เชนไทยรุกบริหารโรงแรมจีนเจาะเมืองรองรับดีมานด์

เชนไทยรุกบริหารโรงแรมจีนเจาะเมืองรองรับดีมานด์

ธุรกิจโรงแรมเชนไทยบุกเมืองรองจีน รับเทรนด์เศรษฐกิจ-ตลาดมิดสเกลขยายตัวสูง “ออนิกซ์” ตั้งเป้าเพิ่มพอร์ตแดนมังกร 30% จากเป้าหมาย 99 โรงแรมทั่วโลก พร้อมดันแบรนด์สยายปีก “อินเดีย”

นายดักลาส มาร์เทล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป กล่าวว่า ภายใต้เป้าหมายขยายการรับบริหารโรงแรมให้ได้ 99 แห่ง ภายในปี 2567 คาดว่าจะมีโรงแรมเปิดให้บริการในจีนเป็นสัดส่วนถึง 10% เนื่องจากเป็นจุดหมายที่มีปัจจัยบวกส่งเสริมตลาดหลายด้าน ได้แก่  จำนวนโรงแรมเดิมที่เปิดให้บริการสร้างชื่อเสียงในตลาดแล้วราว 10 แห่ง ในจำนวนดังกล่าวมีการเปิดตัวแบรนด์อมารีครั้งแรกที่หยางโจว ในไตรมาสนี้ด้วย  ที่เหลือเป็นแบรนด์โอโซ่ ที่เจาะตลาดระดับกลาง 1 แห่ง และชามา ซึ่งให้บริการที่พักระยะยาว 8 แห่ง

ปัจจัยต่อมา  มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจไปสู่เมืองลำดับ 2 และ 3 มากขึ้น ไม่กระจุกตัวเฉพาะเมืองขนาดใหญ่ เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้  

“เมืองรองต่างๆ มีฐานประชากรสูงในระดับ 10 ล้านคนขึ้นไป  และมีการหมุนเวียนด้านการท่องเที่ยวของประชาชนภายในประเทศที่แข็งแกร่ง ทำให้มีความต้องการพัฒนาโรงแรมใหม่ต่อเนื่อง”

ปัจจุบัน ออนิกซ์ มีโรงแรมที่กำลังพัฒนาในจีน 12 แห่ง และกระจายในพื้นที่หลากหลาย อาทิ เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง เฉินตู เซียะเหมิน กวางโจว และต้าชิง

ขณะเดียวกัน พฤติกรรมและความต้องการของตลาดในจีนเริ่มมีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ จากเดิมกลุ่มแบรนด์โรงแรมหรูมีการเติบโตเร็วที่สุด ขณะนี้เข้าสู่ยุคการเติบโตของที่พักระดับกลาง (มิดสเกล) และเรสซิเดนซ์ พบว่าเป็นที่ต้องการเพิ่มมากขึ้น และขยายตัวรวดเร็วกว่า ทำให้แบรนด์ชามาและโอโซ่ มีโอกาสอย่างมากในการเปิดตลาดในกลุ่มเมืองรอง

“เดิมการขยายโรงแรมในจีนจะพูดถึงเมืองลำดับชั้นที่ 1 (First Tier) แต่เวลานี้เมืองลำดับที่ 2 และ 3 เริ่มมาแรง  บางกรณีลงไปที่เมืองลำดับ 3 หรือ 4 แล้วก็มี”

นายดักกลาส กล่าวว่า นอกจากตลาดจีน จะให้ความสำคัญกับตลาดอินเดียมากขึ้น ซึ่งขณะนี้มีโรงแรมอยู่เพียง 1 แห่ง เชื่อว่าใน 10 ปีข้างหน้า  อินเดียจะเดินตามรอยการเติบโตเช่นเดียวกับในปัจจุบัน หากสามารถบริหารจัดการและปรับปรุงอุปสรรคสำคัญในเรื่องกฎระเบียบการก่อสร้าง เช่น จัดให้มีหน่วยงานแบบวันสต็อปเซอร์วิส ที่ช่วยเหลือด้านการลงทุนและก่อสร้างของนักลงทุนได้

อย่างไรก็ดี  ออนิกซ์ จะใช้วิธีการแสวงหาพันธมิตรในท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมการทำตลาดให้มีการเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว

ทั้งนี้ การขยายธุรกิจในอินเดียค่อนข้างยากกว่าจีน เช่น เมื่อซื้อที่ดินมาแล้ว ในจีนหรือไทยอาจใช้เวลาเพียง 2 ปี สามารถดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ แต่อินเดียอาจต้องใช้เวลา 4-6 ปี  

"อินเดียเป็นตลาดใหม่ที่ยังไม่มีคู่แข่งเข้าถึงมากเท่าที่อื่น”

อย่างไรก็ตาม นอกจาก ออนิกซ์  ยังมีผู้ประกอบการรับบริหารโรงแรมจากไทยที่เข้าไปบุกเบิกตลาดจีนแล้ว ได้แก่ เซ็นทารา ซึ่งรายงานผลการขยายกิจการโรงแรม เดือน พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ในปี 2561 จะมีการขยายไปยังจีนเพิ่ม 250 ห้อง และในปี 2562 เพิ่มอีก 346 ห้อง รวมเป็น 596 ห้อง 

ขณะที่กลุ่ม ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับกลุ่มบริษัท โดสเซ่น อินเตอร์เนชั่นแนล เครือธุรกิจใหญ่อันดับ 5 ของประเทศจีน เพื่อนำแบรนด์ดุสิตปริ๊นเซสไปขยายตามเมืองหลักต่างๆ ทั่วประเทศจีน 40 แห่ง ภายใน 5 ปี