เร่งเคาะแพ็คเกจคุ้มครองทัวริสต์รับปีท่องเที่ยวไทย

เร่งเคาะแพ็คเกจคุ้มครองทัวริสต์รับปีท่องเที่ยวไทย

นับถอยหลังเข้าสู่แคมเปญใหญ่ของประเทศไทย ในปี 2561 กำหนดให้เป็น “ปีแห่งการท่องเที่ยวไทย” หรือ อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ ทัวริสซึ่ม เยียร์  จำเป็นต้องเร่งเตรียมความพร้อมในทุกภาคส่วนรองรับคลื่นนักท่องเที่ยวกว่า 30 ล้านคน 

พล..ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายท่องเที่ยวแห่งชาติ (ท.ท.ช.) กล่าวว่า หลังจาก ท.ท.ช.ตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดทำแผนการประกันภัยอุบัติเหตุให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ล่าสุดได้ข้อสรุปในหลักการว่า จะไม่มีการของบประมาณเพิ่มมาจัดตั้งกองทุนเพื่อนำมาเป็นวงเงินเบี้ยประกันภัยให้นักท่องเที่ยว และจะให้นักท่องเที่ยวเป็นผู้ซื้อประกันภัยด้วยตัวเองตามแบบเดิมไปก่อน 

ทั้งนี้ จะให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกให้ซื้อได้ง่ายขึ้น สำหรับกรณีฉุกเฉิน หรือเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด จึงจะรับดูแลเป็นกรณีไป ด้วยการใช้งบประมาณกองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีอยู่แล้ว

การจะใช้มาตรการบังคับให้ซื้อประกันภัยเมื่อเดินทางมาไทย เช่นเดียวกับหลายประเทศได้ดำเนินการนั้น ยังต้องศึกษาวิธีที่เป็นไปได้อยู่ แต่ระหว่างนี้จะใช้วิธีการประชาสัมพันธ์ชักชวนให้เกิดการซื้อประกันภัยโดยสมัครใจไปก่อน”

โดยขอความร่วมมือของหน่วยงานที่มีสาขาในต่างประเทศ เช่น สำนักงานต่างประเทศของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ช่วยสื่อสารถึงประโยชน์ของการซื้อประกันภัย และความคุ้มค่าในการจ่ายเบี้ยประกันที่ไม่แพง แต่สามารถครอบคลุมความเสี่ยงหากได้รับอุบัติเหตุ

กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ “ปีแห่งการท่องเที่ยว” หรือ “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ ทัวริสซึ่ม เยียร์” ในปี 2561 จึงมอบหมายให้กระทรวงฯ หารือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.), สมาคมประกันชีวิตไทย และสมาคมประกันวินาศภัยไทย เพื่อออกแบบแพ็คเกจประกันภัยสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติพิเศษ ต้อนรับปีแห่งการท่องเที่ยว โดยเน้นว่าควรจะต้องคุ้มครองภัยด้านใด มีความเสี่ยงจากปัจจัยใดที่ประกันต้องครอบคลุม ที่สำคัญต้องมีเบี้ยประกันภัยในราคาจูงใจ พร้อมทั้งพิจารณาใช้ช่องทางออนไลน์เพื่อให้สะดวกต่อการซื้อเบี้ยประกันก่อนเดินทางมาไทย

ส่วนนักท่องเที่ยวที่ไม่สะดวกในการเข้าถึงช่องทางออนไลน์ คณะทำงานอยู่ระหว่างการศึกษาการจัดทำ “คีออส” หรือ “ตู้อัตโนมัติ” บริเวณช่องทางตรวจคนเข้าเมือง สนามบินหลักสำหรับตลาดขาเข้าจากต่างประเทศ เพื่อให้ทำธุรกรรมซื้อประกันภัยได้ทันที หรือการผนวกบริการให้ซื้อประกันได้ผ่านตู้เอทีเอ็มของธนาคารพาณิชย์ และตู้เต็มเงินที่ภาคเอกชนมีให้บริการอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่มีมาตรการอุดหนุนเบี้ยประกันภัยให้ต่างชาติแล้ว แต่จะขอความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงหน่วยงานในสังกัด เช่น ตำรวจท่องเที่ยว กวดขันในด้านการบังคับใช้กฎหมายเพื่อดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ในกลุ่มของผู้ให้บริการจะต้องมีการประกันภัยให้กับลูกค้า เช่น เครื่องเล่นทางน้ำในแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลต่างๆ ซึ่งขณะนี้ในพื้นที่พัทยา ผู้ประกอบการมีประกันภัยให้กับลูกค้าที่มาเช่าเครื่องเล่นทั้งหมดแล้ว 100% และจะดำเนินการให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ๆ มีกิจกรรมสันทนาการอันมีความเสี่ยง เช่น เครื่องเล่นโลดโผน ปีนเขา ปีนหน้าผา 

ขณะที่อุบัติเหตุที่สุดวิสัยการดูแลควบคุม เช่น การจมน้ำทะเลระหว่างเล่นน้ำ ซึ่งยังมีอัตราสูงนั้น ก็จะต้องใช้วิธีให้คำแนะนำและกำชับให้ไลฟ์การ์ดดูแลนักท่องเที่ยวตามชายหาดอย่างใกล้ชิดต่อไป

การให้นักท่องเที่ยวซื้อประกันภัยด้วยตัวเองไม่มีปัญหา เพราะคนไทยเวลาไปเที่ยวต่างประเทศ ก็รับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วยตัวเอง แต่จะอำนวยความสะดวกให้เข้าถึงการซื้อเบี้ยประกันภัย และให้บริษัทประกันช่วยออกแบบแพ็คเกจสนับสนุน”