‘ซัมมิท-สวทช.’สร้างโนว์ฮาวยานยนต์

‘ซัมมิท-สวทช.’สร้างโนว์ฮาวยานยนต์

สวทช.จับมือซัมมิท ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ สร้าง 3 โนว์ฮาวการออกแบบและผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ประกอบด้วย ชิ้นงานกลุ่มน้ำหนักเบา กระบวนการขึ้นรูปร้อนและระบบอัตโนมัติในการทดสอบเพื่อจำลองการสั่นสะเทือนชุดท่อไอเสีย

โดยมุ่งรับการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมนี้ และสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืน โครงการความร่วมมือมีระยะเวลา 5 ปี ตั้งเป้า 3 ปีแรกจะเห็นชิ้นส่วนยานยนต์น้ำหนักเบาที่สำเร็จในแล็บและพร้อมสำหรับการผลิต ส่วนอีก 2 โครงการจัดเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ต้องใช้เวลาอีกนาน งานวิจัยจึงเป็นการเตรียมความพร้อมหากภาคอุตสาหกรรมจำเป็นต้องใช้ บริษัทพร้อมเดินหน้าได้ทันทีโดยไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ สร้างองค์ความรู้ขั้นสูง นายกรกฤช จุฬางกูร ประธานบริหาร บริษัท ซัมมิท อาร์แอนด์ดี เซ็นเตอร์ จำกัด กล่าวว่า อุตสาหกรรมอะไหล่ยานยนต์มีการแข่งขันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงต้องแข่งกับคนไทยแต่ยังแข่งกับญี่ปุ่นที่มาตั้งฐานการผลิตในไทย ทำให้ที่ผ่านมาบริษัทไทยที่เป็นผู้ผลิตระดับ First Tier เช่น ซัมมิทที่ลักษณะการผลิตแบบโออีเอ็มผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ปั๊มขึ้นรูปโลหะส่งมอบให้กับผู้ประกอบรถยนต์ทุกยี่ห้อที่มีฐานการผลิตไทย อาจถูกลดระดับเป็น Second Tier หากตามเทรนด์เทคโนโลยีไม่ทัน เทรนด์ชิ้นส่วนยานยนต์ที่กำลังมาคือ การประหยัดพลังงานโดยลดน้ำหนักชิ้นงานให้เบาขึ้นขณะที่ประสิทธิภาพยังคงเดิม ยิ่งเบาก็ยิ่งประหยัดพลังงานได้มาก จึงเป็นโจทย์แรกใน “โครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการออกแบบและผลิตชิ้นส่วนยานยนต์” ภายใต้ความร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ที่ตั้งเป้าพัฒนากระบวนการออกแบบและผลิตที่จะลดน้ำหนักชิ้นส่วนได้ 20% โจทย์ถัดมาคือ โครงการศึกษากระบวนการขึ้นรูปร้อน (Hot Stamping) โดยใช้เหล็กกล้าผสมโบรอน ซึ่งเป็นโครงการร่วมวิจัย 3 ฝ่ายโดยมีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีเข้ามาเสริม มุ่งะศึกษาเพื่อพัฒนาลดน้ำหนักชิ้นส่วน โดยหากระบวนการผลิตใหม่ๆ สุดท้ายคือ โครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาระบบอัตโนมัติในการทดสอบ เพื่อจำลองการสั่นสะเทือนชุดท่อไอเสีย (Road Load Vibration) บริษัทได้รับความร่วมมือจากโปรแกรมไอแทป สวทช. ในการจัดหาผู้ เชี่ยวชาญและสนับสนุนทุนวิจัยใน “โครงการพิเศษยกระดับผู้ประกอบการสู่อินดัสตรี 4.0” นอกจากนี้ยังได้รับความอนุเคราะห์จาก สวทช. ที่จะช่วยประสานอาจารย์จากโครงการ TAIST-Tokyo Tech ญี่ปุ่นในการพัฒนาศึกษาวิธีการทดสอบด้วย เสริมแกร่งด้วยวิจัยไทย นายณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า ให้ความสำคัญในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการสนับสนุนองค์ความรู้และเทคโนโลยีในการพัฒนากระบวนการผลิต การลดต้นทุน การสร้างมูลค่าเพิ่ม และรายได้การส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ของประเทศ ความร่วมมือในครั้งนี้ นอกเหนือจากองค์ความรู้และเทคโนโลยีในการพัฒนากระบวนการผลิตแล้ว ยังเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงในอนาคต เช่น เซลล์เชื้อเพลิง ตัวเก็บประจุยิ่งยวด (Supercapacitor) การรีไซเคิลแบตเตอรี่ กระบวนการผลิตแบบดิจิทัล เป็นต้น ทำให้เกิดประโยชน์และผลสำเร็จของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ และยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยก้าวไกลสู่ระดับโลก ทั้งนี้ บริษัท ซัมมิท อาร์แอนด์ดี เซ็นเตอร์ จำกัด ในกลุ่มบริษัท ซัมมิท โอโต บอดี้ อินดัสตรี จำกัด ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาเป็นอย่างสูง มีการเรียนรู้ทั้งภายในองค์กรและการรับถ่ายทอดเทคโนโลยีทั้งจากญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆ โดยมีความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนากับ สวทช. อย่างต่อเนื่องหลายตั้งแต่ปี 2554-ปัจจุบัน คิดเป็นมูลค่า 132 ล้านบาท อาทิ การประยุกต์ใช้ Design Guideline และ Simulation Technique ในการออกแบบชุดลูกรีดสำหรับกระบวนการรีดขึ้นรูปชิ้นส่วนยานยนต์ การปรับปรุงการออกแบบโครงสร้างแม่พิมพ์เพื่อแก้ปัญหาการโก่งตัวของโครงสร้างแม่พิมพ์ และ Robot Retrofit ที่ได้รับทุนสนับสนุนและการจัดหาผู้เชี่ยวชาญจากโปรแกรมไอแทป สวทช. ช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนากระบวนการผลิตและลดต้นทุนได้อย่างมาก