"ดีเอสไอ" เร่งขยายผลเบื้องหลังค้ามนุษย์ แฉขบวนการปรับเปลี่ยนรูปแบบจ่ายส่วยเป็นเงินสด หวังตัดตอนไม่ให้ถึงตัวการ
พ.ต.ท.คมวิชช์ พัฒนรัฐ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ ดีเอสไอ เปิดเผยความคืบหน้าคดีค้ามนุษย ภายหลังคณะกรรมการติดตามการดำเนินการทางวินัยและการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐทีเกี่ยวข้องกับคดีค้ามนุษย์ ได้เร่งรัดคดีและกำชับให้ขยายผลการสอบสวนคดีว่า ขณะนี้รัฐบาลได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำคดีดังกล่าวอย่างต่อเนื่องแต่การทำคดีค้ามนุษย์ต่างจากการทำคดีอาญาทั่วไปเพราะมีความสลับซับซ้อน มีการตัดตอนเพื่อไม่ให้สาวถึงตัวบงการใหญ่ หากเร่งรัดทำคดีหรือสรุปสำนวนเร็วจะทำให้เกิดปัญหาไม่สามารถเชื่อมโยงถึงตัวการรายสำคัญได้ หลายคดีพบการจ่ายส่วยเป็นเงินสดเพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ติดตามเส้นทางการเงินได้
“คดีของพล.ท.มนัส คงแป้น สามารถจับกุมได้เพราะมีการโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวของพล.มนัส ชัดเจนทำให้จับกุมกลุ่มขบวนการนั้นได้ทั้งหมด ส่วนคดีค้ามนุษย์ทั้ง 15 คดีที่คณะอนุกรรมการฯรับมาตรวจสอบนั้น บางคดีอยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจ ดีเอสไอ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ. (ป.ป.ท.) และสำนักงานป้องกันและปราบหรามการฟอกเงิน (ปปง.) หลายคดีเป็นการขยายผลสืบสวนสอบสวนของดีเอสไอ และส่งต่อให้ป.ปท.ดำเนินการนอกจากนี้ยังได้ข้อมูลเพิ่มเติมมาจากองค์กรพัฒนาเอกชน กระทรวงพัฒนาสังคมฯกรมการปกครอง และเจ้าหน้าที่ทหารด้วย”พ.ต.ท.คมวิชช์ กล่าว
รักษาการฯผอ. ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ฯกล่าวอีกว่า การทำคดีค้ามนุษย์ฯสังคมอาจมองว่าล่าช้า โดยเฉลี่ยแต่ละคดีจะใช้เวลาประมาณ 1 ปีตั้งแต่เริ่มสอบสวนจนกระทั่งสรุปสำนวนส่งให้อัยการแต่กรณีที่เป็นคดีเล็กๆไม่สลับซับซ้อนจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน อย่างไรก็ตาม หลังจากรัฐบาลเร่งรัดให้พนักงานสอบสวนทำคดีให้เร็วขึ้น คาดว่าแต่ละคดีจะใช้เวลาประมาณ 8 เดือน
หากเร่งรัดรวบรัดมากก็จะไม่เป็นผลดีต่อรูปคดี นอกจากนี้ยังมีปัญหาพยานไม่กล้าซัดทอดผู้เกี่ยวข้องหรือตัวการใหญ่เนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพล