‘โตเกียวมารีน’รุกการออมรับเกษียณ

โตเกียวมารีน มองกำลังซื้อยังทรงตัว ดึงตลาดประกันชีวิตครึ่งปีหลังโตใกล้เคียงครึ่งปีแรก ชูกลยุทธ์เน้นขายผ่านตัวแทน ช่วยลูกค้าวางแผนการออมเพื่อการเกษียณ ล่าสุดส่ง "ซูเปอร์ฮีโร่” 15/5 ออมทรัพย์ระยะ 5 ปี คุ้มครอง 15 ปี การันตีผลตอบแทน 3% มั่นใจสิ้นปีเบี้ยรับรวมโต 18%

นายสมโพชน์ เกียรติไกรวัล รองกรรมการ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายตัวแทนประกันชีวิต บริษัท โตเกียวมารีน ประกันชีวิต (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจประกันชีวิตครึ่งหลังของปีนี้ ยังทรงตัวจากช่วงครึ่งปีแรกที่เบี้ยรับรวมเติบโต 6.8% และเบี้ยใหม่ยังหด 12% สาเหตุมาจากการคุมเข้มการขายประกันผ่านสถาบันการเงินและบริษัทประกันชีวิตเน้นขายผลิตภัณฑ์คุ้มครองชีวิตและสุขภาพเป็นหลัก ซึ่งจำนวนเบี้ยประกันภัยต่อกรมธรรม์จะค่อนข้างต่ำ

ขณะเดียวกันช่วงครึ่งปีหลังยังมีความท้าทาย จากภาวะเศรษฐกิจไทยเป็นหลัก เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาตลาดต่างจังหวัดยังไม่ฟื้นนัก และแม้คนกลุ่มนี้จะมีรายได้เพิ่มขึ้นแต่ยังระมัดระวังการใช้จ่าย ขณะที่คนรวยส่วนใหญ่ถือกรมธรรม์ในมือค่อนข้างมาก ซึ่งมีความคุ้มครองครอบคลุม

ดังนั้น การเสนอขายประกันชีวิตทุกช่องทางในช่วงที่เหลือของปีต้องปรับกลยุทธ์เช่นกัน แต่มองว่า เป็นโอกาสที่ดี สำหรับช่องทางตัวแทนที่จะเข้าไปวางแผนความคุ้มครองตอบโจทย์ลูกค้าได้ครบถ้วนและคุ้มค่าสูงสุด

สำหรับกลยุทธ์ของบริษัทในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ นายสมโพชน์ กล่าวว่า บริษัทยังเน้นการขายผ่านช่องทางตัวแทน นำเสนอขายอย่างมืออาชีพและผสมผสานแบบประกันหลากหลาย ให้เห็นถึงความสำคัญของการวางแผนประกันชีวิต โดยเฉพาะวางแผนเตรียมตัวเพื่อเกษียณอายุ ยังตอบโจทย์ความต้องการของคนไทย ถือเป็น จุดแข็งของบริษัทที่เริ่มทำตลาดนี้ตั้งแต่แรกๆ และปัจจุบันคนไทยตื่นตัวกับเรื่องนี้มาก

ล่าสุด บริษัทออกประกัน “ซูเปอร์ฮีโร่” 15/5 ออมทรัพย์ระยะ 5 ปี คุ้มครอง 15 ปี การันตีผลตอบแทน 3% และยังสามารถซื้อสัญญาเพิ่มเติมความคุ้มครองสุขภาพแบบเมดิเคิลฟันด์ ที่สามารถกำหนดความคุ้มครองดูแลสุขภาพได้ตามกำลังซื้อ พร้อมสร้างสวัสดิการหลังเกษียณอายุ เจาะกลุ่มลูกค้าทั่วไปทุกระดับ

“ตลอดปีนี้บริษัทยังคงมุ่งสร้างการเติบโตผ่านช่องทางตัวแทน ด้วยวิธีการคำนวณการคิดเบี้ยจ่ายรายเดือนลดลงกว่าตลาด ทำให้เบี้ยจ่ายรายเดือนของบริษัทอยู่ที่ 5% เมื่อเทียบกับตลาดใช้วิธีการคำนวณจ่ายเบี้ยรายเดือนอยู่ที่ 8% และยังสามารถชำระเบี้ยรายเดือนผ่านบัตรเครดิต ทำให้สะดวกในการเก็บออม ทำให้คนตัดสินใจง่ายขึ้น มุ่งขยายตลาดเจาะกลุ่มคนทั่วไปวัยทำงานมากขึ้น สามารถจ่ายเบี้ยรายเดือน ผ่านการวางแผนบำนาญภาคประชาชน”

นอกจากนี้ แม้ว่าการแข่งขันทำตลาดในกลุ่มลูกค้าระดับบนจะสูงขึ้นมากในช่วงที่เหลือของปีนี้ แต่บริษัทไม่ห่วง เพราะบริษัทบุกเบิกตลาดนี้มาก่อนหน้านี้และมีอัตราการต่ออายุที่สูงถึง 90% หรือสูงเป็นอันดับต้นๆ ของทั้งระบบโดยบริษัทมีสัดส่วนเบี้ยวางแผนเกษียณถึง 50% ของเบี้ยรับรวม และปัจจุบันส่วนใหญ่พบว่า ลูกค้าชำระเบี้ยต่อปีเฉลี่ย 50,000 ขึ้นไป โดยช่องทางตัวแทนยังเติบโตได้ดีขณะที่ช่องทางอื่นๆชะลอตัวลง

ดังนั้น มั่นใจว่า สิ้นปีนี้บริษัทจะมีเบี้ยรวมตามเป้าหมายที่ 6,364 ล้านบาท เติบโต 18% เป็นเบี้ยใหม่ 1,624 ล้านบาทเติบโต 38% โดยมาจากช่องทางตัวแทน เบี้ยรวม 4,402 ล้านบาท เติบโต 41% เป็นเบี้ยใหม่ 1,050 ล้านบาท เติบโต 35% จากครึ่งแรกปียังรักษาการเติบโตได้ตามแผนที่วางไว้