จี้ศุลกากรประเมินภาษีรถหรู101คัน หลังคดีอืดไม่เดินหน้า

จี้ศุลกากรประเมินภาษีรถหรู101คัน หลังคดีอืดไม่เดินหน้า

"ดีเอสไอ" จี้กรมศุลฯเร่งประเมินรายการชำระภาษีรถหรูล็อตสอง จำนวน 101 คัน ล็อต 3 จำนวน 300 คัน จ่อส่งบัญชีราคาให้ประเมินเพิ่มล็อต 4 อีก 1,000 คัน แจงยังเรียกผู้นำเข้ารับข้อหาคดีอาญาไม่ได้จนกว่าศุลฯจะประเมินภาษีเสร็จสิ้น

แหล่งข่าวจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงการสอบสวนคดีการนำเข้ารถยนต์หรูหลบเลี่ยงภาษีศุลกากรว่า ขณะนี้ดีเอสไอรอเพียงกรมศุลกากรส่งรายการชำระภาษีในส่วนที่ไม่ครบถ้วนกลับมาให้ดีเอสไอดำเนินคดีอาญา

โดยกรมศุลกากรได้ประชุมประเมินอัตราภาษีล็อตที่ 2 จำนวน 101 คัน ไปแล้วตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้กรมศุลกากรยังไม่ส่งรายการประเมินกลับมายังดีเอสไอ ทำให้ยังไม่สามารถเรียกผู้นำเข้ารถยนต์หรูสำแดงราคาเท็จเข้ามารับทราบข้อหาในคดีอาญาได้ จนเป็นเหตุให้ดีเอสไอถูกผู้ประกอบการตำหนิว่าดำเนินการสอบสวนคดีล่าช้า ทำให้เสียหายจากการถูกอายัดรถยนต์เป็นเวลานาน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ดีเอสไอได้ส่งราคาซื้อขายจริงที่ได้รับมอบจากประเทศอังกฤษไปให้กรมศุลกากรประเมินรายการชำระภาษีแล้วรวม 3 ล็อต แบ่งเป็นล็อตแรก จำนวน 30 คัน ซึ่งกรมศุลกากรได้ส่งรายการภาษีในส่วนที่ขาดมาให้ดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหากับผู้นำเข้ารถยนต์หรู ทั้งบริษัทนิชคาร์ กรุ๊ป และบริษัทเอสที ที ออร์โต้เซอร์วิส จำกัด แล้ว ส่วนล็อตที่ 2 จำนวน 101 คัน และล็อตที่ 3 จำนวน 300 คัน ซึ่งกรมศุลกากรยังประเมินรายการชำระภาษีไม่แล้วเสร็จ นอกจากนี้ ดีเอสไอยังได้รับหลักฐานราคาซื้อขายที่แท้จริงจากประเทศอังกฤษเพิ่มมาอีก 1,000 คัน เตรียมส่งให้กรมศุลกากรประเมินรายการชำระภาษีเป็นล็อตที่ 4

แหล่งข่าวจากดีเอสไอ เปิดเผยด้วยว่า. สำหรับการสอบสวนคดีปลอมเอกสารประมูลรถยนต์ใช้แล้วของทางราชการ หรือยานพาหนะชำรุดของกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) โดยนำรถจดประกอบเข้ามาสวมบัญชีรถของทางราชการนั้น จะเริ่มมีความชัดเจนในสัปดาห์หน้า ขณะนี้ชุดสืบสวนกำลังเร่งแกะรอยเส้นทางนำเข้าของรถยนต์แต่ละคัน ซึ่งรถยนต์หรูราคาแพงส่วนใหญ่เป็นรถตกค้างจากการนำเข้ารถยนต์โดยการสำแดงเท็จเป็นรถจดประกอบ ซึ่งไม่สามารถยื่นจดทะเบียนได้ แต่กลุ่มผู้ประกอบการนำรถไปซ่อนไว้ตามฟรีโซนต่างๆ เพื่อรอทำหลักฐานจดทะเบียนก่อนนำออกจำหน่าย