เอ็มจี แถลงความสำเร็จครึ่งปีแรก!

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์ “เอ็มจี” จัดประชุมผู้จำหน่ายรถยนต์ เอ็มจี ทั่วประเทศประจำปี 2560 โดยมี มร.สื่อ กั๋ว หย่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และ มร.จาง ไห่ โป กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด สรุปผลดำเนินงานของ เอ็มจี ในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 ภายใต้ชื่องาน “MG Growing Together” พร้อมประกาศยอดจำหน่ายสะสมรถยนต์ในช่วงครึ่งแรกของปี พ.ศ. 2560 อยู่ที่ 5,691 คัน คิดเป็น 51 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับยอดจำหน่ายในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยได้แรงขับเคลื่อนจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อย่าง MG GS รุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตร

“เอ็มจี ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจในแบรนด์ของเรา ยอดขายรถยนต์ เอ็มจี ทุกรุ่นมีการเติบโตเพิ่มขึ้นท่ามกลางการแข่งขันในตลาดรถยนต์นั่งที่สูงมาก ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าลูกค้าชาวไทยมีความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์และการบริการของเรา ถึงแม้ตลาดรถยนต์ในช่วงที่ผ่านมายังคงอยู่ในสภาวะทรงตัว แต่ เอ็มจี มุ่งมั่นที่จะสานต่อความสำเร็จด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับลูกค้า โดยวางแผนจะออกทำตลาดในช่วงปลายปีนี้เพื่อสร้างโอกาสในการขาย และขยายความเชื่อมั่นของแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น” นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวระหว่างการประชุมผู้จัดจำหน่ายประจำปี

ส่วนความคืบหน้าของการก่อสร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่ในอุตสาหกรรมเหมราช อีสเทิร์น ซีบอร์ด 2 จังหวัดชลบุรี ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดสอบระบบภายในพื้นที่โรงงานกว่า 437.5 ไร่ และเตรียมเดินเครื่องสายการผลิตอย่างเป็นทางการภายในปีนี้ โรงงานแห่งใหม่ของ เอ็มจี จะมีกำลังการผลิตสูงสุดมากกว่า 100,000 คันต่อปีและเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ เอ็มจี พวงมาลัยขวาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่พร้อมส่งออกไปยังอีกหลายประเทศทั่วโลก

“นี่คือช่วงเวลาที่มีความสำคัญอย่างยิ่งของเอ็มจี ไม่เพียงประสบความสำเร็จในด้านยอดขายและได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าเท่านั้น แต่เรายังวางรากฐานที่มั่นคงแข็งแกร่งสำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ด้วยความมุ่งมั่นและการผนึกกำลังกันระหว่าง เอ็มจี ผู้จัดจำหน่าย และพันธมิตรทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เรามั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่าจะสานต่อความสำเร็จอย่างต่อเนื่องและก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำบริษัทรถยนต์ในประเทศไทยในอนาคตต่อไป” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว