน่าจะ peak ใน 4Q60 จากผลกระทบที่เป็น external environment โดยไม่มีนโยบาย write off เนื่องจาก recovery rate อยู่ในระดับสูงราว 70%

- ปลายมิ.ย. 60 สินเชื่อเติบโต 1.9%YTD ผู้บริหารคงเป้า loan growth ที่ 4-6% โดยเชื่อว่าความต้องการสินเชื่อกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่จะเร่งตัวขึ้นในช่วงปลายปีที่เป็นช่วงไฮซีซั่น

- ความเห็น ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าธนาคารจะรักษาระดับ Coverage Ratio ที่ระดับราว 150% (ปัจจุบัน 151%) แม้จะต่ำกว่าระดับ 200% ในอดีตแต่ยังสูงสุดในกลุ่ม คาดการณ์ Consensus มีแนวโน้มปรับประมาณการคชจ.สำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้นจากเดิมที่เฉลี่ยราว 1.6 หมื่นลบ.เป็น 1.7 – 1.8 หมื่นลบ. 1H60 มีคชจ.หนี้สูญ 1.15 หมื่นลบ. + 60%YoY ส่งผลให้ประมาณการกำไรปี 60 ลดลงจากปัจจุบันที่ราว 3.4 หมื่นลบ. +7.7% ส่งผลให้แนวโน้มผลประกอบการปีนี้ทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า