โจรแสบงัดบ้าน ขโมยกาน้ำชาอดีตสังฆราชองค์ที่13

โจรแสบงัดบ้าน ขโมยกาน้ำชาอดีตสังฆราชองค์ที่13

โจรแสบงัดบ้าน ขโมยกาน้ำชาอดีตสังฆราชองค์ที่ 13 อายุกว่า 100 ปี - นาฬิกาแบรนด์เนมเก่า 30 เรือน

พ.ต.ต.หญิง มุทิตา วานิชถาวร สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสุพรรณบุรีรับแจ้งเหตุมีลักทรัพย์ที่บ้านเลขที่ 223/7 หมู่ 3 ต.รั้วใหญ่ จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม พ.ต.อ.สมพร พุกหอม ผกก.กำลังฝ่ายสืบสวนที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นเปิดเป็นร้านตัดผมชื่อ เกศาพอเพียง ริมถนนเลี่ยงเมืองสุพรรณบุรี พบนายปิยะ ไทยวงษ์ อายุ 55 ปี และนางรัมภา ราจันพันธ์ อายุ 53 ปีสองสามีภรรยา เจ้าของบ้านยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาการเซ็ง

จากการสอบถามนายปิยะ เล่าฟังว่า ตนนั้นมีอาชีพเป็นช่างตัดผมมาซื้อบ้านหลังนี้อยู่ได้ประมาณ 1 ปีเศษก่อนเกิดเหตุช่วงสาย ตนกับภรรยาได้ออกไปส่งลูกชายกลับหอพักนักศึกษาที่ อ.สามชุก โดยปิดล็อกประตูบ้านไว้อย่างมิดชิดหลังกลับจากส่งลูกเปิดประตูเข้าบ้านก็ต้องตกใจเนื่องจากข้าวของภายในบ้านตั้งแต่ชั้นล่างถึงชั้น 3 ถูกคนร้ายรื้อค้นกระจัดกระจายเกลื่อนนอกจจากนี้ที่หน้าต่างชั้น 3 ซึ่งเป็นเหล็กดัดถูกคนร้ายใช้เครื่องมือตัดเหล็กแล้วนำซี่เหล็กดัดไปกองเรียงกันไว้ที่นอกหน้าต่างอย่างเป็นระเบียบ 

จากการตรวจสอบพบห้องนอนบุตรสาว ห้องนอนของตนและห้องพระ ถูกงัดทั้ง3ชั้น ตรวจสอบพบว่ามีทรัพย์สินสูญหายไปหลายรายการ เช่น พระเลี่ยมทอง 1 องค์ สร้อยคอทองคำ 2 สลึง ธนบัตรที่ระลึกรัชกาลที่ 9 ฉบับละ 100 บาท จำนวน 5 ใบ นาฬิกาแบรนด์เนมเก่า 30 เรือน และกาชงชาของเกจิชื่อดัง (สมเด็จพระสังฆราช แพ องค์ที่ 13) อายุกว่า 100ปี สำหรับกาชงน้ำชาของสมเด็จพระสังฆราชแพ และนาฬิกาข้อมือแบรนด์เนมเก่า ที่หายไปนั้นไม่สามารถประเมินราคาได้เนื่องจากเป็นของเก่าที่ลำค่า ถูกคนร้ายขโมยไปจึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ

ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุคาดว่าเป็นคนในพื้นใกล้กันเนื่องจากรู้เวลาเข้าออกและความเคลื่อนไหวของคนในบ้านเป็นอย่างดี หรืออาจจะมีใบสั่งให้มาโจรกรรม กาชงชา อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจเก็บรอยนิ้วมือแฝงของคนร้าย และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงเพื่อตรวจสอบเส้นทางหลบหนีของคนร้ายเป็นแนวทางในการติดตามจับตัวคนร้าย มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป