MORNING CALL ACTION NOTES (3 ส.ค.60)

MORNING CALL ACTION NOTES (3 ส.ค.60)

เน้น Trading

ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นนำโดยกลุ่ม HEALTH ที่คาดว่างบจะผ่านช่วงต่ำสุดใน Q2/17 รวมถึงแรงซื้อหุ้นรายตัวดักผลการดำเนินงาน อย่างไรก็ตามดัชนีถูกแรงกดดันจากแรงขายกลุ่ม ICT และ ENERG ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,580.54 จุด (+4.09 จุด) Vol. 4.1 หมื่นลบ. โดย Foreign Net –2,245 ลบ. TFEX Net +6,717 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ +1,454 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ตลาดหุ้น DJ ปรับตัวขึ้น จากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทแอปเปิล อิงค์ รวมถึงตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐยังคงมีการขยายตัวได้ดีในเดือนก.ค.

+ ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นล่าสุด 49.5 US/Barrel หลังความต้องการน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้นสู่ระดับ 9.842 ล้านบาร์เรล รวมถึงสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันดิบลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล

+ กรมเชื้อเพลิงฯ คาดออก TOR ประมูลแหล่งบงกช-เอราวัณในเดือนก.ย. แนวโน้มใช้ระบบแบ่งปันผลผลิต คาดรู้ผล 6-7 เดือน

+/- Fund Flow ต่างชาติเป็น Net Sell 6 วันราว 1.3 หมื่นลบ. แม้ว่าเงินบาทจะยังแข็งค่าล่าสุด 33.3 Bath/USD

** 3 ส.ค. การประชุม BOE อาจขึ้นดบ.ครั้งแรกรอบกว่า 10 ปี หลังกรรมการแตกแถวโหวตการขึ้นดบ.การประชุมครั้งก่อนเดือนมิ.ย.

ภาวะตลาดหุ้นไทยได้ Sentiment เชิงบวกจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น รวมถึงแรงซื้อหุ้นรายตัวที่คาดว่างบ Q2/17 จะเติบโตขึ้น อย่างไรก็ตาม Fund Flow ต่างชาติที่ยังคงไหลออกต่อเนื่อง 6 วันราว 1.3 หมื่นลบ.จะกดดันต่อทิศทางดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,575 – 1,590 จุด

กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยบวก

- PSTC ECF TPCH GPSC กบง.อนุมัติโซนนิ่งรับซื้อไฟฟ้า SPP Hybrid Firm 300 เมกะวัตต์ พร้อมขยายเวลา COD เป็นปี 64 คาดออกประกาศต้นต.ค.

- ITEL ได้งานเน็ตชายขอบ 1 โครงการ (ราคากลาง 1,800 ลบ.)

- BANPU ราคาถ่านหินทำ High ในรอบปีล่าสุด 95 USD/Ton

- TASCO อานิสงส์การซ่อมแซมถนนภายหลังน้ำท่วมภาคเหนือ-อีสาน รวมถึงราคายางมะตอยจีนปรับตัวขึ้นราว 9%MoM

- PLE ได้งานอาคารแซทเทิลไลท์ชั้น2-4 สุวรรณภูมิเฟส 2 ที่ 1.42 หมื่นลบ.

- SYNEX COM7 SIS BIZ MGT กลุ่มนำเข้าได้ประโยชน์เงินบาทแข็งค่า

- กลุ่มที่คาดว่างบ Q2/17 จะเติบโตขึ้น CK BPP BANPU RS LH HARN WICE JWD LIT BIZ MGT ECF PPS SYNEX

หุ้นแนะนำพิเศษ

HARN (ราคาปิด 3.30 บาท ซื้อ ราคาพื้นฐาน 4.00 บาท)

• คาดกำไรปี 60 ที่ 105 ลบ. (+159%YoY) จากเป้ารายได้ปี 60 โตเท่าตัวจาก Economy of scale การควบรวมกับบจ.ชิลแมทช์ (CM) และการเพิ่มสินค้าในตลาดใหม่ อาทิ กล้องจับเปลวเพลิง และท่อควบคุมความเย็นแบบใหม่ หวังปั้นบริษัทเป็นวิศวกรรมอาคารครบวงจร แผนลงทุนประเทศใกล้เคียงอยู่ระหว่างการจับตายอดขายผ่านพนักงานท้องถิ่นและพันธมิตรก่อนตัดสินใจ สำหรับเป้ารายได้ปี 61 โต 11 – 12%yoy

• คาดกำไร 2Q60 ที่จะถึง จะเติบโตสูง YoY จากฐานกำไรต่ำในปี59 ขณะที่สถานะการเงินดีเยี่ยม D/E 0.23 เท่า และมีเงินสดกว่า 360 ลบ. Upside จากราคาปัจจุบัน 21%

หุ้นมีข่าว

- PTTEP (ราคาปิด 87.25 Bloomberg Consensus 97.78) คาดมีการประมูลแหล่งก๊าซบงกช-เอราวัณ ในเดือนก.ย.นี้ และรู้ผลภายใน 6-7 เดือนข้างหน้า ทั้งนี้หากบริษัทชนะการประมูล จะสามารถบันทึกปริมาณสำรองเพิ่มขึ้นหลังจากทำการสำรวจและพัฒนาเพิ่มเติม สำหรับการผลิตก๊าซจากแหล่งบงกช คิดเป็นราว 25% ของกำลังผลิตรวมของ PTTEP และสร้างรายได้ราว 25% ของรายได้ PTTEP (ที่มาทันหุ้น)

  ความเห็น เป็นผลบวกต่อ PTTEP เพราะเป็นผู้รับสัมปทานแหล่งบงกชเดิม จึงมีความรู้และความชำนาญในการสำรวจและผลิต นอกจากนี้หากบริษัทชนะประมูลช่วยลดความกังวลเรื่องกำลังการผลิตที่มีแนวโน้มปรับตัวลง อีกทั้งไม่มีค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนแท่นผลิตในอนาคต

(+) CK (ราคาปิด 28 Bloomberg Consensus 35.71) เซ็นสัญญารับงานสร้างทางเชื่อมด่วนศรีรัชจาก BEM มูลค่า 275 ลบ. ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 18 เดือน

SUPER เซ็น MOU พันธมิตรเวียดนามศึกษา-ร่วมทุนโรงไฟฟ้าโซลาร์-พลังลม 400 MW ในปีนี้

SCCC รายงาน 2Q60 มีกำไร 246 ลบ. -80% 1H60 มีกำไร 796 ลบ. -69% พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 6 บาท XD 17 ส.ค. คาดโรงปูนในกัมพูชาเสร็จ 4Q60 พร้อมคุมค่าใช้จ่ายหนุนผลงานดีใน 6-12 เดือน หลังกำไร H1/60 หดตัวแรง (ที่มา อินโฟเควสท์)

BRRGIF กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้ากลุ่มน้ำตาลบุรีรัมย์ ขนาดกองทุน 3,605 ล้านบาท จะเข้าซื้อขายในตลท.7 ส.ค. ราคาจองหน่วยละ 10.30 บาท เป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้าชีวมวลกองแรกเข้าลงทุนในสิทธิในรายได้สุทธิฯ ของโรงไฟฟ้าของ บริษัท บุรีรัมย์พลังงาน (BEC) และบริษัท บุรีรัมย์เพาเวอร์ (BPC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BRR ที่ทำสัญญาขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)

TLUXE เข้าลงทุนโรงไฟฟ้าพลังความร้อนใต้พิภพ-พลังงานลมในญี่ปุ่น 3 โครงการ มูลค่า 194.16 ลบ.

ตลาดหุ้นดาวโจนส์ +52.32 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,016.24 จุด เพิ่มขึ้น 52.32 จุด หรือ +0.24% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,362.65 จุด ลดลง 0.29 จุด หรือ -0.00% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,477.57 จุด เพิ่มขึ้น 1.22 จุด หรือ +0.05% เพราะได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทแอปเปิล อิงค์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานของออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ที่บ่งชี้ว่า ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐยังคงมีการขยายตัวได้ดีในเดือนก.ค. ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันพรุ่งนี้อย่างใกล้ชิด

ตลาดน้ำมัน NYMEX +0.43 USD/Barrel

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 49.59 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า ความต้องการน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงน้อยกว่าการคาดการณ์นั้น ได้สกัดแรงบวกในตลาดระหว่างวัน