หุ้นจีอีทุบตลาดฉุดดาวโจนส์ปิดลบ

หุ้นจีอีทุบตลาดฉุดดาวโจนส์ปิดลบ

หุ้นจีอีทุบตลาดฉุดดาวโจนส์ปิดลบเหตุนักลงทุนผิดหวังรายได้ดิ่งในไตรมาส 2

ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวันศุกร์(21ก.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น ในแดนลบ โดยถูกถ่วงลงจากการทรุดตัวของราคาหุ้นเจเนอรัล อิเลคทริค (จีอี) หลังเผยรายได้ดิ่งลง 12% ในไตรมาส 2

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ขณะที่ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลง 31.71 จุดหรือ 0.15% ปิดที่ 21,580.07 จุดดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลง 0.91จุดหรือ 0.04% ปิดที่ 2,472.54  จุด และดัชนีแนสแด็ก ลบ 2.25 จุดหรือ 0.04% ปิดที่   6,387.75 จุด

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นจีอีร่วงลงมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก

ทั้งนี้ หุ้นจีอี ทรุดตัวลง 5% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 19 เดือน หลังบริษัทเปิดเผยรายได้ดิ่งลง 12% ในไตรมาส 2 แม้โดยรวมบริษัทมีกำไรและรายได้สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์

จีอี ระบุว่า บริษัทมีกำไรสุทธิดิ่งลง 58% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สู่ระดับ 28 เซนต์ต่อหุ้น แต่ยังสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 25 เซนต์ต่อหุ้น

นอกจากนี้ บริษัท ระบุรายได้ที่ระดับ 2.956 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.902 หมื่นล้านดอลลาร์

ด้านบริษัทคอลเกต-ปาล์มโอลีฟ เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 2 โดยมีกำไร และยอดขายต่ำกว่าคาดการณ์ โดยมีกำไร 59 เซนต์ต่อหุ้น เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 72 เซนต์ต่อหุ้น

นอกจากนี้ บริษัทระบุยอดขายที่ระดับ 3.83 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.90 หมื่นล้านดอลลาร์

ส่วนฮันนีเวลล์ อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยี และภาคการผลิตของสหรัฐ เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 2 โดยมีกำไร และรายได้ดีกว่าคาดการณ์

ฮันนีเวลล์ระบุว่า บริษัทมีกำไร 1.80 ดอลลาร์ต่อหุ้น เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.78 ดอลลาร์ต่อหุ้น

นอกจากนี้ บริษัทระบุรายได้ที่ระดับ 1.008 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.89 พันล้านดอลลาร์

ขณะเดียวกัน นักลงทุนมีความกังวลต่อปัจจัยการเมืองของสหรัฐเกี่ยวกับความขัดแย้งในสภาคองเกรสในการผ่านร่างกฎหมายประกันสุขภาพของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับการที่รัสเซียเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีที่แล้ว ซึ่งอาจจะกระทบต่อความพยายามของปธน.ทรัมป์ในการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ