เปิดใจคนเลี้ยงหมีควายทำร้ายคน ชี้โซเชียลดราม่า

ที่สำนักสงฆ์สวนสมุนไพรหลวงปู่ละมัย ฐิติมโน หมู่ 8 ต.บ้านโตก อ.เมืองเพชรบูรณ์ พระธเนศ ติขะฐาโณ พระดูแลสำนักสงฆ์ฯ และนางวันดี อยู่ขันสวัสดิ์ ผู้ดูแลเลี้ยงดูหมูป่า ประกาศยกเลิกแจกหมูป่าพร้อมยกเลิกกองทุนชาวเหลือหมูป่าเรียบร้อย โดยให้เหตุผลว่าไม่มีรูปแบบในการแจก บางรายขอหมูเป็น 100 ตัวเหมือนกับมาปล้น และยังเริ่มถูกกล่าวหาเรียกร้องเงินแลกเปลี่ยนหมูป่าอีก

นอกจากนี้มีเพราะมีคนมาขอหมูป่าและถูกหมีกัด จนต้องเสียเจ้าแก้วหมีควายที่ทางสำนักสงฆ์ฯเลี้ยงดูตั้งแต่เล็กไปอีก จึงตัดสินใจยุติการแจกหมูป่าและหากมีผู้ใจบุญต้องการบริจาค ขอเป็นข้าวสารผักผลไม้แทนไม่ขอรับเงิน ส่งผลให้ชาวบ้านที่จะมาติดต่อจะขอหมูป่าไปเลี้ยงต้องผิดหวังไปตามกัน

โดยยืนกรานไม่ขอรับเงินเพื่อความสบายใจกับทุกฝ่าย ทั้งนี้ปรากฎว่าตลอดทั้งวันได้มีชาวบ้านทั้งในและนอกจังหวัด เดินทางมาที่สำนักสงฆ์เพื่อติดต่อขอหมูป่าไปเลี้ยงอย่างต่อเนื่อง ภายถูกปฎิเสธชาวบ้านเหล่านี้แม้จะแสดงความผิดหวังก็ตาม แต่ส่วนใหญ่ก็เข้าใจสถานการณ์ของทางสำนักสงฆ์เป็นอย่างดี

ด้านนางวันดี อยู่ขันสวัสดิ์ กล่าวว่า ถึงขณะนี้ก็ยังเชื่อว่าหมีควายที่เลี้ยงมาตั้งแต่ยังเล็กไม่ได้มีนิสัยดุร้ายอย่างที่เห็นในคลิป และหากเจ้าแก้วต้องการทำร้ายจริงๆเชื่อว่าชาวบ้านรายนี้คงไม่รอด โดยปกติแล้วเจ้าแก้วค่อนข้างคุ้นเคยกับตนมาก และอยู่ร่วมกับหมูป่าเป็นร้อยตัวโดยไม่มีการกัดทำร้ายกัน หากมีเวลาว่างก็จะเข้าไปหยอกล้อเจ้าแก้วทุกวัน ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ไม่น่าเกิดขึ้นหากไม่ไปแหย่จนทำให้เกิดอารมณ์หงุดหงิด หรือช่วงที่มีความพยายามช่วยชาวบ้านรายนี้ไปใช้ไม้ตีหรือหินขว้างใส่ กระทั่งทำให้ไปกระตุ้นสัญชาติญาณสัตว์ป่าของเจ้าแก้ว

“ช่วงที่เข้าไปช่วยชาวบ้านก็คิดว่าเอาอยู่และมั่นใจว่าเจ้าแก้วยังเชื่อฟัง ตอนที่เรียกชื่อเขาก็หยุดชะงักและเมื่อเอาสันมือฟันไปต้นลำคอเจ้าแก้วก็เริ่มผละออก และเมื่อใช้ไม้ไล่ต้อนเจ้าแก้วก็ไม่ขัดขืนต่อสู้ หลังเกิดเหตุแล้วยังสังเกตเห็นแววตาของเจ้าแก้วเหมือนจะสำนึกผิด จึงอยากขอความเป็นธรรมให้หมีแสนรู้ตัวนี้ด้วย ก็ไม่รู้ว่าทางเจ้าหน้าที่เอาเขาไปเลี้ยงดูจะดีเหมือนกับที่เราเลี้ยงหรือเปล่า ทุกวันจะเห็นเจ้าแก้วออกมานั่งคลายร้อนก็จะไปพุดคุยด้วยพร้อมฉีดน้ำให้ ยอมรับว่าเวลานี้ห่วงและคิดถึงเจ้าแก้วมาก และเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นสัญญาณที่ไม่ดีจึงต้องหยุดการแจกหมูป่า นอกจากนี้ไม่คาดคิดว่าจะต้องสูญเสียเจ้าแก้วตลอดไป”

นางวันดี กล่าวด้วยน้ำเสียงแบบเจือความเศร้าและบางช่วงถึงกับมีน้ำตาซึมอีกด้วย
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์เจ้าแก้วหมีเลี้ยงของสำนักสงฆ์ฯ เริ่มกลายเป็นประเด็นดราม่าขึ้นในกลุ่มประชาชนทั่วไป และบนโลกโซเซียลมีเดีย ซึ่งมีการโต้แย้งถกเถียงถึงประเด็นระหว่างหมีกับชาวบ้านที่ถูกกัด โดยฝ่ายที่สงสารหมีตำหนิชาวบ้านหากไม่ไปแหย่หมีก็ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น

ขณะที่ฝ่ายที่เห็นใจชาวบ้านก็ชี้ว่า หมีมีสัญชาติญาณสัตว์ป่าและมีความดุร้ายไม่สมควรนำมาเลี้ยงไว้ในสถานที่แบบนี้