MORNING CALL ACTION NOTES (24 ก.ค.60)

MORNING CALL ACTION NOTES (24 ก.ค.60)

Fund Flow ยังผันผวน

ตลาดหุ้นไทยวานนี้อ่อนตัวลงจากแรงขายกลุ่มธนาคารหลังกำไร Q2/17 หดตัวลงตาม NPL ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับ Fund Flow ต่างชาติที่ผันผวน ส่งผลให้ SET จะปิดที่ 1,573.51 จุด (-1.77 จุด) ด้วย Vol. 4.3 หมื่นลบ. โดย Foreign Net -548 ลบ. TFEX Net +5,929 สัญญา ส่วนตลาดตราสารหนี้ +1,491 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+/- ตลาดหุ้น DJ อ่อนตัวลง จากแรงกดดันกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง ประกอบกับความกังวลปัจจัยทางการเมืองสหรัฐจากการสืบสวนคดีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ จะส่งผลกระทบต่อการบริหารงานของประธานาธิบโดนัลด์ ทรัมป์

- ราคาน้ำมันปรับตัวลงแรงล่าสุด 45.7 US/Barrel จากคาดการณ์ว่าการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกเดือนก.ค. จะเพิ่มขึ้น 145,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 33 ล้านบาร์เรลต่อวัน

+/- Fund Flow ต่างชาติ Net Sell 3 วันราว 1.8 พันลบ. แต่ตั้งแต่ต้นเดือนก.ค.เป็น Net Buy 3.2 พันลบ. และเงินบาทแข็งค่าล่าสุด 33.4 Bath/USD

** 24 ก.ค. รัฐมนตรีน้ำมันจาก 5 ชาติของโอเปกจะประชุมร่วมกันที่รัสเซียเพื่อเสนอมาตรการกระตุ้นราคาน้ำมันและนำเข้าสู่ที่ประชุมโอเปกเต็มคณะในเดือนพ.ย.

** 27 ก.ค.รฟท.จะเปิดประมูล e-auction รถไฟฟ้าทางคู่ เส้นทางประจวบ –หัวหิน มูลค่า 7.3 พันล้านบาท

** การประกาศงบของ PTTEP SCC ADVANC ในสัปดาห์นี้

ภาวะตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยลบจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง ประกอบกับแรงกดดันจาก Fund Flow ต่างชาติที่ยังคงผันผวนต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามจะมีแรงซื้อสะสมกลุ่มหุ้นที่คาดว่างบ Q2/17 เติบโตช่วยพยุงดัชนีช่วงอ่อนตัว ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,565 – 1,580 จุด

กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยบวก

- SGP SPRC ESSO IRPC รับอานิสงส์เปิดเสรี LPG 1ส.ค.

- SYNEX COM7 SIS BIZ MGT กลุ่มนำเข้าได้ประโยชน์เงินบาทแข็งค่า

- กลุ่มที่คาดว่างบ Q2/17 จะเติบโตขึ้น CK BPP BANPU RS LH HARN WICE JWD LIT BIZ MGT ECF

- กลุ่มปันผลครึ่งปีสูง ADVANC INTUCH KKP TCAP LH SIRI TTW


หุ้นแนะนำพิเศษ

ATP30    (ราคาปิด 1.70 บาท ซื้อ ราคาพื้นฐาน 2.00 บาท )

• ดำเนินธุรกิจให้บริการรถรับส่งพนักงานในบริเวณรอบเขตนิคมอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก กลุ่มลูกค้าเป้าหมายครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัดได้แก่ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทราซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกอีอีซี ปลายมี.ค. 60 มีรถให้บริการรวม 237 คันแบ่งเป็นรถโดยสารที่บริษัทลงทุนเอง 180 คันและรถโดยสารร่วมบริการ 90 คันในการให้บริการลูกค้า 27 ราย

• คาดรายได้ปี 60 +15% เป็น 346 ล้านบาท และคาดการณ์กำไรปี 60 เติบโตราว 22% เป็น 27 ล้านบาท สำหรับปี 61 คาดรายได้ + 13% เป็น 390 ล้านบาท และคาดการณ์กำไรราว 31 ล้านบาทเติบโต 17%

• กำไรในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มดีกว่าครึ่งปีแรกจากการรับลูกค้าใหม่ที่จะเริ่มให้บริการตั้งแต่ 21 ก.ย. 60 ในการรับส่งพนักงานของบจ. ออโตลิฟ (ประเทศไทย) จำนวน 21 คัน สัญญาให้บริการ 4 ปี

หุ้นมีข่าว

TPCH (ราคาปิด 17.70 ซื้อ ราคาเหมาะสม 22.20) แย้มแผนงานครึ่งปีหลัง เล็ง COD โรงไฟฟ้าสตูล กรีน เพาเวอร์ กำลังการผลิต 10 เมกะวัตต์ในไตรมาส 4/2560 ดันกำลังผลิตครบสูตร 60 เมกะวัตต์ แถมกำไร-รายได้ส่อแววทำนิวไฮ เตรียมสรุปการลงทุนพลังงานน้ำในประเทศลาวเดือนกรกฎาคมนี้ (ที่มาทันหุ้น)

ความเห็น คาดว่าในครึ่งปีหลังผลประกอบการจะเติบโตอย่างโดดเด่นจากการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้า PGP กำลังการผลิต 10 MW ที่ COD ใน 3Q60 และโรงไฟฟ้า SGP กำลังการผลิต 10 MW ที่คาดว่าจะ COD ใน 4Q60 เพิ่มเติม โดยปี 60 เราคาดว่ากำไรจะเติบโตขึ้นสู่ระดับ 391 ล้านบาท +95%YoY

TM (ราคาปิด 3.10 ซื้อเก็งกำไร ราคาเหมาะสม 3.78) ส่งซิกผลงานไตรมาส 2/2560 ไปได้สวย ชี้ยอดขายพุ่ง แถมเดินหน้าลดต้นทุน ตั้งเป้าดันอัตรากำไรสุทธิแตะเลข 2 หลัก ส่วนปี 2560 มั่นใจว่ารายได้จะเติบโต 8-10% หรือแตะ 600 ล้านบาท เดินหน้าขยายสินค้าในโรงพยาบาลเพิ่ม เตรียมเซ็น MOU กับ 'BenQ' พันธมิตรไต้หวัน หวังแตกไลน์สินค้าในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ ซุ่มศึกษาขยายตลาด CLMV ต่อเนื่อง (ที่มาทันหุ้น)

ความเห็น แม้รายได้จะเติบโตแต่อัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงเป็นปัจจัยลบต่อการเติบโตของผลประกอบการ โดยอัตรากำไรขั้นต้นลดลงอย่างต่อเนื่องในปี 58 ที่ระดับ 47.55% ลดลงมาสู่ระดับ 41.32% ในปี 59 และในไตรมาส 1Q60 อยู่ที่ 41.14% ทำให้ผลประกอบการจะไม่ได้เติบโตโดดเด่นตามการเติบโตขายได้ เราจึงแนะนำเพียง “ซื้อเก็งกำไร”

JSP (ราคาปิด 1.0 ซื้อ ราคาเหมาะสม 1.36) ลุ้นผลงานทำนิวไฮโชว์ Backlog เต็มหน้าตัก 3 พันล้านบาท จ่อบุ๊กเข้าพอร์ตเกือบทั้งหมด ผู้บริหารมั่นใจยอดโอนมาตามนัด 4.5-5 พันล้านบาท พร้อมจัดทัพรุกแนวราบเต็มสูบ ดันสัดส่วนรายได้พุ่งชน 70% (ที่มา ทันหุ้น)

ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกต่อการปรับกลยุทธ์มาสู่ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายตั้งแต่ 4Q59 จากเดิมที่มีเพียงธุรกิจให้เช่าและการขายอาคารพาณิชย์ทำให้ฐานรายได้ปรับสูงขึ้น คาดกำไรปกติปี 60 ราว 336 ล้านบาทเติบโต 169%YoY ผลประกอบการมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกไตรมาสจากยอดโอนที่ไต่ระดับเพิ่มขึ้นใน Q2 – Q3 และคาดจะสูงสุดรายไตรมาสใน Q4 คาดกำไร 2Q60 มีแนวโน้มเติบโต YoY จากการรับรู้รายได้จากโครงการอสังหาฯเทียบกับ 2Q59 ที่มีรายได้จากการให้เช่าเป็นหลัก ทั้งนี้ผลการดำเนินปกติใน 2Q59 ขาดทุน 1.86 ลบ. เมื่อรวมกำไรจากการขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนทำให้มีกำไรสุทธิ 150 ลบ. สำหรับ 1Q60 มีกำไร 48 ล้านบาท

(+) PACE (ราคาปิด 2.64) ส่งซิก Q3/2560 เทิร์นอะราวด์เก็บเกี่ยวยอดโอน "มหานคร" เต็มพิกัด พร้อมเดินหน้าผุดคอนโดใหม่ 3.5 พันล้านบาท ปั๊ม Backlog เพิ่ม จากเดิม 1.54 หมื่นล้านบาท โซ้ยยาวถึงปี 2562 แถมลุยดีลพาร์ตเนอร์จีน เสริมแกร่งระยะยาวหวังเซ็นสัญญาได้ไม่เกินกันยายนนี้ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) กลุ่มโรงกลั่นและโรงแยกก๊าซ เปิดเสรีราคาก๊าซ LPG วันที่ 1 ส.ค.นี้ (ที่มาข่าวหุ้น)

      ความเห็น การลอยตัวก๊าซ LPG จะส่งผลดีต่อกลุ่มโรงกลั่นและโรงแยกก๊าซที่มีการกำหนดเพดานราคา LPG โดยโรงกลั่นที่ได้ประโยชน์มากที่สุดคือ SPRC ที่มีสัดส่วน LPG 5% รองลงมาเป็น TOP ที่มีสัดส่วน LPG 4%

(+) กลุ่มรับเหมาเอกชน 13 รายยื่นซองประมูลรถไฟทางคู่ สายนครปฐม-หัวหิน “UNIQ-ITD-CK-STEC” เข้าแข่งทั้ง 2 สัญญา วงเงินรวมกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท ลุ้นเคาะราคา 10 ส.ค.นี้ (ที่มาข่าวหุ้น)

(+) IEC เผยโรงไฟฟ้าชีวมวลสระแก้ว 1 กำลังการผลิต 5.85 เมกะวัตต์ (MW) กลับมาผลิตกระแสไฟฟ้าขายให้กฟภ.ตามสัญญา PPA แล้ว หลังปรับโครงสร้างหนี้เรียบร้อย


ตลาดหุ้นดาวโจนส์ -31.71 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,580.07 จุด ลดลง 31.71 จุด หรือ -0.15% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,472.54 จุด ลดลง 0.91 จุด หรือ -0.04% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,387.75 จุด ลดลง 2.25 จุด หรือ -0.04% โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (GE) หลังจากบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอุตสาหกรรมของสหรัฐรายนี้ เปิดเผยกำไรร่วงลงในไตรมาส 2 ขณะราคาน้ำมันที่ร่วงลงก็ได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานให้ปรับตัวลงด้วยเช่นกัน

ตลาดน้ำมัน NYMEX -1.15 USD/Barrel

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย ลดลง 1.15 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 45.77 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยสัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์ หลังบริษัทปิโตร-โลจิสติกส์ออกรายงานคาดการณ์ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะเพิ่มการผลิตน้ำมันในเดือนนี้ ก่อนที่การประชุมโอเปกและประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกจะเปิดฉากขึ้นในสัปดาห์หน้า

ส่องหุ้น

- UKEM แนวรับ 1.97-1.96 บาท แนวต้าน 2.02-2.04 บาท

- ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาทำ New high ในรอบ 3 สัปดาห์ โดยผ่านขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันได้ ด้วยปริมาณวอลุ่มที่เพิ่มสูงขึ้นพอสมควร ทำให้ MACD เริ่มดีดกลับขึ้นมาใกล้ทะลุระดับศูนย์อีกครั้ง หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันแถวๆ 1.97-1.96 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นปรับตัวขึ้นต่อได้แถวๆ 2.02-2.04 บาทได้ต่อไป

- TMB แนวรับ 2.36 บาท แนวต้าน 2.44 บาท

- ระดับราคาสามารถประคองตัวดีดกลับขึ้นมาได้อีกครั้งหลังจากไม่หลุดลงไปต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันและขยับขึ้นมาปิดได้ที่จุดสูงสุดของวันท่ามกลางวอลุ่มซื้อขายที่สูงมาก ในขณะที่ MACD เริ่มดีดกลับขึ้นมาอีกครั้ง หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 2.36 บาทซะก่อน มีโอกาสที่ระดับราคาจะดีดกลับขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบ 8 วันแถวๆ 2.44 บาทต่อไป

- EA แนวรับ 35.75 บาท แนวต้าน 37.25-37.50 บาท

- ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาทำ New high ในรอบ 2 สัปดาห์ หลังจากไม่หลุดลงไปปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน ในขณะที่ MACD ไม่หลุดลงไปต่ำกว่าศูนย์และเริ่มดีดกลับอีกครั้ง ประกอบกับวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นมาก หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 35.75 บาทอีก ระดับราคาน่าจะได้ลุ้นดีดกลับขึ้นทดสอบแนวต้านที่จุดสูงสุดเดิมในรอบ 1 เดือนแถวๆ 37.25-37.50 บาทต่อไป