รวบ18มงกุฎอ้างตัวเป็นลูกชายอดีตเเม่ทัพตุ๋นเหยื่อ!!

รวบ18มงกุฎอ้างตัวเป็นลูกชายอดีตเเม่ทัพตุ๋นเหยื่อ!!

กองปราบรวบ 18 มงกุฎอ้างตัวเป็นลูกชายอดีตเเม่ทัพ ตุ๋นเหยื่อตายใจกว่า 10 รายร่วมลงทุนธุรกิจเสียหาย 3 ล้านบาท

ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.,พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป.,พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป., มอบหมายสั่งการให้ พ.ต.อ.นิรันดร์ ปิตะกาศ ผกก.3 บก.ป.,พ.ต.ท.อรรถพล พานประทีป,พ.ต.ท.วิวัฒน์ จิตโสภากุล รอง ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ต.เอนก บุญตา สว.กก.3 บก.ป. และตำรวจสังกัด กก.3บก.ป. จับกุม นายณพสร หรือยุทธนา สาพิทักษ์ และ น.ส.ลลิตา ฤทธิวิชัย แฟนสาว ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลแขวงชลบุรี เลขที่ 15และ16/2559 ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2559 ในฐานความผิดร่วมกันยักยอกทรัพย์ผู้อื่น โดยตำรวจสามารถผู้ต้องหาจับกุมได้สถานีบริการน้ำมัน ปตท.หมู่ 4 ต.หนองจะบก อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา

พ.ต.อ.นิรันดร์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายได้ร้องเรียนผ่านทางตำรวจกองปราบปราม ว่าถูกนายณพสร สาพิทักษ์ ได้แอบอ้างเป็น บุตรชายอดีตนายทหารระดับแม่ทัพภาค เพื่อความน่าเชื่อถือเข้าตีสนิท จากนั้นได้หลอกให้ทำการติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์และได้ชักชวนผู้เสียหายให้ร่วมลงทุนเปิดร้านเสื้อผ้า ซึ่งผู้เสียหายหลงเชื่อคิดว่าเป็นบุตรของนายทหารชั้นผู้ใหญ่ดังกล่าวจริง จึงมอบเงินและติดเครื่องเสียงรถยนต์ให้ มูลค่าความเสียหาย 2 แสนบาท ต่อมาชุดสืบสวนได้สืบทราบว่าผู้ต้องหาได้ก่อเหตุหลายท้องที่และอยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุมและไปกบดานในพื้นที่จ.นครราชสีมา จึงได้นำกำลังเข้าจับกุม

ด้านนายณพสร ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นพ่อค้าขายนมเปรี้ยวและขายเสื้อผ้าตระเวนขายตามจังหวัดต่างๆ ที่ผ่านมา ก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง ได้เงินกว่า 3 ล้านบาท โดยมักจะอ้างเป็นบุตรชายนายทหารระดับสูง หากบางรายไม่เชื่อก็จะทำทีปลอมเสียงทางโทรศัพท์ โดยอ้างชื่อเสธ.อ๊อด เพื่อให้สร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งเงินที่ได้จากการหลอกผู้เสียหายก็จะนำไปใช้เล่นการพนัน และใช้จ่ายส่วนตัวเมื่อเงินหมดก็จะออกทำการหลอกลวงโดยใช้พฤติกรรมแบบเดิม

อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่นำชื่อนายทหารรายนี้ไปแอบอ้าง เนื่องจากมีคนทักว่านามสกุลไปคล้ายคลึงกับนายทหารคนดังกล่าว แต่โดยส่วนตัวยืนยันว่าไม่ได้รู้จักกับ เสธ.คนดังกล่าวเป็นการส่วนตัว

ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหารายดังกล่าว มีหมายจับติดตัวทั้งสิ้น 11 หมาย มีคดีที่ขาดอายุความและมีการตกลงค่าเสียหายกับผู้เสียหาย และถอนหมายจับอีกจำนวนหนึ่ง ปัจจุบันพบว่ายังเหลือหมายจับที่ต้องการตัวอีก 4 คดี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันยักยอกทรัพย์ผู้อื่น ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านบึง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป