สองผัวเมียเจ้าของร้านคาราโอเกะ ถูกรวบพร้อมยาบ้า 1.8 ล้านเม็ด ขณะกำลังลำเลียงจากโกดังบรรทุกรถสิบล้อลงภาคใต้ อ้างรับจ้างนายทุนชาวมาเลเซียทำมาแล้ว 3 ครั้ง
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 31 กรกฎาคม ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธร จ.อุดรธานี พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รอง ผบช.ภ.4 พ.อ.ประกาศิต อรดี รอง ผบ.กก.ล.สุรศักดิ์มนตรี นายพิสุทธิ์ ภู่เงิน ผอ.ปปส.ภ.4 พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สส.ภ.4 พ.อ.พิทักษ์ จันทร์เขียว รอบ ผบ.มทบ.24 พล.ต.ต.ทิวา บุญดำเนิน ผบก.ภ.บึงกาฬ พ.ต.อ.ชวิศ ศรีจันทร์ รอง ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.สุกฤษณ์ ข้อร่วมคิด ผกก.สส.ภ.บึงกาฬ พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ ผกก.สส.ภ.อุดรธานี พ.ต.ท.อนัน ฤทธิธรรม สว.สส.ภ.จ.บึงกาฬ นายภิญโญ โฆสิต ผอ.บก.ปปส.ภ.4 ร่วมกันแถลงข่าวจับขบวนการค้ายาบ้า ประกอบด้วย
นายอรรณพ ปูเต๊ะ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/4 หมู่ 2 ต.บ้านน้ำบ่อ อ.ปานาแระ จ.ปัตตานี และน.ส.สุไฮลา ดือราแม อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114 หมู่ 5 ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ของกลางยาบ้า 9 กระสอบ จำนวน 1.8 ล้านเม็ด รถบรรทุกสิบล้อ ฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 70-9715 เพชรบุรี รถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน ฆบ 1481 กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง โดยกล่าวหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”
พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รอง ผบช.ภ.4 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พล.ต.ต.ทิวา บุญดำเนิน ผบก.ภ.บึงกาฬ ได้รับรายงานจาก พ.ต.ท.อนัน ฤทธิธรรม สว.สส.ภ.บึงกาฬ ว่ามีขบวนการลักลอบยาบ้าจากภาคใต้ ขนยาบ้าจำนวนมากจากจังหวัดบึงกาฬ ไปพักไว้ที่โกดัง ริมถนนมิตรภาพ (อุดรธานี –หนองคาย) บ้านดงไร่ หมู่ 11 ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี และคืนนี้จะมีการขนย้ายยาบ้าจากโกดัง จ.อุดรธานี ลงภาคใต้ จึงได้ประสาน นายภิญโญ โฆสิต ผอ.บก.ปปส.ภ.4 พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.อุดรธานี พ.อ.ประกาศิต อรดี รอง ผบ.กก.ล.สุรศักดิ์มนตรี สนธิกำลังเข้าตรวจสอบ
โดยแบ่งกำลังเป็น 4 ชุด ดักซุ่มอยู่บริเวณรอบโกดัง กระทั่งเวลา 22.00 น. พบนายอรรณพ ขับรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน ฆบ 1481 กรุงเทพมหานคร มากับ น.ส.สุไฮลา ภรรยา มาจอดบริเวณหน้าประตูสังกะสี โดยนายอรรณพ เดินลงมาเปิดประตูสังกะสีออก ส่วน น.ส.สุไฮลา เดินอ้อมมาขึ้นรถขับออกไปจอดอยู่ถนนมิตรภาพ มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองอุดรธานี ไม่นานก็พบชาย 2 คน ทราบชื่อภายหลังว่านายฮารูดิง มะสะแต และนายเฮง ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ขับรถบรรทุกสิบล้อ ฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 70-9715 เพชรบุรี มีป้ายชื่อ ห้างหุ้นส่วนทิพย์ไพบูลย์ขนส่ง เข้าไปในโกดัง
ทั้ง 3 คน ได้ช่วยกันขนกระสอบสีดำ รัดด้วยเชือกสีเหลือง จำนวน 9 กระสอบ ขึ้นรถบรรทุก ตำรวจจึงส่งสัญญาณบุกเข้าตรวจค้นจับกุม นายอรรณพ นายฮารูดิง และนายเฮง ได้วิ่งหลบหนีและกระโดดออกนอกรั้ว เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมนายอรรณพได้ จากการตรวจสอบพบยาบ้าจำนวน 1,800,000 เม็ด (1.8 ล้านเม็ด) และจับกุม น.ส.สุไฮลา ขณะเตรียมขับรถนำทางรถบรรทุกสิบล้อ ควบคุมตัวพร้อมของกลางทั้งหมดไปโรงพักเมืองอุดรธานี ทำการสอบสวน
จากการสอบสวนนายอรรณพ และ น.ส.สุไฮลา ให้การรับสารภาพว่า เป็นสามีภรรยากัน เป็นเจ้าของร้านอาหาร และคาราโอเกะในประเทศมาเลเซีย ได้รับจ้างจากนายทุนชาวมาเลเซีย ได้ติดต่อซื้อยาบ้าจากพ่อค้าชาวลาว แล้วนำมาเก็บไว้ที่โกดังใน จ.อุดรธานี ก่อนว่าจ้างให้พวกตนมาขนยาบ้าในโกดังไปภาคใต้ พวกตนจึงได้ชักชวนนายฮารูดิง และนายเฮง เข้าร่วมขบวนการด้วย โดยพวกตนมีหน้าที่ขับรถนำทางรถบรรทุกยาบ้า เมื่อนำยาบ้าไปส่งนายทุนแล้ว พวกตนจะได้ค่าจ้างคนละ 1 แสนบาท ทำมา 3 ครั้ง กระทั่งมาถูกจับกุม
”จากการสืบสวนเชิงลึก นายทุนชาวมาเลเซียได้มาเช่าที่ดินและสร้างโกดังพักยาเสพติดเมื่อเดือนมกราคม 2560 โดยทำรั้วลอบแบบทึบสูงกว่า 3 เมตร กลุ่มผู้ต้องหาขนยาบ้าจากแขวงบอริคำไซ สปป.ลาว ใส่เรือหางยาวขึ้นฝั่งที่ จ.บึงกาฬ บรรทุกใส่รถปิกอัพนำไว้ที่โกดัง ก่อนที่ผู้ต้องจะนำรถบรรทุกสิบล้อมาบรรทุกยาบ้า ลงไปภาคใต้ โดยมาขนยาบ้าที่โกดังแล้ว 5 ครั้งๆละ 1-2 ล้านเม็ด เลือกวันหยุดนักขัตฤกษ์ หากยาบ้าหลุดไปถึงภาคใต้หรือมาเลเซียจะมีมูลค่า 150 ล้านบาท ซึ่งจะได้เรียกเจ้าของที่ดินสร้างโกดังมาสอบสวนหาผู้ที่มาเช่าที่ดินสร้างโกดังพักยาบ้า และจะติดตามจับกุมนายฮารูดิงและนายเฮงที่หลบหนีมาดำเนินคดี พร้อมกับใช้ พ.ร.บ.มาตรการ ยึดทรัพย์ผู้ค้ายาบ้าทั้งหมด”
นายพิสุทธิ์ ภู่เงิน ผอ.ปปส.ภ.4 เปิดเผยว่า ขบวนการค้ายาเสพติดบริเวณชายแดนภาคอีสานตอนบน จุดหมายปลายทางเข้าอยู่ที่ภาคใต้ 10 เดือนที่ผ่านมา มีจำนวนและปริมาณที่สูงขึ้น ปริมาณที่จับได้สูงสุด 2.7 ล้านเม็ด บริเวณริมแม่น้ำโขง อ.ปากชม จ.เลย และครั้งนี้ 1.8 ล้านเม็ด คงจะต้องมีการสนธิกำลังกันเพื่อเฝ้าระวังแลสกัดกั้นให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้หลุดลอดเข้าไปใน กทม.หรือภาคใต้ เพราะจะทำให้จับกุมยากขึ้น