'รมว.พาณิชย์'ปลื้มยอดการค้าชายแดน5เดือนโต5.2%

'รมว.พาณิชย์'ปลื้มยอดการค้าชายแดน5เดือนโต5.2%

"รมว.พาณิชย์" ปลื้มยอดการค้าชายแดน 5 เดือนโต5.2% หลังเดินหน้ารุกตลาดเพื่อนบ้านกลุ่ม CLMV สำเร็จตามเป้าหมาย พร้อมสั่งเจาะตลาดแบบต่อเนื่อง

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยตัวเลขมูลค่าการค้าชายแดนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านช่วง 5 เดือนแรกปี 2560 (ม.ค.-พ.ค.) ว่า มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการค้าชายแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์ และมาเลเซีย มีมูลค่า 445,541 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.2% สำหรับการค้าผ่านแดนไทยไปจีนตอนใต้ เวียดนาม และสิงคโปร์ มีมูลค่า 83,963 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.4% และหากรวมการค้าชายแดนและผ่านแดนมีมูลค่าทั้งสิ้น 529,504 ล้านบาท ขยายตัว 6.4% เกินดุลการค้าทั้งสิ้น 122,126 ล้านบาท จึงได้สั่งการให้ทุกฝ่ายร่วมกันเดินหน้าเจาะตลาดเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง

"การขยายตัวของการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนดังกล่าว เป็นผลมาจากการที่สินค้าและบริการของไทยเป็นที่ชื่นชอบและได้รับความเชื่อมั่นเรื่องมาตรฐานจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการขยายฐานการลงทุนและใช้แรงงานในเพื่อนบ้าน ทำให้เศรษฐกิจในจังหวัดชายแดน เช่น มุกดาหาร ตาก สระแก้ว และอีกหลายจังหวัดมีการเติบโตและขยายตัวอย่างชัดเจน เห็นได้จากธุรกิจค้าปลีกมีการเปิดสาขาในเมืองชายแดนและธุรกิจบริการ เช่น โรงพยาบาล โรงแรม ประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น การเดินทางเข้า-ออกที่สะดวก ทำให้เกิดการท่องเที่ยวจับจ่ายซื้อสินค้า ซึ่งถือเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจร่วมกันระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งการส่งออก – นำเข้า และการพัฒนาพื้นที่ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลไทยที่เน้นการเติบโตไปด้วยกัน หรือ Stronger together" นางอภิรดี กล่าว

ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์กำหนดให้มีการเชื่อมโยงและใช้ประโยชน์จากประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) และภูมิภาค ถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญของกระทรวงพาณิชย์ โดยเฉพาะการพัฒนาและส่งเสริมการค้าชายแดนที่ถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญประการหนึ่งที่ต้องผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยปัจจุบันอาเซียนเป็นตลาดการค้าหลักสำคัญของไทย ซึ่งปี 2559 ไทยมีการค้ากับอาเซียนรวม 3.21 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 22% ของมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับโลก ด้วยเหตุนี้ทำให้ประเทศเพื่อนบ้านของไทย ได้แก่ มาเลเซีย เมียนมาร์ กัมพูชา สปป.ลาว และเวียดนาม มีบทบาทสำคัญต่อยุทธศาสตร์การเข้าสู่อาเซียนของไทย ทั้งในฐานะคู่ค้าและหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญ

นอกจากนี้ การที่ประเทศไทยตั้งอยู่บริเวณจุดศูนย์กลางของอาเซียนและมีเขตแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ ทำให้ไทยมีศักยภาพเป็นศูนย์กลางด้านการคมนาคมและขนส่งสินค้าในอาเซียน ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพสูงที่มีขนาดประชากรประมาณ 600 ล้านคน และเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจขนาดใหญ่ในเอเชียทั้งจีนและอินเดีย ทำให้อาเซียนเป็นภูมิภาคที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นภูมิภาคที่มีความพร้อมด้านวัตถุดิบและทรัพยากรธรรมชาติ ความเชื่อมโยงกันภายในภูมิภาคอาเซียน จึงก่อให้เกิดการค้าการลงทุนภายในภูมิภาคเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน