“ฮอนด้า ซิตี้ 2017” (คลิป)

 “ฮอนด้า ซิตี้ 2017” (คลิป)

“เล่าเรื่องรถ” EP.1 รถต่างๆ ที่คุณอยากรู้ที่เราอยากเล่า กับกรุงเทพธุรกิจออโต้

ประเดิม EP แรกกับ “เล่าเรื่องรถ” EP.1 รถต่างๆ "ที่คุณอยากรู้ที่เราอยากเล่า" กับกรุงเทพธุรกิจออโต้
เมื่อมีโอกาสลองรถที่มีคนใช้มากที่สุดคันนึงในประเทศ เราจึงขอพามาให้ทุกคนได้ชมได้อ่านกันกับรถ “ฮอนด้า ซิตี้ 2017” ไมเนอร์เชนจ์ ทำไมคันนี้จึงมีแต่คนใช้.... บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เลยจัดมาให้ตามคำขอ...
รุ่น/ราคา ฮอนด้า ซิตี้ SV+ CVT ราคา 751,000 บาท

โดย ฮอนด้า ซิตี้ รุ่นนี้เปิดตัวตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2560 ที่ผ่านมานั้น ฮอนด้าเล่าว่ารถคันนี้พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิดหลักคือ “Advanced Energetic Smart Star” เป็นการยกระดับ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ให้เหนือกว่ารถยนต์รุ่นอื่นในระดับเดียวกัน ทั้งรูปลักษณ์ภายนอก และภายในที่โฉบเฉี่ยวในสไตล์สปอร์ตยิ่งขึ้น...

เล่าถึงดีไซน์ภายนอก
ภายนอกทาง ฮอนด้า ได้ใช้การออกแบบแบบ “Advanced Energetic Design”  แต่ดูโดยรวมก็ยังคงใช้ตัวถังเดิม แต่เปลี่ยนไปใช้ล้ออัลลอยแบบทูโทนขนาด 16นิ้ว พร้อมยาง Turanza ER370 185/55 ขอบ 16 พร้อมไฟหน้าแบบ LED และไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED นับเป็นครั้งแรกที่รถซับคอมแพคมีการติดตั้งไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ในทุกรุ่น โดยระบบไฟแบบ LED ประกอบไปด้วยแถวหลอด LED ที่เรียงตัวเป็นแนวยาว การสะท้อนแสงจากไฟ LED ด้วย Reflector ภายในโคมไฟ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นเส้นทางได้ชัดเจนยิ่งขึ้นในเวลากลางคืน กระจังหน้ายังถูกออกแบบด้วยดีไซน์แบบตะแกรง คาดด้วยแถบโครเมียม และตัวโลโก้ฮอนด้าขนาดใหญ่ และยังการออกแบบกันชนหน้าหลังใหม่ดูมีความเป็นสปอร์ตมากขึ้นอีกด้วย... ส่วนไฟท้ายยังคงรูปแบบเดิมไม่เปลี่ยน ตรงมือจับประตูยังใช้แบบโครเมียม เสาอากาศเป็นแบบครีบฉลาม กระจกมองข้างยังมาพร้อมไฟเลี้ยวในตัว
คะแนน

เล่าถึงดีไซน์ภายใน
ต้องบอกว่าชอบที่ ฮอนด้า ซิตี้ ยังคงใช้โทนสีดำเป็นหลักในห้องโดยสารของ ซิตี้ ไมเนอร์เชนจ์ แผงคอนโซลยังเป็นแบบเดิม ตรงหน้าปัดมาตรวัดแบบเรืองแสงออกแบบมามี 3 ช่อง ไล่จากซ้ายจะเป็นวัดรอบ ส่วนตรงการจะเป็นความเร็วพร้อมสีที่แสดงความประหยัด (ดูคลิป) ด้านขวาจะเป็นจอแบบดิจิตอลที่แสดงตัวเลขไมล์ที่วิ่งพร้อมวัดระดับน้ำมัน อุณหภูมิภายนอก พวงมาลัยมาพร้อมแบบมัลติฟังก์ชั่นที่มีปุ่ม กดลดเสียงเพิ่มเสียงและปุ่มกดรับวางโทรศัพท์ และยังระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย 7 สปีด มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control บนพวงมาลัยด้านขวา
วิทยุที่ให้มาแบบ 2DIN หน้าจอสัมผัสขนาด 6.8 นิ้ว พร้อมกับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธทั้งระบบ iOS และ Android และสามารถเชื่อมต่อ  USB และพอร์ต HDMI อยู่บนฟร้อนท์ทั้งหมด พร้อมลำโพงทั้งหมด 8 จุดรอบคัน หน้าจอแสดงภาพจากกล้องมองหลังสามารถปรับองศาได้ถึง 3 ระดับ ไล่ลงมาเป็นสวิตช์ควบคุมระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบสัมผัสที่ออกแบบมาหรูหราและด้านล่างสุดมากับช่องที่เสียบอุปกรณ์เช่น ที่ชาร์ต มือถือ ขณะที่บนเพดานด้านหน้ามีการติดตั้งไฟห้องโดยสารและไฟอ่านแผนที่ให้มาแบบสุดหรูกับไฟ LED อันนี้ส่วนตัวต้องให้คะแนนเต็มเลย
และยังให้อุปกรณ์มาตรฐานมาครบถ้วน รถระบบกุญแจอัจฉริยะทางฮอนด้าเรียก Honda Smart Key System และปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์  Honda Smart Key System พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ มาถึงตัวเบาะนั่งในรุ่น SV+ ถูกหุ้มด้วยวัสดุผ้าสีดำ ที่ออกแบบ ได้สวยพร้อมลูกเล่นของตัวผ้าที่ใช้หุ้ม เบาะนั่งฝั่งผู้ขับขี่สามารถปรับสูง-ต่ำได้ ที่ประทับใจคือพวงมาลัยสามารถปรับระดับได้ 4 ทิศทาง ทั้งขึ้น-ลง, เข้า-ออก ช่วยให้ปรับตามสรีระของผู้ขับขี่ได้ อันนี้ต้องยอมรับว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้ขับขี่อย่างมาก
ไล่มาดูขนาดของห้องโดยสารจะมีขนาดที่กว้างขวางทั้งคู่หน้าและบริเวณเบาะหลังที่ตอบสนองความสะดวกสบายของผู้โดยสาร กับพื้นที่วางขาที่ให้มาแบบเหลือๆ ในความรู้สึกผมว่ามีตอบสนองคนที่ต้องนั่งหลังนานๆ ได้ดี และตัว SV+ มีหมอนรองศีรษะมาถึงสามที่  ทำให้ข้างหลังสามารถนั่งได้สามคนจริงๆ แต่อาจจะเบียดกันบ้างถ้าแต่ละคนมีรูป่างขนาดใหญ่ อีกจุดที่นับว่าตอบสนองคนยุคปัจจุบัน ที่เหนือกว่ารถระดับเดียวกันคือ ช่องจ่ายไฟขนาด 12 โวลต์ ให้กับผู้โดยสารตอนหลังถึง 2 ตำแหน่ง อันนี้บอกเลยว่าสุโค่ยจริงๆ

เล่าถึงระบบความปลอดภัย
ระบบความปลอดภัยที่ให้มาถือว่าเกินคุ้มทีเดียว ที่จัดถุงลมนิรภัยมาให้ 6 จุดรอบคัน ทั้งคู่หน้า, ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด แถมให้จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX ระบบเบรก ABS/EBD, ระบบควบคุมเสถียรภาพ VSA, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA, ระบบไฟสัญญาณฉุกเฉินกะทันหัน ESS, ระบบล็อคประตูอัตโนมัติตามความเร็วรถ, เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าพร้อมระบบดึงกลับอัตโนมัติ,  ด้านหน้าให้ดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน ส่วนด้านหลังเป็นแบบดรัมเบรก ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบแม็กเฟอร์สัน สตรัท อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม H-shape พวงมาลัยไฟฟ้า EPS

เล่าถึงเครื่องยนต์
เครื่องยนต์ใน ฮอนด้า ซิตี้ ไมเนอร์เชนจ์ ยังคงเป็นแบบครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร SOHC 4 สูบ 16 วาลว์ พร้อมระบบ i-VTEC ให้กำลังสูงสุด 117 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 146 นิวตัน-เมตร ที่ 4,700 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT เมื่อใช้โหมด Manual หรือเกียร์ Paddle Shift สามารถปรับได้ถึง 7 สปีด
ระบบช่วงล่าง
   

เล่าถึงการขับสรุป
จากที่เราได้รถมาลองสักระยะจุดเด่นของรถคันนี้ คือ อุปกรณ์ที่ให้มากับรถมันครบไปหมดยิ่งถ้านับค่าตัวกับสิ่งที่ฮอนด้าให้มาผมว่าคุ้มค่าอย่างมากครับ! เรื่องความกว้างของภายในรถก็ต้องยอมรับว่ากว้างแต่จะไม่ถึงขนาดกว้างแบบรุ่นใหญ่แต่ก็สู้กับค่ายอื่นได้ไม่แพ้กัน! และที่ต้องชมอีกคือเรื่องความเงียบภายในห้องโดยสารทำได้ดี ถึงจะมีเสียงจากพื้นถนนเล็ดลอดเข้ามาบ้างก็รับได้ ยิ่งถ้าเปิดวิทยุก็จะกลบเสียงลมและรอยต่อถนนได้เป็นอย่างดี ส่วนช่วงล่าง ฮอนด้า ซิตี้ ไมเนอร์เชนจ์ มีความนุ่มนวลดีมากขึ้นลูกระนาดซับแรงได้ดี ยิ่งเวลาที่ขับผ่านหลุมสามารถผ่านไปได้ดี แต่ก็ยังแพ้รถยุโรปอยู่ดี แต่ราคาและส่วนต่างถือว่าลบข้อนี้ลงได้ และเมื่อเราได้ลองใช้ความเร็วบนถนนเส้นวงแหวนรอบนอกตะวันออก ฮอนด้า ซิตี้ ไมเนอร์เชนจ์ สามารถตอบสนองการขับได้อย่างดีท่ามกลางรถบรรทุกและการจราจลที่เต็มเป็นด้วยรถขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะกดคันเร่งมากน้อยก็วิ่งไปตามใจคิด ถึงขนาดเครื่องจะไม่ใหญ่ต้องแรกกับการกดคันเร่งมาก แต่การอัตตราสิ้นเปลื่องก็ทำได้ดียิ่งสามารถเติม น้ำมัน E85 ได้ยิ่งคุ้มจริงๆ ลืมบอกว่าความจุน้ำมันใน ฮอนด้า ซิตี้ ไมเนอร์เชนจ ให้มาที่ 40 ลิตรครับ ก็สามารถวิ่งได้เฉลี่ยถึงห้าร้อยกิโลเมตรทีเดียว ส่วนการตอบสนองของเกียร์ฉับไว และมาในลักษณะเกียร์ CVT ยิ่งคันนี้มี Paddle Shift ติดมาด้วยยิ่งทำให้การตอบสนองจากปลายนิ้วทำได้ดี  ก็ยิ่งขับสนุกมากขึ้นเวลาที่ใช้ ที่ไม่ชอบที่สุดก็คือ เงาสะท้อนของตัวคอนโซลที่สะท้อนกระจกข้างขวาทำให้เวลามองกระจกรถขวาด้านข้างมันดูเกะกะสายตาตลอดยกเว้นตอนกลางคืน และวิทยุมีการใช้ที่ยากมากการเชื่อมต่อมือถือ ios ทำได้ดี แต่ระบบ Android  เชื่อมไม่ได้ ท่านที่ซื้อคันนี้มีเวลาก็ลองดูครับเพราะผู้เขียนมีเวลาจำกัด

ต้องยอมรับว่ารถ ฮอนด้า ซิตี้ เป็นรถที่ขับสนุกถึงจะไม่ได้ทำความเร็วสูงมากนัก ก็ให้ความมั่นใจถึงการเร่งแซง หรือถึงแม้ช่วงจะหักหลบรถบรรทุกที่ตัดหน้าก็สามารถเบรคและหักหลบและเร่งหลบได้อย่างมั่นคง ตัวรถไม่ออกการวูบวาบเวลาที่ใช้ความเร็วสูงและเบรคของรถสั่งได้ดั่งใจผู้ขับ พวงมาลัยไฟฟ้าก็ตอบสนองการเลี้ยวได้ดีและพวงมาลัยมีน้ำหนักสักหน่อย สาวๆ อาจจะต้องออกแรงบ้าง แต่ก็สร้างความมั่นคงเวลาช่วงเลี้ยว และจุดเด่นอีกเรื่องคือน้ำหนักประตูที่มีบ้างแต่แลกกับเสียงของลมที่ลดและความเงียบที่ได้เพิ่มขึ้น และที่ต้องชื่นชมทาง ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย ที่จัดอุปกรณ์มาตรฐานมาให้กับ ฮอนด้า ซิตี้ มากกว่ารถระดับเดียวกัน ถือว่าคืนกำไรให้คนซื้อ....สามารถดู เล่าเรื่องรถ จากในคลิป

มาดูคะแนนว่ารถรุ่นนี้น่าซื้อหรือไม่ 8/10