เหยื่อถูกอาวุธสงครามถล่ม ร้องอัยการหลังคู่กรณีได้ประกันตัว

จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธสงครามเอช.เค.และลูกซองยาวยิงถล่มรถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแมกซ์ ชนิดแคปสีดำ ทะเบียน บว 4918 สุราษฎร์ธานี เป็นรถของกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และเป็นรถประจำตำแหน่งของนายบัณฑิตย์ บุญสุข อายุ 56 ปีหัวหน้าอุทยานแห่งชาติคลองพนมในขณะนั้นและลูกน้องนั่งในรถรวม 5 คนขณะเดินทางกลับจากทำธุระบนที่ทำการอุทยานใต้ร่มเย็น เหตุเกิดบริเวณทางขึ้นน้ำตกดาดฟ้าอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น ม.7 ต.ลำพูน อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี พบร่องรอยการถูกยิงด้วยกระสุนเอช.เคจำนวน 7 รู พบปลอกกระสุน 3 ปลอก และกระสุนปืนลูกซองยาวจำนวน 3รู ไม่พบปลอกกระสุนเมื่อคืนวันที่ 13 พ.ค.60ที่ผ่านมา

โดยที่ทุกคนเชื่อว่ารอดชีวิตมาได้อย่างปาฎิหาริย์ เป็นเพราะบารมีพุทธคุณของพระเกจิอาจารย์ที่นายบัณฑิตย์ บุญสุข นับถือแขวนคอมาโดยตลอดถึง 5 องค์ ประกอบด้วยหลวงพ่อชื่น วัดในปราบ จ.สุราษฎร์ธานี/หลวงพ่อแดง วัดแหลมสอ อ.เกาะสมุย/หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี/ หลวงพ่อพัววัดดัง อ.คีรีรัฐนิคม และรูปพระพุทธเจ้ายืนปางประทานพร 25 พุทธศตวรรษ

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการจำลองเหตุการณ์ ตรวจสอบแนววิถีกระสุนจุดเกิดเหตุประกอบสำนวนคดี นำอาวุธปืนเอช.เค จากเจ้าหน้าที่อุทยานใต้ร่มเย็นตรวจสอบ จนกระทั่งสนธิกำลังทหาร ตำรวจ กว่า 200 นายใช้มาตรา 44 เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 15 จุดใน อ.บ้านนาสาร และจับกุมนายสุรเชษฐ์ ทองเกิด อายุ 29 ปี เจ้าหน้าที่อุทยานฯในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยที่นายสุรเชษฐ์ ให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัวออกมาแล้วในชั้นศาล

ล่าสุดวันนี้ ( 2 ส.ค.60 )ผู้สื่อข่าวรายงานว่าล่าสุดนายบัณฑิตย์ บุญสุข ผู้เสียหายตอนนี้ช่วยราชการประจำที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่4 (สุราษฎร์ธานี) เมื่อทราบว่าผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวออกมา จึงได้ไปยื่นหนังสือลับต่อนายเจษฎา เขียวชัย อัยการจังหวัดเวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบคดีนี้ ขอให้ความเป็นธรรมกับคดีนี้ด้วย โดยที่ทางอัยการจังหวัดเวียงสระ รับปากจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายดำเนินการไปตามขั้นตอนของพยานหลักฐาน