‘ซัมเมอร์ฮิลล์’ปักธง‘มิกซ์ยูส’สุขุมวิทรอบนอก

‘ซัมเมอร์ฮิลล์’ปักธง‘มิกซ์ยูส’สุขุมวิทรอบนอก

ทำเล “สุขุมวิทรอบนอก” กำลังเป็นจุดหมายดาวรุ่งในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายประเภทจาก “ดีมานด์” ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ “ซัพพลาย” ยังน้อย 

ปรับ ทักราล ประธานและกรรมการผู้จัดการกลุ่ม บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ย่านพระโขนงลงไปถึงสุขุมวิทรอบนอก เป็นทำเลที่ได้รับการพัฒนาน้อยมากในเชิงโครงการ “มิกซ์ยูส” ทั้งที่แนวโน้มความต้องการของตลาดถีบตัวสูงจาก 4 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ ที่พักอาศัย จำนวนกว่า 9,500 ยูนิต  มีอยู่แล้ว 7,200 ยูนิต กำลังเปิดใหม่อีก 2,300 ยูนิต อาคารสำนักงาน รวมกว่า 1.6 แสนตร.ม. โรงเรียนและมหาวิทยาลัยในรอบรัศมี 9 แห่ง  โรงพยาบาลหรือศูนย์การแพทย์อีก 5 แห่ง ตลอดแนวถนนสุขุมวิทและพระราม 4

เป็นโอกาสในการลงทุนและเปิดตัวโครงการมิกซ์ยูส ประกอบด้วย ศูนย์รวมร้านค้าเชิงไลฟ์สไตล์และอาคารสำนักงาน บนพื้นที่ 5 ไร่ หัวมุมถนนสุขุมวิทตัดพระราม 4 ติดสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส พระโขนง ภายใต้การลงทุนของ บริษัท บูทิค พระโขนง วัน จำกัด มูลค่า 550 ล้านบาท โดยงบ 250 ล้านบาทสำหรับการลงทุนพื้นที่ค้าปลีก และ 300 ล้านบาท สำหรับอาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีกส่วนเพิ่มเติม โดยเดือน ก.ย.นี้ จะเปิดตัวคอมมูนิตี้มอลล์ คาดอัตราการใช้พื้นที่ 70% คาดลูกค้าหมุนเวียน 1-1.2 หมื่นคนต่อวัน 

“วางตำแหน่งทางการตลาดของโครงการเป็นศูนย์รวมด้านไลฟ์สไตล์ รองรับการใช้ชีวิต ซึ่งเป็นจุดแข็งของการพัฒนาโครงการเน้นการเป็นแหล่งสังสรรค์พักผ่อนหย่อนใจมากกว่าพื้นที่ค้าขายสินค้าเหมือนศูนย์ค้าปลีกอื่นๆ”

ส่วนเฟส 2 เป็นอาคารสูง 5 ชั้น พื้นที่รวม 1 หมื่นตร.ม. ด้านบนเป็นอาคารสำนักงาน 5,000 ตร.ม. จะทำให้ซัมเมอร์ฮิลล์ มีความคึกคักมากขึ้นเมื่อเปิดบริการปี 2561

การเกิดขึ้นของโครงการมิกซ์ยูสในโซนสุขุมวิทตอนกลางเป็นต้นไป ยังไม่อยู่ในภาวะ “ล้นตลาด” เหมือนพื้นที่อื่นๆ โดยความต้องการพื้นที่สำนักงานยังมีอยู่มาก

ประเมินว่าภาวะโอเวอร์ซัพพลาย อาจเริ่มเห็นภาพหลังจาก 3 ปีจากนี้มากกว่า ในการเปิดตัวออฟฟิศให้เช่า เชื่อว่าจะทำราคาใกล้เคียงกับอัตราประเมินของโซนนอกทำเลหลักที่ 800-1,000 บาทต่อตร..”

ทั้งนี้ ในทำเลสุขุมวิทรอบนอก ยังมีโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ 2 แห่งเตรียมเปิดตัวในอนาคต ได้แก่ เซ็นจูรี่ เดอะ มูฟวี่ พลาซ่า สุขุมวิท 81 (สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส อ่อนนุช) ประกอบด้วย ศูนย์การค้า โรงภาพยนตร์ และโรงแรม ด้วยมูลค่าสูงกว่า 1,000 ล้านบาท รวมถึงโครงการวิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน ภายใต้การลงทุนของแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น ที่จะมีพื้นที่ไลฟ์สไตล์คอมเพล็กซ์กว่า 4 หมื่นตร.ม. บนทำเลใกล้สถานีบีทีเอส ปุณณวิถี และอยู่ในโซนเดียวกับคอนโดมิเนียมและอาคารสำนักงานที่กำลังพัฒนาควบคู่กัน

เชื่อว่าปริมาณความต้องการของตลาดในย่านนี้ ยังมีสูงมาก ทำให้ซัพพลายที่จะเพิ่มเข้ามาสามารถดูดซับไว้ได้ทั้งหมด เพราะนอกจากคอนโดมิเนียมตลอดแนวรถไฟฟ้าที่ทยอยเกิดใหม่แล้ว ยังมีผู้พักอาศัยหมู่บ้านทั้งเก่าและใหม่ตามซอยใหญ่ตลอดเส้นสุขุมวิท และหากมีสำนักงานให้เช่าเกิดใหม่ขึ้น โอกาสที่ประชากรจะย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่ในย่านนี้ก็จะเพิ่มขึ้นตามมา

ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทำเลเป็นสิ่งที่ทำให้ธุรกิจอยู่ได้ในระยะยาว ซึ่งซัมเมอร์ฮิลล์มีสิ่งที่ตอบโจทย์ตรงนี้ ด้วยการยึดทำเลที่ดีที่สุดไว้แล้ว คนที่มาทำงานตอนเช้าหรือเลิกงานกลับบ้าน สิ่งแรกที่ต้องเห็นโดดเด่นคือโครงการนี้ ประกอบกับที่ผ่านมาย่านพระโขนงมีการพัฒนาโครงการใหม่ต่ำมาก ทำให้เกิดการตอบรับที่ดี”

ทั้งนี้ ภาพรวมในการลงทุนของบริษัท เตรียมงบประมาณ 600-800 ล้านบาทต่อปี โดยโครงการซัมเมอร์ฮิลล์ สร้างรายได้เป็นสัดส่วน 5% เทียบรายได้ทั้งหมด แม้ว่าจะมีโครงการคอมมูนิตี้มอลล์แล้ว 2 แห่ง แต่ธุรกิจหลักที่ทำรายได้กว่า 80%  มาจากโรงแรม ปัจจุบันมีจำนวน 1,217 ห้องทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

สำหรับโรงแรมใหม่ที่จะเปิดตัวใน 2 ปีนี้ตั้งอยู่ใน 2 ทำเล ได้แก่ ป่าตอง ภูเก็ต ขนาด 200 ห้อง ใช้งบลงทุน 500 ล้านบาท และปักธงสร้างโรงแรมที่เชียงใหม่แห่งแรก ย่านนิมมานเหมินทร์ ใช้งบราว 600 ล้านบาท ซึ่งสองแห่งอยู่ระหว่างการพิจารณาเลือกแบรนด์เข้ามาบริหาร

“ยังคงมองการลงทุนโรงแรมเป็นหลัก เพราะเชื่อว่าการท่องเที่ยวจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศในระยะยาว"

ในกรุงเทพฯ มีโรงแรมกว่า 6 แห่ง ยังเป็นจุดหมายที่ให้ความสำคัญ ทั้งในรูปแบบโรงแรมหรือที่พักสำหรับระยะยาว แต่สำหรับภูเก็ตหรือเชียงใหม่ อาจจะมุ่งเป้าไปที่โรงแรมเพื่อรับนักท่องเที่ยวมากกว่า