กทม.สั่งเตรียมพร้อมรับมือฝนถล่มกรุง!!

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า จากการติดตามพยากรณ์อากาศกรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่าพายุเซินกา (Sonca) ได้อ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชั่น และแจ้งเตือนให้ประชาชนในหลายจังหวัดทางภาคเหนือและภาคอีสานเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ระหว่างวันที่ 27-29 กรกฎาคม ทางกทม. ได้ประสานกับกรมชลประทานในการบริหารจัดการน้ำที่เกิดจากอิทธิพลของพายุเซินกา ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาจะทยอยเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งกรมชลประทานจะควบคุมการระบายน้ำไม่ให้เกิน 1,500 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที และจะบริหารน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเข้าคลองชลประทานให้มากที่สุดตามศักยภาพของพื้นที่เพื่อไม่กระทบกับพื้นที่กทม.

อย่างไรก็ตาม ชุมชนที่อยู่นอกแนวคันกันน้ำจะต้องเฝ้าระวังกรณีระดับน้ำที่อาจจะสูงขึ้นอีก แม้ว่าในช่วงนี้จะคลายความกังวัลเรื่องน้ำหนุนไปบ้าง เพราะช่วงน้ำหนุนขึ้นสูงสุดผ่านไปแล้วเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา วัดระกับได้ที่ปากคลองตลาดอยู่ที่ระดับ +1.77 เมตร (ม.) จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ขณะที่แนวเขื่อนกั้นน้ำอยู่ที่ระดับ 2.80 ม. เหนือระดับน้ำทะเล โดยได้ให้สำนักงานเขตนำกระสอบทรายไปเสริมในจุดที่กำแพง ยังไม่สมบูรณ์เพื่อป้องกันน้ำทะลักเข้าชุมชนแล้ว

ในส่วนของพื้นที่กทม.ได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่จะมีกำลังแรงขึ้นส่งผลให้มีฝนตกหนักบางพื้นที่ในช่วงวันที่ 26-29 กรกฎาคมนี้ จึงได้กำชับให้ทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อพร้อมปฏิบัติการได้ทันทีในกรณีต้องเร่งระบายน้ำและช่วยเหลือประชาชน รวมถึงการเตรียมพร่องน้ำในคลองเพื่อรอรับน้ำฝน และเร่งลอกท่อระบายน้ำรอบที่ 2 ในส่วนถนนสายหลักดำเนินการแล้วเสร็จ ร้อยละ 98 ส่วนถนนสายรองคืบหน้ามากกว่าร้อยละ 85 และเก็บขยะ วัชพืช ผักตบชวา ในคูคลอง เพื่อเปิดทางน้ำไหลให้สะดวกยิ่งขึ้น แล้วเสร็จร้อยละ 82.48 โดยจุดที่ต้องเฝ้าระวังพิเศษจะต้องมีเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องสูบน้ำประจำ 24 ชั่วโมง ได้แก่ 1. ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ 2. ถนนรามคำแหง ซอย 1-5 3. ราชเทวี หน้ากรมปศุสัตว์ 4. ถนนศรีอยุธยา 5. ซอยสวนพลู 6. แยกเตาปูน 7. ถนนสนามไชย หน้าวัดโพธิ์ และ 8. ถนนพัฒนาการ หน้าโชว์รูมเบนซ์