คอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงินรูปแบบใหม่ระบาดหนัก!!

คอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงินรูปแบบใหม่ระบาดหนัก!!

"ดีเอสไอ" บุกจับชาวมาเลย์ร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นดีเอสไอ หลอกเหยื่อโอนเงินรวมกว่า 5 ล้าน เตือนรูปแบบใหม่ระบาดหนักหลอกโอนเงินเคลียร์พัสดุตกค้าง!!

กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ท.วิชัย สุวรรณประเสริฐ ผบ.สำนักเทคโนโลยีและสารสนเทศ และนายมานพ ศรวิบูลย์ศักดิ์. รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม Mr.Saravanan mutnusamy และMr. tan eng keon. สมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นดีเอสไอหลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม

พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า ปัจจุบันยังมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์ไปแอบอ้างเป็นดีเอสไอหรือปปง.หลอกลวงว่าเหยื่อถูกอายัดบัญชีเพราะเข้าไปเกี่ยวข้องกับกากรระทำความผิดอาญาต่างๆ แล้วหลอกให้เหยื่อโอนเงิน ล่าสุดแก๊งมีผู้เสียหายในจ.ชลบุรี เข้อร้องทุกข์ขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมของคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกให้โอนเงินจำนวน 1.3 ล้านบาท ดีเอสไอจึงเร่งสอบสวนสะกดรอยจนพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้ายในจ.สงขลา โดยคนร้ายกลุ่มนี้เกี่ยวพันกับการฉ้อโกงประชาชน 8 คดี ได้เงินไปกว่า 5 ล้านบาท จึงวางแผนเข้าจับกุมคนร้ายชาวมาเลเซีย 2 ราย ขณะกดเงินออกจากตู้เอทีเอ็ม หน้าร้านสะดวกซื้อในจ.สงขลา ยึดเงินส่งคืนผู้เสียหายได้เกือบ 5 แสนบาท ผลการสอบสวนขยายผลพบคนร้ายกลุ่มนี้เป็นอาชญากรรมข้ามชาติ มีชาวมาเลเซียร่วมกับคนไทย เปิดเซิร์ฟเวอร์ใช้โทรศัพท์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต หรือวีโอไอพี หลอกลวงผู้เสียหาย โดยโทรศัพท์ในระบบวีโอไอพีสามารถกำหนดหมายเลขโทรเข้าให้เป็นเบอร์โทรศัพท์ของหน่วยราชการใดก็ได้ ดังนั้นจึงขอแจ้งเตือนให้ประชาชนระมัดระวัง อย่าหลงเชื่อ ในทุกครั้งที่ได้รับการติดต่อจากคอลเซ็นเตอร์ของให้ตั้งสติและฉุกคิดว่าระบบราชการจะไม่ติดต่อประชาชนทางโทรศัพท์ และจะไม่ให้ประชาชนถอนเงินออกจากบัญชีตัวเองเพื่อโอนเข้าบัญชีอื่น

ด้านนายมานพ กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนก.พ.-ก.ค.ที่ผ่านมา ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงไปยังประชาชนว่ามีพัสดุไปรษณีย์ตกค้างและสั่งให้โอนเงินกลับมาแพร่ระบาดอย่างหนัก มีผู้ถูกหลอกลวง 2,109 ราย ไปรษณีย์ยืนยันมาตลอดว่าไม่มีนโยบายให้โอนเงินมาเพื่อขอรับพัสดุ. ในกรณีที่จัดส่งพัสดุไม่ได้จะออกใบแจ้งให้มาติดต่อรับพัสดุ หรือในกรณีที่ต้องเรียกเก็บเงินค่าไปรษณีย์ด่วนพิเศษก็จะมีหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการ

พ.ต.ท.วิชัย กล่าวว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์รายนี้มีชาวต่างชาติไม่น้อยกว่า 5 คน ร่วมกับคนไทยกลุ่มหนึ่ง โดยชาวมาเลเซียจะเข้ามามีภรรยาคนไทยแล้วให้ภรรยาไปชักชวนเพื่อนบ้านหรือเพื่อร่วมงานให้รับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร ได้ค่าจ้าง 1,000-5,000 บาท จากนั้นจะหลอกลวงเหยื่อว่าเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดหรือฟอกเงิน และหว่านล้อมจนหลงเชื่อโอนเงินให้คนร้าย

ขณะที่ผู้เสียหาย ระบุว่า ตนถูกหลอกลวงว่ามีชื่อส่งพัสดุบรรจุยาเสพติดจากจ.เชียงรายไปให้คนร้ายในภาคใต้ โดยดีเอสไอจับกุมคนร้ายแล้วขยายผลมาถึงตน จากนั้นได้พูดหว่านล้อมจนหลงเชื่อให้ถอนเงินจากบัญชีโอนไปยังบัญชีอื่น เพื่อรอการตรวจสอบ ตนจึงทำตามโอนไป 1 บัญชี จากนั้นคนร้ายได้สั่งให้ถอนเงินอีก 1 บัญชี แต่ตนไหวตัวทันว่าอาจถูกหลอกลวง เพราะเงินที่โอนไปบัญชีแรกยังไม่ได้โอนคืนกลับมา จึงรีบเข้าร้องทุกข์ให้ดีเอสไอตรวจสอบ ดังนั้นจึงขอฝากเตือนไปยังประชาชนไม่ให้หลงเชื่อ โดยมีข้อสังเกต 2 จุด คือ หน่วยราชการจะไม่ติดต่อประชาชนผ่านโทรศัพท์ และการสนทนาผ่านโทรศัพท์แบบพูดหว่านล้อมหรืแข่มขู่ไม่หยุด เป็นการทำให้เสียสมาธิ ขอให้สันนิษฐานว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง