MORNING CALL ACTION NOTES (2 ส.ค.60)

MORNING CALL ACTION NOTES (2 ส.ค.60)

Selective Buy

ตลาดหุ้นไทยวานนี้รีบาวด์ขึ้นเล็กน้อยจากแรงซื้อกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันและถ่านหินที่ดีดตัวขึ้น อย่างไรก็ตามมีความกังวลปัญหา NPL จากเหตุการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดกดดันต่อกลุ่มธนาคาร ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,576.45 จุด (+0.37 จุด) Vol. 3.9 หมื่นลบ. โดย Foreign Net –469 ลบ. TFEX Net -3,313 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ +24,313 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ TRUE-TOT-ADVANC-ITEL ชนะประมูลสัญญาบรอดแบนด์ โครงการเน็ตชายขอบ 3,920 หมู่บ้าน แบ่งคนละ 1 สัญญา

+ ตลาดหุ้น DJ ปรับตัวขึ้นตอบรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน รวมถึง PMI ภาคการผลิตของสหรัฐเดือนก.ค.ปรับตัวขึ้นสู่ 53.3 ซึ่งสูงสุดในรอบ 4 เดือน แม้ว่าการใช้จ่ายภาคการก่อสร้างของสหรัฐในเดือนมิ.ย. -1.3% สู่ 1.21 ล้านล้านดอลลาร์

+ ราคาน้ำมันปรับตัวลงล่าสุด 48.9 US/Barrel หลังมีรายงานว่ากลุ่มโอเปกผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในเดือนก.ค. รวมถึงนักวิเคราะห์ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันในปีนี้ เนื่องจากกลุ่มโอเปกลดความร่วมมือในการลดกำลังการผลิต

+/- Fund Flow ต่างชาติเป็น Net Sell 5 วันราว 1.1 หมื่นลบ. แม้ว่าเงินบาทจะยังแข็งค่าล่าสุด 33.3 Bath/USD

+/- ครม.อนุมัติมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ-ประชาชนประสบอุทกภัยเหนือ-อีสาน

** 3 ส.ค. การประชุม BOE อาจขึ้นดบ.ครั้งแรกรอบกว่า 10 ปี หลังกรรมการแตกแถวโหวตการขึ้นดบ.การประชุมครั้งก่อนเดือนมิ.ย.

ภาวะตลาดหุ้นไทยได้ Sentiment เชิงบวกจากตลาดหุ้นสหรัฐที่พุ่งขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง และทิศทาง Fund Flow ต่างชาติที่ยังคงไหลออกต่อเนื่อง 5 วันราว 1.1 หมื่นลบ.จะกดดันต่อแนวโน้มดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,570 – 1,585 จุด

กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยบวก

- ITEL ได้งานเน็ตชายขอบ 1 โครงการ (ราคากลาง 1,800 ลบ.)

- BANPU ราคาถ่านหินทำ High ในรอบปีล่าสุด 94.7 USD/Ton

- กลุ่มวัสดุก่อสร้างได้อานิสงส์มาตรการยกเว้นภาษีสำหรับค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมบ้านที่ประสบอุทกภัยในภาคเหนือ-อีสาน

- SYNEX COM7 SIS BIZ MGT กลุ่มนำเข้าได้ประโยชน์เงินบาทแข็งค่า

- กลุ่มที่คาดว่างบ Q2/17 จะเติบโตขึ้น CK BPP BANPU RS LH HARN WICE JWD LIT BIZ MGT ECF PPS SYNEX

หุ้นแนะนำพิเศษ

SYNEX (ราคาปิด 13.00 บาท ซื้อ ราคาเหมาะสม 15.87 บาท )

• คาดกำไร 2Q60 อยู่ที่ราว 137 ล้านบาท เติบโต 69%YoY จากผลของการมีพันธมิตรใหม่อย่างต่อเนื่องทั้ง DJI(Drone) Alcatel D-LINK และ Apple ช่วยหนุนให้รายได้ 2Q60 ทรงตัวในระดับสูง 7.9-8 พันล้านบาทใกล้เคียง 1Q60

• เข้าลงทุน 30% ในบริษัท บัฟ ผู้ให้บริการสินเชื่อรถจักรยานยนต์ ในอนาคตอาจมีการขยายธุรกจิเพื่อให้เกิด synergy กับ SYNEX โดยขยายกลุ่มลูกค้ามาปล่อยกู้ด้านสินเชื่อสินค้าไอทีเพิ่มเติม

• ฝ่ายวิจัยคาดกำไรปี 60 อยู่ที่ 528 ล้านบาทเติบโต 30%YoY โดยคาดว่าในครึ่งปีหลังผลประกอบการยังคงโดดเด่นจากการเพิ่มพันธมิตรใหม่อย่างต่อเนื่อง และการเปิดตัวของสินค้าไอทีใหม่อย่าง Iphone8 นอกจากนี้คาดว่าผู้บริหารมีแนวโน้มปรับเป้าการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้นจาก 20% เนื่องจากรายได้ 1H60 คิดเป็น 56% ของประมาณการและโดยปกติช่วง 2H60 จะเป็น high season



หุ้นมีข่าว

ประเด็นบวกกลุ่มรับเหมา “ครม.” ไฟเขียวงบกลาง 5,112 ล้านบาท ปลดล็อกปัญหาจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินมอเตอร์เวย์ 2 สาย บางปะอิน-นครราชสีมา และบางใหญ่-กาญจนบุรี หลังงบเวนคืนพุ่ง (ที่มาข่าวหุ้น)

(+) ETE (ราคาปิด 4.12 ซื้อ ราคาเหมาะสม 5.06) เล็งสอยงานวิศวกรรมไฟฟ้าเทรดดิ้งเข้าพอร์ต หลังเข้าประมูลโครงการรวมมูลค่า 5 พันล้านบาท ชี้ทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลังบูมไฮซีซัน หนุนผลงานโตกระหึ่ม ฟากผู้บริหารมั่นใจรายได้มาตามนัดโต 20% (ที่มาทันหุ้น)

      ความเห็น เราคาดว่ากำไรปี 60 อยู่ที่ราว 61 ล้านบาท +97%YoY โดยได้รับแรงหนุนหลักจากธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์กำลังการผลิต 16.45 MW ที่รับรู้รายได้เต็มปี ขณะที่ธุรกิจบริหารจัดการและธุรกิจงานวิศวกรรมมี Backlog รอรับรู้รายได้อีกราว 1.4 พันล้านบาทคิดเป็น 80% ของรายได้ที่เราประมาณการไว้ ทั้งนี้เรายังไม่รวมงานประมูลสายส่งของกฟผ.ภาคอีสาน ภาคตะวันตก และภาคใต้รวม 1.5 แสนล้านบาทในประมาณการ

(+) MGT (ราคาปิด 3.74 เก็งกำไร ราคาเหมาะสม 3.47) การันตีงบครึ่งปีหลังโตแกร่ง เร่งตีตลาดกลุ่มลูกค้าใหม่ เครื่องสำอาง-เคมีภัณฑ์สำหรับยา-พลังงาน ปั๊มรายได้เติบโต จ่อประกาศงบ Q2 วันที่ 8 ส.ค.นี้ ย้ำเป้ารายได้ปี 60 โตขึ้น 20% (ที่มาข่าวหุ้น)

      ความเห็น เราคาดว่ากำไรปี 60 จะอยู่ที่ราว 52 ลบ. (+58%YoY) โดยได้แรงหนุนจากจากการตลาดเชิงรุกและลูกค้าอุตสาหกรรมพลาสติกยังคงขยายตัวได้ดีกว่าอุตสาหกรรมอื่น ขณะที่คาดว่าจะสามารถรักษาระดับกำไรขั้นต้นได้ที่ 27%จากลดการขายผ่านตัวแทนและขายผ่านสาขาตัวเอง นอกจากนี้ต้นทุนบริหารจัดการส่วนใหญ่เป็นต้นทุนคงที่ทำให้มี economy of scale เมื่อยอดขายเพิ่มขึ้น

(+) ATP30 (ราคาปิด 1.64 ซื้อ ราคาเหมาะสม 2) กางยุทธศาสตร์ครึ่งปีหลัง ส่งซิกผลงานร้อนแรง รับลูกค้าใหม่เพียบ มั่นใจยอดขายเข้าเป้า หรือโต 15% จากปีก่อน เล็งโซ้ยนิวโปรเจ็กต์ 160 ล้านบาท คาดชัดเจนเร็วๆ นี้ ด้านโบรกชี้กำไรทะยาน 50% รับอานิสงส์พ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (ที่มา ทันหุ้น)

      ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกต่อปัจจัยพื้นฐานระยะยาวของ ATP30 ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถรับส่งพนักงานรอบเขตนิคมอุตสาหกรรมในภาคตะวันออกครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัดได้แก่ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทราซึ่งอยู่ในเขตอีอีซี คาดการณ์กำไรในช่วง 2Q60 +193%QoQ -22%YoY เป็น 5.6 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มกำไรในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มดีกว่าครึ่งปีแรกจากการรับลูกค้าใหม่ที่จะเริ่มให้บริการตั้งแต่ 21 ก.ย. 60 ในการรับส่งพนักงานของบจ. ออโตลิฟ (ประเทศไทย) ผู้ผลิตอุปกรณ์ประดับยนต์ที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี ใช้รถบัสจำนวน 21 คัน เพิ่มเติมจากเดือนพ.ค.ที่ให้บริการลูกค้าใหม่ 1 รายใช้รถบัสจำนวน 10 คัน สำหรับกำไรทั้งปี 60 คาดจะเติบโตราว 15% เป็น 346 ล้านบาท

(-) KBANK (ราคาปิด 190 Bloomberg Consensus 199.16) เผยอยู่ระหว่างรอคำสั่งศาลล้มละลายกลาง หลัง EARTH ยื่นขอฟื้นฟูกิจการ พร้อมจับตากระบวนการพิจารณาเจรจากับเจ้าหนี้ แถมยืนยันรักษา NPL ตามฝันไม่เกิน 3.4% (ที่มา ทันหุ้น)

     ความเห็น ต้องจับตาการตั้งสำรองหนี้สูญลูกหนี้ EARTH เนื่องจากงวด 2Q60 ที่ผ่านมา KBANK ยังไม่ได้ตั้งสำรองหนี้สูญ เมื่อผนวกกับสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจส่งผลให้ NPL สินเชื่อ SME เพิ่มขึ้นจึงมีความเสี่ยงที่ NPL อาจสูงกว่าเป้าสูงสุดที่ระดับ 3.4%

EFORL แจ้ง WCIH เตรียมเพิ่มทุน 58 ล้านหุ้น เพื่อลดภาระหนี้ ขายล็อตแรก 14.50 ล้านหุ้น ให้ผู้ถือหุ้นเดิม 8:1 หุ้นละ 25 บาท จองซื้อหุ้น-ชำระเงินภายในวันที่ 15 ส.ค.นี้ ฟาก WCIH เล็งตั้งที่ปรึกษาทางการเงิน พร้อมเร่งเจรจาปรับหนี้ "โซลาริส"

LIT ออกหุ้นกู้ 300 ล้านบาท อายุ 2.5 ปี ดอกเบี้ย 6% จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ ขายให้นักลงทุนสถาบัน-รายใหญ่ ระหว่างวันที่ 16-21 สิงหาคมนี้ รองรับแผนปล่อยสินเชื่อ 10,000 ล้านบาทภายในปีนี้ หนุนรายได้-กำไรทำสถิติสูงสุดใหม่ (ข่าวหุ้น)

ตลาดหุ้นดาวโจนส์ +72.80 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,963.92 จุด เพิ่มขึ้น 72.80 จุด หรือ +0.33% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,476.35 จุด เพิ่มขึ้น 6.05 จุด หรือ +0.24% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,362.94 จุด เพิ่มขึ้น 14.81 จุด หรือ +0.23% เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน และจากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มการเงิน โดยปัจจัยบวกเหล่านี้สามารถสกัดแรงลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงตัวเลขการใช้จ่ายในภาคการก่อสร้างที่ร่วงลงในเดือนมิ.ย.

ตลาดน้ำมัน NYMEX -1.01 USD/Barrel

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 1.01 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 49.16 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีรายงานว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในเดือนก.ค. ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงขึ้นในตลาด

Analyst Meeting : HMPRO (ราคาปิด 9.90 Bloomberg Consensus เฉลี่ย 11)

- งวด 1H60 มีกำไรสุทธิ 2,177 ลบ. +10.5%YoY โดยมีรายได้รวม +3% จาก Same Store Sales Growth (SSSG) ใน 2Q60 +1.2% ลดลงจาก +4.7% ใน 1Q60 ซึ่งเป็นผลกระทบจากการเปิดสาขาใหม่ใกล้กับสาขาเดิม (Cannibalization) แต่ GP ปรับดีขึ้นเป็น 26% จาก 25.22% จากสัดส่วนที่สูงขึ้นของสินค้า house brand ซึ่งมีมาร์จิ้นดีกว่า และการควบคุมคชจ.ที่มีประสิทธิภาพทำให้สัดส่วนคชจ.ต่อยอดขายลดเหลือ 22.78% จาก 23.1% ใน 1H59 ประกอบกับดอกเบี้ยจ่าย -5.6%

- ผู้บริหารคาดว่า SSSG ทั้งปียังมีแนวโน้มหดตัวโดยยอดขายในกทม.(40% ของยอดขายรวม) เติบโตไม่มาก ขณะที่ยอดขายในตจว.(สัดส่วน 60% ของยอดขายรวม)ติดลบเนื่องจากผลกระทบจากราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำโดยเฉพาะราคายางกระทบรายได้ของผู้ซื้อ

- 2H60 มีแผนเปิดสาขาใหม่โฮมโปรในกทม. 1 แห่ง เมกาโฮม 1 แห่งในตจว. และสาขาในมาเลเซียอีก 1-2 แห่ง แผนเปิดสาขาใหม่ในปีนี้เปิดแบบระมัดระวังไม่เปิดสาขาขนาดใหญ่แต่จะเป็นขนาดเล็ก (Homepro S)ในเขตชุมชนหนาแน่นที่ใช้งบลงทุนต่ำกว่า ส่วนการเปิดเพิ่มสาขาเมกาโฮมและในมาเลย์เพื่อให้ถึงจุดคุ้มทุน

   ความเห็น การเติบโตของยอดขายถูกกดดันจากกำลังซื้อที่หดหาย แต่ผลการดำเนินงานยังมีโอกาสเติบโตจากการควบคุมคชจ.และการปรับกลยุทธ์สู่ไลน์สินค้าใหม่ การขายสินค้าออนไลน์ คาด Bloomberg Consensus น่าจะปรับลดประมาณการกำไรปี 60 จากค่าเฉลี่ยปัจจุบันที่ 4,672 ลบ. + 13% จากความกังวลเรื่องการเติบโตของยอดขาย ทั้งนี้กำไรมีแนวโน้มสูงสุดรายไตรมาสใน Q4 ที่เป็นช่วงไฮซีซั่นเป็นประจำทุกปี