‘ชิครีพับบลิค’รุกการตลาดดิจิทัลรับคนรุ่นใหม่

นายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด โฮมแฟชั่นสโตร์สไตล์ยุโรปและอเมริกา  เปิดเผยว่า  ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะรุกการตลาดแบบดิจิทัลมากขึ้น มุ่งสื่อสารลูกค้าผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ และเริ่มพัฒนาการจำหน่ายอีคอมเมิร์ซ หรือออนไลน์ ซึ่งได้ทดลองตลาดด้วยการเปิดตัวแบรนด์ ริน่า เฮย์  (RINA HEY)  มีผลตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภควัยทำงาน ซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ มีความทันสมัย มีไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิต คนเหล่านี้นิยมใช้เครื่องมือออนไลน์ในการเลือกชมและเลือกซื้อสินค้า 

สำหรับการขยายสาขาใหม่ เตรียมเปิดบริการในทำเลศักยภาพของกรุงเทพฯ อีก 1 สาขา คาดใช้งบลงทุนเฉลี่ย 300-400 ล้านบาท 

ขณะเดียวกัน จะมุ่งสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์หัวหอก เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน “ริน่า เฮย์” ในสไตล์ “อินดัสเตรียล ลอฟท์” มีลูกค้าเป้าหมายกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยเริ่มทำงาน และกลุ่มคนที่เริ่มสร้างครอบครัว ที่มีความเป็นตัวเอง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่ อาศัยของคนรุ่นใหม่ที่มีพื้นที่จำกัด อาทิ บ้าน ทาวน์เฮ้าส์ขนาดเล็ก หรือคอนโดมิเนียมที่มีพื้นที่เล็กลง หรือที่อยู่อาศัยแนวโมเดิร์น 

โดยได้มีการปรับเพิ่มพื้นที่ขายสินค้าแบรนด์ ริน่า เฮย์ ครบทุกสาขาที่มีอยู่อีก 3 แห่งแล้ว ได้แก่ สาขาประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา) สาขาบางนา (บางนา-ตราด กม. 4) และสาขาพัทยา (เยื้องบิ๊กซีพัทยาใต้)  ขณะนี้เตรียมแผนเปิดสแตนอะโลนสโตร์แบรนด์ ริน่า เฮย์ ภายในปีนี้ 

จากแผนธุรกิจและปัจจัยสนับสนุนดังกล่าว ทำให้บริษัทมั่นใจว่าในปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมาย  5-10%  จากปีก่อนมียอดขาย 860 ล้านบาท  โดยรายได้เพิ่มขึ้นจากกลุ่มลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ ที่มีสัดส่วน 25-30%  ลูกค้าส่วนค้าปลีกสัดส่วน 75%

“ตลาดอสังหาฯ ระดับกลาง-บน ยังเติบโตได้มากในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลดีกับตลาดเฟอร์นิเจอร์ โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ที่เน้นไลฟ์สไตล์ มีดีไซน์โดดเด่น ขายความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สอดรับพฤติกรรมลูกค้าสมัยใหม่”

ขณะที่แบรนด์ ชิค รีพับบลิค ทำตลาดเน้นความคุ้มค่า พร้อมสร้างแรงบันดาลใจและมอบประสบการณ์ใหม่ ผ่านเรื่องราวของสินค้าแต่ละประเภท ทำให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายหลักได้อย่างดีท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจซบเซา

ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดเฟอร์นิเจอร์ระดับกลาง-บน ช่วง 6 เดือนหลังของปีนี้เชื่อว่าจะขยายตัวต่อเนื่อง จากกำลังซื้อที่แท้จริงของตลาดกลาง-บน ที่มีอยู่และมีการใช้จ่าย เป็นไปตามตลาดอสังหาฯ ระดับกลางบน ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทยังสามารถปิดยอดขายทั้งโครงการได้ในหลายโครงการ